สาวเลบานอน บุกปลุ้นธนาคาร โดยใช้ปืนของเล่นพลาสติกของหลาน เพื่อนำเงินในบัญชีตัวเองไปรักษาน้องสาวที่กำลังป่วยเป็นโรคมะเร็ง เพราะรัฐไม่ให้ถอน
สถานการณ์ของประเทศเลบานอนตอนนี้กำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหนัก ทำให้สถานการณ์การเงินของประเทศถึงขั้นล่มสลาย รัฐบาลจึงออกนโยบายจำกัดการถอนเงิน เพื่อเก็บเงินเอาไว้หมุนเวียนในระบบ ทำให้ประชาชนไม่สามารถถอนเงินของตัวเองออกจากธนาคารได้
สถานการณ์ความเลวร้ายทางการเงินในประเทศเลบานอน ดำเนินมานาน 3 ปี ทำให้เกิดประท้วง และการบุกปล้นธนาคารโดยประชาชนเรื่อยมา
ล่าสุดสื่อต่างประเทศรายงานเรื่องของหญิงสาวรายหนึ่ง ชื่อว่า สาลี ฮาฟิซ (Sali Hafiz) ก็ได้ลงมือก่อเหตุบุกปล้นธนาคาร ในเมืองเบรุต โดยใช้ปืนของเล่น เพื่อนำเงินของตัวเองออกมาไปรักษาน้องสาวที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง มีรายงานว่า เงินที่เธอปล้นออกไปมีจำนวน 13,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 473,500 บาท) ซึ่งหลังจากที่ก่อเหตุเสร็จเธอก็มอบตัวกับตำรวจทันที
เธอกล่าวเพิ่มเติมกับสื่อว่า “ฉันไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไป ฉันถึงที่สุดแล้ว ฉันมาถึงจุดที่จะขายไตเพื่อให้น้องสาวได้รับการรักษา”
เธอยืนยันกับสื่อว่าปืนที่เธอใช้ก่อเหตุนั้น เป็นปืนของเล่นพลาสติกที่ยืมมาจากหลาน ซึ่งแม่ของหลานก็คือน้องสาวของเธอที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่ทว่าไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายค่ารักษา
รัฐบาลกำหนดให้ถอนเงินได้แค่เดือนละ 200 เหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น (ประมาณ 7,285 บาท) แม้ธนาคารกล่าวว่าพวกเขาให้ข้อยกเว้นสำหรับกรณีด้านมนุษยธรรมรวมถึงการดูแลในโรงพยาบาล แต่ประชาชนผู้ฝากเงินบอกว่ามันไม่ค่อยเกิดขึ้น
ที่มา: reuters