สาวสุดแสบอ้างเป็นลูกเมียฝรั่ง แม่จ้างให้มาเสริมสวยตั้งแต่ผมยันเท้า ทำเกือบเสร็จยังไม่จ่าย ทำทีขอเข้าห้องน้ำ อาศัยตอนเจ้าของร้านเผลอ ฉกเงินกว่า 3 พันบาท วิ่งขึ้น จยย.ขับหนีลอยนวล เจ้าของร้านโอดยืนทำผมตั้งแต่เช้ายันบ่าย จนขาแข็งกลับไม่ได้เงินยังถูกขโมยอีก นำภาพวงจรปิดแจ้ง ตร.ช่วยล่าตัวดำเนินคดี
วันนี้ (14 ต.ค.64) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านเสริมสวย “แพน ซาลอน” ภายในตลาดสดอำเภอหนองกี่ บริเวณโดมลานน้ำพุ หลังจากที่ น.ส.นันท์นภัส เขมรินทร์ธนาทัต อายุ 39 ปี เจ้าของร้านนำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความ ให้ช่วยติดตามตัวหญิงสาวคนหนึ่งอายุประมาณ 40 ปี ผิวขาว รูปร่างท้วม เข้ามาใช้บริการทำผม ทำเล็บ ตั้งแต่เวลาประมาณ 09.30 น. จนถึง 14.00 น. เมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) แล้วไม่ยอมจ่ายเงิน แถมยังออกอุบายขอเข้าห้องน้ำก่อนจะฉกเงินของเจ้าของร้านอีกกว่า 3,000 บาท เผ่นหนี
จากการ น.ส.นันท์นภัส เขมรินทร์ธนาทัต หรือแพน เจ้าของร้าน บอกว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างท้วมอายุประมาณ 40 ปี เข้ามาที่ร้านช่วงประมาณ 9.30 น เมื่อวานนี้ บอกว่าจะมาใช้บริการ ทำสีผม, ล้างดำ, บำรุงสี,ฟอกสี และทำเล็บ รวมๆแล้วก็ทำเกือบทุกอย่าง ตอนแรกตนบอกไปว่าไม่ว่างเพราะติดลูกค้าที่โทรศัพท์มาจองคิวเองไว้ แต่ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ตอบกลับมาว่าไม่เป็นไรเขามีเวลาว่างทั้งวัน บอกว่ารอได้ จากนั้นเมื่อถึงคิวตนก็เป็นคนรับลูกค้ารายนี้ พอเข้ามานั่งทำผมก็เริ่มตีสนิทชวนคุยไปเรื่อย ทั้งบอกว่าแม่ได้สามีใหม่เป็นชาวต่างชาติ จึงจ้างให้ตนเองมาทำสวย แต่ตนไม่อยากจะทำ ตอนแรกตั้งใจจะทำแค่เล็บอย่างเดียว แต่แม่บังคับให้ทำทั้งผมทั้งเล็บ จึงต้องมาทำตามที่แม่สั่ง
จากนั้นยังชวนคุยอีกว่าไม่ชอบแม่ที่มีสามีใหม่เป็นชาวต่างชาติประเทศนี้เลย ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้ฟังว่าแม่ของเขาได้สามีประเทศอะไร พอตนเองทำผมให้เสร็จแล้ว ก็เดินออกจากร้านเสริมสวยมาดูร้านขายเสื้อผ้าซึ่งอยู่ติดกัน เพราะมีลูกค้ามาสแกนโครงการคนละครึ่ง ในจังหวะที่ตนเดินออกมาที่ร้านเสื้อผ้า ลูกค้าคนดังกล่าวก็เดินออกมาอย่างรวดเร็ว และหนีหายไปทันทีโดยที่ไม่ได้จ่ายเงินสักบาท
จากนั้นตนจึงรีบเข้าไปดูที่ร้านและดูที่เก็บเงินไว้ ปรากฏว่าเงินสดประมาณ 3,000 กว่าบาทที่ได้จากลูกค้าที่มาทำผมหายไป พอไปเปิดกล้องวงจรปิดดู ก็พบว่าหญิงคนดังกล่าวแอบเข้าไปฉกเอาเงินช่วงที่ทำทีขอเข้าห้องน้ำ ซึ่งหากรวมเงินค่าบริการทำผม และเงินที่สาวแสบคนดังกล่าวขโมยไปก็ประมาณ 4,000 กว่าบาท ก็รู้สึกท้อใจเพราะตนยืนทำผมให้กับลูกค้าคนนี้ตั้งแต่เช้ายันบ่ายจนขาแข็ง นอกจากจะไม่ได้เงินค่าบริการสักบาท ยังมาขโมยเงินซ้ำเติมอีก
เชื่อว่าลูกค้าน่าจะตั้งใจมาก่อเหตุแบบนี้และคิดว่าน่าจะเคยทำแบบนี้มาแล้วจนเคยชิน อยากฝากเตือนร้านเสริมสวย หรือร้านค้าทั่วไปว่าให้ระมัดระวังอย่าเชื่อไว้ใจใครจนเกินไป เพราะเดี๋ยวนี้มิจฉาชีพมาในหลายรูปแบบ ส่วนเคสของตนเองก็ได้นำภาพกล้องวงจรปิดแจ้งความที่ สภ.หนองกี่ แล้วเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี จะได้ไม่ต้องไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับใครอีก