.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
ศิษยานุศิษย์แห่อาลัย “หลวงปู่อำคา ถาวโร” เกจิอาจารย์ดังเมืองเพชรบูรณ์ พระผู้มีแต่ความเมตตา ละสังขารแล้ว สิริอายุ 97 ปี 78 พรรษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูอดุลพัชราภรณ์ หรือ หลวงปู่อำคา ถาวโร พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ละสังขารด้วยอาการอันสงบ ที่โรงพยาบาลวิเชียรบุรี หลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 16.08 น.
สร้างความเศร้าโศกอาลัยแก่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก โดยได้อัญเชิญสรีระสังขารของท่านมาไว้ที่วัดประชานิมิต และจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพในวันที่ 11 ก.พ. เวลา 17.00 น. โดยพระสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชนได้มีการประกอบพิธีขอขมากรรม และสรงน้ำสรีระสังขารตั้งแต่เวลา 13.00-16.20 น. ณ ศาลาการเปรียญวัดประชานิมิต
ทั้งนี้ สิ่งที่หลายคนเฝ้าจับตาคือทะเบียนรถเคลื่อนสรีระร่างของหลวงปู่อำคา นั้นคือ กบ 2586 ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นเลขมงคล ลุ้นโชคในงวด 16 กุมภาพันธ์ 2568 ที่จะถึงนี้
Facebook / วัดประชานิมิต อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์
เปิดประวัติ หลวงปู่อำคา ถาวโร
สำหรับชีวประวัติ พระครูอดุลพัชราภรณ์ พระครูอดุลพัชราภรณ์ หรือ หลวงปู่อำคา ถาวโร เดิมชื่อ อำคา หอมมาลา โยมบิดาชื่อ นายบาง โยมมารดาชื่อ นางไฝ เกิดเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2470 ตรงกับวันเสาร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ณ บ้านเลขที่ 97 หมู่ 8 ต.หนองพลวง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา
อุปสมบทเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2490 ณ วัดหันห้วยทราย ต.หันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา โดยมี พระครูวิโรจนคุณ วัดหันห้วยทราย ตำบลหันห้วยทราย เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า ถาวโร
หลังอุปสมบทมุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ที่สำนักศาสนศึกษาวัดสวัสดี สำนักเรียนคณะจังหวัดขอนแก่น เมื่อปี พ.ศ. 2494
หลังจากนั้นได้เดินทางกลับมายังบ้านเกิดอีกครั้ง
และเมื่อวัดหนองค่าย ต.หนองค่าย อ.ประทาย ไม่มีพระอยู่จำพรรษา ชาวบ้านจึงได้นิมนต์ให้ท่านมาจำพรรษา และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสพร้อมกับได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบล เขต 2 อำเภอประทาย
ต่อมาในปี พ.ศ. 2502 หลวงปู่อำคาได้ออกเดินธุดงค์ผ่านดงพญาเย็น มายังอ.วิเชียรบุรี และอยู่จำพรรษาที่วัดหนองสองห้อง ซึ่งเป็นชื่อเดิมของวัดประชานิมิต จวบจนกระทั่งปัจจุบัน
สำหรับการศึกษา
- พ.ศ. 2494 สอบได้ นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ สำนักศาสนศึกษาวัดสวัสดี สำนักเรียนคณะจังหวัดขอนแก่น ตำแหน่งฝ่ายปกครอง
- พ.ศ. 2507 เป็น เจ้าคณะตำบลท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ พ.ศ. 2518 เป็น เจ้าอาวาสวัดประชานิมิต โดยชาวบ้านเรียกท่านว่า “หลวงพ่อใหญ่”
- พ.ศ. 2518 เป็น เจ้าคณะอำเภอวิเชียรบุรี
- พ.ศ. 2550 เป็น ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอวิเชียรบุรี
- พ.ศ. 2564 เป็น ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์
หลวงพ่อท่านเป็นพระที่ชาววิเชียรบุรี เคารพศรัทธามาก วัตถุมงคลที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่าน ล้วนแต่เกิดประสบการณ์อภินิหาร แคล้วคลาดจากภยันตรายมานับไม่ถ้วน ในเรื่องของเมตตามหานิยม วัตถุมงคลของท่านก็เด่นทางด้านทำมาค้าขาย เรียกได้ว่า พุทธคุณครอบจักรวาล ใครมีก็ต่างหวงแหน
ซึ่งพุทธคุณของวัตถุมงคลที่หลวงพ่อท่านปลุกเสก เป็นที่ประจักษ์มานักต่อนัก ในปี 2519 หลวงพ่อผางท่านได้มาอธิษฐานจิตปลุกเสกเหรียญรุ่นแรก ในงานฝังลูกนิมิต ที่วัดประชานิมิต ซึ่งหลวงพ่อผางท่านเป็นพระสายปฏิบัติ สายธรรมยุทธ ซึ่งเคร่งครัดในกิจของสงฆ์เป็นอย่างยิ่ง
ทำให้วัตถุมงคลของท่านเป็นที่หวงแหนของชาววิเชียรบุรีเป็นอย่างมาก ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ชาววิเชียรบุรี ขึ้นไปกราบ หลวงพ่อคูณ ณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา หลวงพ่อคูณถามว่า “มึงมาจากไหน” เขาก็ตอบหลวงพ่อคูณว่า มาจากวิเชียรบุรี หลวงพ่อคูณได้ยินดังนั้นก็กล่าวขึ้นมาว่า “มึงไปกราบหลวงพ่อใหญ่” ซึ่งก็คือพระครูอดุลพัชราภรณ์ หรือ หลวงปู่อำคา เถอะ ไม่ต้องมากราบกูของดีอยู่ที่บ้านมึงนั่นแหละ
หลวงปู่อำคา เป็นผู้ที่มีเมตตามากศิษยานุศิษย์ที่ไม่ว่าจะเดินทางมาใกล้ไกลขนาดไหนท่านก็ให้เข้าพบและให้พรทุกๆคนไม่ว่าเวลาไหน กระทั่งต่อมาท่านมีร่างกายอ่อนเพลียประกอบกับอายุมากจึงได้อาพาธ
ศิษยานุศิษย์ได้นำเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวิเชียรบุรีตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคม 2568 แต่เนื่องจากหลวงปู่ท่านชราภาพมากแล้วจึงได้ละสังขารด้วยอาการอันสงบเมื่อวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 16.08 น. สร้างความเศร้าโศกอาลัยแก่ศิษยานุศิษย์และชาวเพชรบูรณ์เป็นอย่างมาก