สีกากีฉาวอีก สาวร้องพ่อถูกชนเสียชีวิต ตร.เรียกเงิน 2.5 แสน คดีไม่คืบ

Home » สีกากีฉาวอีก สาวร้องพ่อถูกชนเสียชีวิต ตร.เรียกเงิน 2.5 แสน คดีไม่คืบ


สีกากีฉาวอีก สาวร้องพ่อถูกชนเสียชีวิต ตร.เรียกเงิน 2.5 แสน คดีไม่คืบ

วงการสีกากีฉาวอีก ลูกสาวหอบหลักฐานร้องสายไหมต้องรอด พ่อถูกรถชนเสียชีวิต ตำรวจเรียกค่าดำเนินการ 250,000 บาท ไม่จ่ายคดีไม่คืบ

วันที่ 7 เม.ย. 2566 น.ส.จันทร์ธิดา พิทักษา อายุ 38 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับนายอาชาน โอภาสธนากูร เพจสายไหมต้องรอด กรณี นายหวอย พิทักษา อายุ 72 ปี บิดา ประสบอุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์ชนท้ายจักรยานยนต์ของบิดาขณะกำลังกลับบ้านจนเสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 2566 หลังเข้าแจ้งความที่ สภ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ถูกตำรวจเรียกเงินกว่า 250,000 บาท

น.ส.จันทร์ธิดา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุมีตำรวจ สภ.ลำปลายมาศ โทรมาแจ้งว่าทราบใช่ไหมว่าพ่อตายจะได้เงิน 500,000 บาท ตนจึงตอบว่าทราบ จากนั้นตำรวจได้ส่งโทรศัพท์ให้ชายอีกคนหนึ่งคุยโดยอ้างว่าเป็นทนายความ

น.ส.จันทร์ธิดา กล่าวต่อว่า ชายคนดังกล่าวบอกกับตนว่า “ขอพูดตรงๆ เลยนะ ผมขอ 250,000 บาท แล้วเดี๋ยวจะรีบทำเรื่องให้จบจะได้รับเงินภายใน 3 วัน 7 วัน” ตนจึงปฏิเสธ บอกว่าขอไปปรึกษากับญาติพี่น้องก่อน เนื่องจากมันมากเกินไป พ่อตายทั้งคนทำไมยังต้องมาเสียเงินให้ตำรวจอีก จากนั้นชายคนดังกล่าวก็วางสายไปน.ส.จันทร์ธิดา กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นตำรวจได้พยายามสอบถามเรื่องเงินอีกหลายครั้ง เมื่อเห็นว่าตนไม่ตกลงตามเงื่อนไข จึงไม่ยอมทำเรื่องเพื่อให้ตนและครอบครัวนำเอกสารไปเบิกเงินเยียวยาการเสียชีวิตจาก พ.ร.บ.ได้

น.ส.จันทร์ธิดา กล่าวต่อว่า ตนได้พูดคุยกับคู่กรณีแล้ว คู่กรณีแจ้งว่าทางตำรวจพยายามจะให้คู่กรณีเข้าไปให้ปากคำใหม่ แต่คู่กรณีปฏิเสธ และให้ข้อมูลกับตนว่าตำรวจมีความพยายามจะให้กลับคำให้การ แต่คู่กรณียืนยันว่าไม่กลับคำให้การ เพราะยอมรับผิดไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าเป็นฝ่ายประมาทและผิดจริง น.ส.จันทร์ธิดา กล่าวอีกว่า ตนเห็นว่าพ่อเสียชีวิตมากว่า 3 เดือนแล้ว คู่กรณีก็รับว่าเป็นฝ่ายผิด เหตุใดตำรวจจึงมาเรียกเงินตนอีก ตนไม่รู้จะไปพึ่งใคร จึงตัดสินใจเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อร้องขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอดนายอาชาน โอภาสธนากูร ทีมงานสายไหมต้องรอด ประสานไปยัง พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผกก.สภ.ลำปลายมาศ เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป หากพบว่ามีการเรียกรับเงินจริงถือว่าเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องเอาผิดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ