ความคืบหน้ากรณี ทักษิณอยู่นอกคุกเกิน 120 วัน ยังคงเป็นที่น่าจับตามองสำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 66 แล้วถูกส่งตัวไปยัง เรือนจำพิเศษกรุงเทพทันที แต่เมื่อช่วงเย็น ก็ได้เกิดอาการป่วยกำเริบ จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่คืนวันนั้น

ขณะที่มีรายงานว่า อัยการสูงสุดมีหนังสือ ระบุมีความเห็นสั่งฟ้องนายทักษิณในคดีความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แจ้งไปยังกรมราชทัณฑ์แล้ว พนักงานสอบสวน และอัยการ จึงมีหนังสือแจ้งการอายัดตัวนายทักษิณตามหมายจับ

ล่าสุด วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด แจ้งผู้สื่อข่าวนัดแถลงข่าว กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร หลังมีข่าวอาจถูกอายัดตัวต่อ

คำแถลง

นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า สำนักงานอัยการสูงสุด แถลงความคืบหน้ากรณี นายทักษิณ ชินวัตร ตามที่ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2559 สำนักงานอัยการสูงสุดได้รับสำนวนคดีการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร จากพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ตต้องหา ข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลใดๆอันเป็นเท็จ

เหตุเกิดเมื่อ วันที่ 21 พ.ค. 2558 ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีใต้ และประเดทศไทยเกี่ยวพันกัน ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดที่มีการกล่าวหาว่าเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เนื่องจากคดีนี้เป็นความผิดที่เป็นโทษตามกฎหมายไทย จึงเป็นคดีที่อยู่แำนาจของท่านอัยการสูงสุดเป็นผู้รับผิดชอบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 ได้มีการตรวจพิจารณาสำนวนดังกล่าวแล้ว ได้ลงความเห็นและคำสั่งทางคดีเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2559 โดยมีความเห็นควรสั่งฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ตามข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนเสนอมา แต่เนื่องจากขณะนั้น ผู้ต้องหาได้หลบหนี อัยการสูงสุดในขณะนั้น จึงแจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการออกหมายจับ

และต่อมาได้มีคำขอต่อศาลอาญา ทางศาลอาญา ก็ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้ในอายุความ 15 ปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ ซึ่งอายุความคดีนี้จะขาดในวันที่ 17 พ.ค. 2573

ต่อมา วันที่ 22 ส.ค. 2566 นายทักษิณ ได้เดินทางกลับประเทศไทย และถูกควบคุมเพื่อได้รับโทษทางคดีอาญา และอื่นๆ พนักงานสอบสวนได้มีการยื่นหนังสือขอคุมตัวนายทักษิณ กับกรมราชทัณฑ์เป็นที่เรียบ้อย

วันที่ 17 ม.ค. 2567 นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีการอัยการสำนักงานสอบสวน และคณะ และพนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายทักษิณทราบแล้ว ด้านนายทักษิณให้การปฏิเสธ พร้อมกับยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด

ต่อมาอธิบดีอัยการสำนักงานสอบสวน ได้ส่งบันทึกคำให้การคำสอบสวนนายทักษิณ พร้อมหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ให้กับพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบ เพื่อรวบรวมเพื่อส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา สำนวนคดีนี้อยู่ระหว่างพิจารณา ในการตรวจพิจารณามีความเห็นและคำสั่งทางคดีต่อไป

ภายหลังแจ้งข้อกล่าวหากับนายทักษิณแล้ว ได้มีการสอบคำให้การนายทักษิณ ได้มีการ้องขอความเป็นธรรม มีผลในการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ฟ้องไปหรือไม่

นายณรงค์ ศรีระสันต์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เบื้องต้น ยังไม่มได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่ตอนนี้ไปแจ้งข้อกล่าวหาแล้วทราบต่อมาว่าท่านยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเข้ามาด้วย ตรงนี้ก็นำมาพิจารณาในการทำความเห็นต่อไป

ในเบื้องต้นที่มีความเห็นควรสั่งฟ้องเอาไว้ (17 ม.ค. 67) และเอาตัวกลับมา แต่ก็ยังไม่มีการแจ้งข้อหาซึ่งวันนั้นที่กลับมา นายทักษิณ ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมไว้ด้วยซึ่งยังอยู่ในกระบวนการสืบสวน เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมไว้ด้วย

หลังจากนั้นจะฟังความทุกฝ่ายแล้วจึงจะพิจารณาอีกครั้ง และนำเสนออัยการสูงสุด เมื่อได้รับสำนวน ขั้นตอนจะแบ่งได้ 3 กรณี

1.ถ้ามีประเด็นที่ควรสอบสวนเพิ่มท่านอัยการก็จะสั่งสอบเพิ่ม
2.ถ้าสำนวนครบถ้วนแล้ว หลักฐานพยานสิ้นสงสัย คำสั่งของอัยการสูงสุดก็จะเป็นการสั่งฟ้อง
3.ถ้าสำนวนบอกว่าผู้กล่าวหาไม่ได้กระทำผิดตามที่กล่าวหา ก็จะกลายเป็นสั่งไม่ฟ้อง

ส่วนท่านอัยการสูงสุด จะมีความเห็นประการใด เรียกว่ายังเร็วเกินไปที่จะไปสรุปตรงนั้น กรอบเวลาการสอบสวน คงไม่มีกรอบระยะเวลา ถ้าไม่มีประเด็นสอบสวนเพิ่มเติมก็คงไม่ล่าช้า แต่ถ้ามีมันก็คงไม่มีกรอบเวลา เพราะเป็นประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการหลายหน่วย ไม่สามารถกำหนดกรอบระยะเวลาการทำงานได้

ประเด็นการได้พักโทษ

ตอนนี้ คำสั่งที่จะพักโทษ ทางกรมราชทัณฑ์ ยังไม่มีคำสั่ง แต่ทางพนักงานสอบสวน ได้มีการแจ้งอายัดตัวนายทักษิณในคดี ม.112 ไว้แล้วเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 โดยการอายันตัวนั้นมีผลอย่างไร คือคดีนี้ถ้ามีการพักโทษ เรือนจำต้องแจ้งไปสอบสวนให้มารับตัวทักษิณไว้เพื่อมาดำเนินการควบคุม

จากนั้นก็เป็นดุลยพินิจ ของสอบสวน ว่าจะปล่อยตัวระหว่างสอบสวนมั้ย หรือเป็นฝากขัง ในคดี ม.112 ตอนนี้สื่อคงติดตามอยู่ 2 เรื่อง นั้นคือการพักโทษ และการคุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำ

ในวันที่เขาจะพักโทษ ราชทัณฑ์จะแจ้งแก่พนักงานสอบสวนล่วงหน้าประมาณ 7 วัน และพนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาอีกทีว่าจะมารับตัวหรือไม่ หากมารับ นายทักษิณก็จะไม่ได้รับการเบิกตัวจากคดีเก่าแล้ว แต่ถ้าทางสอบสวนไม่รับ นายทักษิณก็จะได้พักโทษปล่อยตัวไปยังที่อยู่ของตนเองหรือที่ที่กรมราชทัณฑ์กำหนด และยังต้องมารายงานตัวตามกระบวนการกฎหมาย หากไม่มีการมารายงานตัวหรือหลบหนี นายทักษิณก็จะโดนแจ้งข้อหาเช่นกัน

วันที่ 17 มกราคม 2567 วันที่สอบสวน ทราบแค่ว่านายทักษิณให้การปฏิเสธ และยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม งานฝั่งโฆษกฯ เราไม่มีข้อมูลนี้ ตราบใดที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นถึงขั้นอัยการสูงสุด นายทักษิณก็มีสิทธ์ในการต่อสู้คดีอย่างถึงที่สุด

ขอยืนยันว่าการทำงานของสำนักงานอัยการสูงสุด อยู่ภายใต้พยานหลักฐาน เราให้ความมั่นใจต่อพี่น้องสื่อมวลชนได้ ไม่ต้องกังวล เราทำงานตามกระบวนการกฎหมาย หน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุดคือต้องแถลงชี้แจงให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่น ในการทำงานของกระบวนการกฎหมายบ้านเรา