จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพป้ายทะเบียนรถจำนวนมาก วางเรียงกันบนโต๊ะ โดยเขียนข้อความระบุว่า เป็นป้ายที่หลุดหายตอนน้ำท่วม โดยมีคุณลุงรายหนึ่งไปตามเก็บรวบรวมมาไว้รอเจ้าของมาติดต่อรับคืน แต่ปรากฎว่าเมื่อเจ้าตัวไปขอรับคืน กลับถูกเรียกเงินค่าเก็บใบละ 100 บาท ข้อความในโพสต์ระบุว่า
แบบนี้ก็ได้เหรอ? น้ำท่วม ป้ายหลุด เขาก็ต้องไปหาอยู่ดี ถึงลุงไม่หาเขาก็ต้องหาอยู่ดี แล้วมาเรียกเก็บใบละ 100 บาท แล้วดูกี่ใบ กะรวยเหรอถามจริง
เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 14 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้พบกับ น.ส.มณฑารัตน์ อายุ 21 ปี ผู้โพสต์ ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ฝนตกหนัก แฟนของตนได้ขับรถผ่านมายังจุดนี้ ซึ่งเป็นซอยที่จะไปทะลุออกข้างโรงพยาบาลบางนา 5 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ วันนั้นน้ำท่วมบนผิวถนนสูงมาก พอแฟนขับไป น้ำพัดป้ายทะเบียนหลุด หลังขับไปถึงที่ทำงานก็พบว่าป้ายทะเบียนหายไปแล้ว และเชื่อว่าน่าจะหลุดที่บริเวณดังกล่าว แฟนจึงบอกว่า รอน้ำลดก่อนค่อยไปตามหา
กระทั่งวันนี้ไปตามหาป้ายทะเบียนที่จุดดังกล่าว ก็พบว่าป้ายไปอยู่ในบ้านของลุงคนดังกล่าว จึงจอดรถเข้าไปดู ลุงบอกว่าขอค่าเก็บ 100 บาท ตนรู้สึกคาใจว่าทำไมต้องเสียเงินด้วย
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.บางพลี ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บริเวณบ้านของลุงคนดังกล่าว ชื่อ นายชาตรี อายุ 56 ปี ซึ่งพบว่าผู้ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ แต่ก็ไม่สูงมาก ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังตรวจสอบ ก็มีเจ้าของรถหลายคันที่เข้ามาขอรับป้ายทะเบียนจากลุงคนดังกล่าว ซึ่งลุงก็หยิบป้ายออกมาให้ และจากการตรวจสอบภายในบ้านของลุงคนดังกล่าวพบว่ามีป้ายทะเบียนอีกกว่าร้อยป้ายวางเรียงอยู่บนโต๊ะ และบนฝาผนังบ้าน ยังเขียนเลขบัญชีของธนาคารที่ระบุชื่อของลุงคนดังกล่าวเขียนไว้ด้วย
โดย นายชาตรี ลุงเจ้าบ้านหลังดังกล่าว ได้กล่าวว่า ตนไม่เคยเรียกร้องค่าเก็บป้ายทะเบียนแต่อย่างใด แล้วแต่เจ้าของป้ายเขาจะให้ น้ำท่วมทุกครั้งตนก็จะคอยเก็บป้ายทะเบียนที่หลุด เพื่อรอให้เจ้าของมารับคืนไป มีบางคันขับลุยน้ำมา ซุ้มหน้ารถหลุดกระจาย ตนก็ยังเก็บกองเอาไว้ให้เขา ตนยืนยันว่าไม่เคยเรียกร้องแล้วแต่เขาจะให้ บางที่ตนก็แกล้งพูดเล่น มีเจ้าของป้ายทะเบียนบางคนโกรธ จะมาต่อยตนก็มี
ผู้สื่อข่าวยังสอบถามเจ้าของป้ายทะเบียนรถ ที่เข้ามาขอรับป้ายทะเบียนว่า หากลุงขอค่าเก็บป้ายทะเบียน 100 บาท จะมีความคิดว่าอย่างไร เจ้าของป้ายดังกล่าวก็บอกว่า ถ้าเป็นตน ตนก็ยินดีที่จะจ่ายให้ เพราะถ้าเรามาหาเอง ก็คงหาไม่เจอ ถือว่าลุงมีน้ำใจเก็บไว้ให้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ว่ากล่าวตักเตือนลุงชาตรี ที่เก็บป้ายทะเบียนรถไว้ในบ้านว่า ห้ามไปเรียกร้องเอาเงิน ถ้าเจ้าของให้เองเป็นสินน้ำใจก็ไม่ผิด แต่ถ้าไปเรียกรับเงิน ก็มีความผิดเข้าข่ายลักทรัพย์ หรือ กรรโชกทรัพย์ผู้อื่น ถึงแม้ลุงจะเป็นคนเก็บป้ายทะเบียนรถเหล่านี้ได้ก็ตาม แต่เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ใครเก็บได้ก็ต้องส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ประกาศหาเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงได้นำป้ายทะเบียนทั้งหมดกว่าร้อยแผ่นไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพัก สภ.บางพลี รอให้เจ้าของป้ายไปติดต่อขอรับคืน