นอกจากห้องครัว ห้องน้ำอาจเป็นห้องที่ทำงานหนักที่สุดในบ้าน เพราะห้องน้ำเป็นทั้งที่ที่เราอาบน้ำ รักษาสุขภาพฟัน แต่งหน้า สวมหน้ากาก ฯลฯ ด้วยความอเนกประสงค์ของห้องน้ำ จึงจำเป็นที่ห้องน้ำต้องมีที่เก็บของที่เหมาะสม แต่การจัดเก็บที่เหมาะสมในห้องน้ำไม่ได้หมายความว่าเพียงแค่มีชั้นวางของที่เพียงพอเท่านั้น

มี 3 ประเด็นที่ต้องพิจารณาเพื่อวางแผนการจัดเก็บสำหรับพื้นที่ในห้องน้ำ

1. ความร้อนและความชื้น : โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับห้องน้ำที่ไม่มีการระบายอากาศที่เหมาะสมคือ หน้าต่าง พัดลม ฝักบัวน้ำอุ่น และอ่างอาบน้ำ สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เกิดเชื้อราได้
2. มีของชิ้นเล็กชิ้นน้อยเต็มไปหมด : อุปกรณ์อาบน้ำและผลิตภัณฑ์แต่งหน้าอาจทำให้การจัดองค์ประกอบต่างๆ ยากขึ้น
3. อุปกรณ์ไฟฟ้าในห้องน้ำ : ไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟันไฟฟ้า มีดโกน และเครื่องเป่าผมอาจเป็นเรื่องยากสำหรับการจัดเก็บ

   และนี่คือ 6 สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อคิดจะวางอะไรไว้ในห้องน้ำ 

1. ตู้แบบปิดเหมาะสำหรับห้องน้ำขนาดเล็ก เรามักชอบชั้นวางแบบเปิดในห้องครัว แต่ในห้องน้ำเราแนะนำเป็นชั้นวางของแบบมีประตูและลิ้นชักเพื่อซ่อนหรือปิดสิ่งของที่ไม่น่าสนใจของกิจวัตรประจำวันเพื่อการเตรียมความ
   พร้อมของคุณ
2. เต้ารับไฟในตู้บิวท์อินเป็นสิ่งจำเป็น หากคุณใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องชาร์จ เช่นแปรงสีฟัน มีดโกน การมีเต้ารับในตู้ยาจะมีประโยชน์มาก ด้วยวิธีนี้คุณสามารถเก็บสิ่งของเหล่านั้นและสายไฟที่ไม่น่าดูให้พ้นทางและหลังจากปิดประตูได้
3. หาจุดสำหรับเครื่องเป่าผมโดยเฉพาะ อาจเปลี่ยนชีวิตได้เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกตัวหนึ่งที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บเฉพาะคือไดร์เป่าผมของคุณ คุณสามารถซื้อซองหนัง หรือขอเกี่ยวที่ออกแบบมาเพื่อเก็บสิ่งของหรือจะแขวนไว้ในตะกร้าสวยๆ หรือถุงตาข่ายก็ได้ 
4. ผ้าเช็ดมือต้องมีมากกว่าหนึ่งผืน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าผ้าเช็ดมือควรซักทุก 2-3 วัน และเนื่องจากเราไม่เชื่อว่าสมาชิกทุกคนในบ้านจะใช้สบู่เมื่อพวกเขาล้างมือ ดังนั้นจึงควรทำเช่นนั้น นอกจากนี้ผ้าเช็ดตัวเปียกเป็น
   แหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียที่น่ารังเกียจทุกประเภท ดังนั้นควรเก็บผ้าเช็ดตัวไว้ในห้องน้ำเพื่อจะได้เปลี่ยนใหม่ได้ง่าย
5. ยาไม่ควรเก็บไว้ในตู้ยา สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในการจัดเก็บยาอยู่ในตู้ยานั่นเป็นเพราะความร้อน และความชื้น ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นเรื่องปกติในสถานที่ที่เราอาบน้ำ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาหลายชนิด
6. แปรงล้างห้องน้ำต้องผ่านการฆ่าเชื้อ เป็นไปได้มากว่าคุณจะทำในสิ่งที่หลายๆ คนชอบทำกันคือหลังทำความสะอาดห้องน้ำด้วยแปรงขัดห้องน้ำแล้วคุณทำความสะอาดแปรงขัดห้องน้ำด้วยวิธีให้น้ำไหลผ่านเท่านั้น แต่คือคุณยังไม่ได้ทำความสะอาดแปรงล้างห้องน้ำอย่างแท้จริงดังนั้นคุณควรต้องฆ่าเชื้อแปรง ไม่ว่าจะฆ่าเชื้อด้วยสารละลายฟอกขาวหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์