สำนักพุทธฯ เผยคณะสงฆ์ เคยเตือน ‘หลวงปู่เคราเงิน’ แล้ว แต่ยังไม่โกนออก ข้องใจถ้าทำแล้วป่วยจริงหรือไม่ ฝากขอให้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย
กรณีพบ หลวงพ่อพรชัย พุทธสาโร เจ้าสำนักสงฆ์น้ำย้อย ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างไปจากพระสงฆ์ไทยทั่วไป เพราะมีเคราสีเงินยาวมากจนถึงตัก ซึ่งหลวงพ่อพรชัย เป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทำให้พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานนี้ พากันมากราบไหว้ด้วยความเคารพศรัทธาเป็นอย่างมาก และพากันขนานนามท่านหลวงพ่อพรชัยว่า หลวงปู่เคราเงิน
โดย หลวงพ่อพรชัย เผยว่า การที่ไม่โกนเครานั้น เนื่องจากได้ให้สัจจะวาจากับครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือที่ได้ยินมา ซึ่งการไว้เครานี้ไม่ได้ทำอะไรให้พุทธศาสนาเสียหาย ก็อยู่ตามธรรมชาติของพระสงฆ์โดยเอาเคราออกนิดหนึ่งปรากฏว่าทำให้ป่วยสามวัน จึงไม่แตะต้องเคราอีกเลย จากนั้นไม่ตัดเคราอีกเลยจึงอยู่มาอย่างนี้ จนถึงปัจจุบันนี้ขณะนี้ได้ 30 กว่าพรรษาแล้ว
- พระสงฆ์ไทย เครายาวที่สุดในโลก หลวงปู่เผยสาเหตุ ย้อนไป 30 ปีก่อน
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 16 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นางวิมลพรรณ พงษ์ภา นักวิชาการศาสนา ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องนี้เมื่อประมาณปี 2564 มีสำนักข่าวลงคลิปของพระรูปนี้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษได้ประสานงานไปทางคณะผู้ปกครองสงฆ์ ทางท่านได้แต่งตั้งคณะกรรมการลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยคณะสงฆ์ได้ว่ากล่าวตักเตือนไปแล้วว่า ให้ท่านปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ซึ่งเมื่อมีข่าวนี้ขึ้นมาอีก ตนได้ประสานงานไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์อีกครั้งหนึ่งแล้วเพื่อให้ขอให้ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้
นางวิมลพรรณ กล่าวต่อไปว่า ส่วนการที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะได้สั่งการลงมาให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้นั้น ตนต้องดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่หน้าที่ ซึ่งเราไม่มีอำนาจหน้าที่ในการไปตรวจสอบ แต่ว่าจะต้องประสานงานไปทางเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์เพื่อขอให้ดำเนินการในเรื่องนี้ คือ พระครูศรีโพธาลังการ เจ้าคณะอำเภอขุนหาญ เพื่อขอให้ดำเนินการต่อไปตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งหากท่านไม่ยอมโกนเคราโกนผมต้องดำเนินการตามวินัยสงฆ์ อาจเป็นการว่ากล่าวตักเตือน ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะสงฆ์
ตนฝากขอความเมตตาไปถึงหลวงพ่อพรชัยว่า ขอความเมตตาจากท่านขอให้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของคณะสงฆ์ก็คงฝากได้เท่านี้ เนื่องจากว่าอำนาจหน้าที่เป็นของเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะตำบลตามลำดับ ซึ่งเรื่องนี้คณะสงฆ์ได้เคยว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว
ส่วนการที่ท่านอ้างว่า หากโกนผมแล้วจะทำให้ป่วยนั้นเรายังไม่เห็นว่าท่านโกนผมโกนเคราแล้ว จะป่วยแต่อย่างใดหรือว่าไม่สบายแต่อย่างใด เพราะยังไม่ทราบว่าท่านเป็นตามที่ท่านกล่าวอ้างจริงหรือไม่ เพราะว่าตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือนไปแล้วท่านยังไม่ยอมโกนผมโกนเครา ซึ่งเรื่องนี้ได้ประสานงานให้คณะสงฆ์อำเภอขุนหาญและเจ้าคณะตำบลบักดองได้ดำเนินการต่อไปแล้ว