การเสียภาษีนำเข้าสินค้าแบรนด์เนม เป็นสิ่งที่ศุลกากรเข้มงวดกวดขันมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว หลังจากพบว่า มีการเลี่ยงภาษีนำเข้าสินค้าประเภทดังกล่าวสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสินค้าดังกล่าวเคยสร้างได้ให้นักหิ้วอย่างมหาศาล อย่างไรก็ตามมีข้อยกเว้นสำหรับของใช้ส่วนตัวอยู่ ซึ่งเกณฑ์การพิจารณาขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ด้วย
ล่าสุดสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้แชร์ประสบการณ์การจ่ายภาษีไปถึงเกือบ 7 หมื่นบาท โดยระบุว่า เป็นกระเป๋าที่เป็นของใช้ส่วนตัวของตนเองไม่ได้หิ้วมาเพื่อการค้าแต่อย่างใด โดยโพสต์ระบุว่า “คุณแม่ดู คนที่เค้าขายกระเป๋าแบรนด์เนมก๊อปปี้ Live ขายใน Facebook คุณแม่งงมากเลยตำรวจไม่จับเหรอค่ะ? เวลาเค้าใช้ของแท้ก็มาปรับเขาซะงั้น งงกับพี่ไทย มากๆๆเลย((ดูดู5555 แล้วคนที่ใช้ของปลอมเค้าปรับกันหรือเปล่าวะกระเป๋าเนี่ย”
อย่างไรก็ตาม เธอยังได้ระบุว่า กระเป๋าใบดังกล่าวเป็นของที่ซื้อมาเพื่อใช้งาน เป็นของตนเอง ไม่ได้หิ้วมาขาย และมีการแชร์ประสบการณ์ของคนอื่นๆ ที่โดนเก็บภาษี เพราะกระเป๋าที่ถือมานั้นใหม่มากๆ อีกด้วย
โดยกฎหมายกำหนดว่า ผู้ที่ต้องสำแดงสิ่งของเพื่อเสียภาษีนำเข้า คือ ผู้โดยสารหรือขาช้อปทั้งหลายที่นำของมูลค่าเกิน 20,000 บาทเข้าประเทศ หรือของที่เป็นลักษณะเชิงพาณิชย์ถึงแม้จะมีมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท ก็จะต้องเสียภาษีนำเข้าด้วย ซึ่งอัตราภาษีนำเข้าจะมีราคาแตกต่างกันตามชนิดและประเภทสินค้า โดยมีหลักการคิดภาษีนำเข้าของศุลกากรโดยเฉพาะ เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม 20% รองเท้า 30% เครื่องสำอาง 30% เข็มขัด 30% นาฬิกา 5% ของราคาตามใบเสร็จ และต้องรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%