สาวออฟฟิศแจ้งจับเพื่อน ลวงเข้าบ้านหวังย่ำยี ใจเด็ดบีบเจ้าโลก ลากออกจากห้อง

Home » สาวออฟฟิศแจ้งจับเพื่อน ลวงเข้าบ้านหวังย่ำยี ใจเด็ดบีบเจ้าโลก ลากออกจากห้อง



สาวออฟฟิศแจ้งจับเพื่อนชาย ลวงเข้าบ้านพยายามจะย่ำยี ฮึดสู้ออกอุบายให้ตายใจ ก่อนบีบเจ้าโลกหนุ่มหื่น ลากออกจากห้อง ปีนกำแพงบ้านหนี

เมื่อวันที่ 11 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เอม (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี พนักงานออฟฟิศแห่งหนึ่ง ในจ.สุรินทร์ นำหลักฐานเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ถูกเพื่อนชายที่ไว้ใจ ชื่อนายมนต์ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ออกอุบายชวนไปเที่ยวผับ และไม่พากลับไปส่งที่หอพัก แต่กลับพาเข้าบ้านตัวเองและพยายามกระทำชำเรา

กระทั่งน.ส.เอม ต้องออกอุบายหลอกล่อให้ผู้ก่อเหตุตายใจ โดยสัญญาว่าจะช่วยสำเร็จความใคร่ให้ ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดที่มีบีบสุดกำลังจนผู้ก่อเหตุยอมปล่อยตัว น.ส.เอม จึงรีบวิ่งไปเปิดประตูห้อง เพื่อหนีออกจากบ้านหลังดังกล่าวปรากฏว่าประตูรั้วถูกล็อกไว้ จึงปีนกำแพงสูงหลบหนี จนถูกไม้ระแนงขูดที่น่องข้างซ้ายบาดเจ็บ และวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีนำส่งหอพัก เหตุเกิดช่วงเช้ามืดวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา

สภาพขาที่ได้รับบาดเจ็บ

ต่อมา น.ส.เอม นำหลักฐานข้อความแชทและภาพบาดแผล เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.แสงหิรัณย์ แก้วดี สว.สส.สภ.เมืองสุรินทร์ ในเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันเดียวกัน โดยทางตำรวจจะเรียกผู้ก่อเหตุมาสอบสวน

น.ส.เอม เล่าเหตุการณ์ในคืนเกิดเหตุให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนมีงานประจำทำอยู่แล้ว และมีงานเสริมคือโพสต์เฟซบุ๊กขายโทรศัพท์มือสองจากร้านคนรู้จัก นายมนต์ (ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนตนเอง) ทักเฟซบุ๊กมาหาตนถามหาร้านซ่อม เพื่อจะนำโทรศัพท์ไปซ่อม ตนจึงให้รายละเอียดร้านไป

จากนั้นนายมนต์ก็แชทเข้ามาเรื่อยๆ ลักษณะคุยเล่นหยอกล้อกัน แต่ตนก็ไม่ได้คิดอะไร และนายมนต์ถามตนว่า มีแฟนหรือยัง ตนก็บอกไปว่า มีแฟนแล้ว ซึ่งแฟนตนอยู่ตนอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งหลังจากนั้น ตนและนายมนต์ก็เจอกันโดยบังเอิญบ่อยครั้ง และนายมนต์มักชักชวนตนไปเที่ยวอยู่เป็นประจำ

ในวันที่เกิดเหตุ เย็นวันเสาร์ที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ตนเลิกจากงานประจำ ก็โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “เลิกงานแล้ว ชวนออกหน่อย” นายมนต์จึงส่งข้อความมาทางกล่องข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “คืนนี้ไปเมาที่ไหนไหมครับ” ตนจึงตอบกลับไปว่า ไม่ได้ไปไหน เพราะไม่มีเงิน ไหนพี่เคยบอกว่าจะเป็นเจ้ามือเลี้ยงหนู

นายมนต์จึงโทรศัพท์มาหาตนผ่านเฟซบุ๊ก พอดีตนติดสายคุยกับแฟนอยู่ จึงโทรกลับไปหานายมนต์ และชวนตนไปเที่ยวผับ จึงขอเวลาตัดสินใจ พร้อมกับโทรศัพท์ไปชวนเพื่อนสาวที่สนิทกันไปด้วย และตอบตกลงไป

หลังจากนั้น เวลาประมาณ 01.00 น. (เช้าวันอาทิตย์ที่ 7) นายมนต์ก็ขับรถออกมารับตนและเพื่อนที่หอพัก ระหว่างนั่งรถก็คุยกันปกติ ส่วนใหญ่แล้วนายมนต์จะคุยถึงแต่เรื่องที่ตัวเองอกหัก อยากมีเพื่อนกิน เที่ยว และจะย้ำเสมอว่า “พี่เป็นสุภาพบุรุษพอ ไม่ต้องกลัว”

โดยหลังจากเดินทางไปถึงผับแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองสุรินทร์ นายมนต์จึงสั่งเครื่องดื่มมา 2 ชุด ของเขาเอง 1 ชุด และของตนกับเพื่อนอีก 1 ชุด โดยตนลุกเดินไปเข้าห้องน้ำบ่อยครั้ง นายมนต์ จึงพยายามถามถึงตนกับเพื่อนตนว่า เพื่อนนอนที่ไหนและตนนอนที่ไหน โดยนายมนต์บอกกับเพื่อนตนว่า เขาจะนอนกับตน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนบอกไปกับนายมนต์ไปว่า ตนนอนกับเพื่อนสาวคนดังกล่าว

หลังจากนั้น เวลา 04.20 น. ผับใกล้ปิด นายมนต์ จึงชักชวนกันไปกินหมูกระทะต่อ พอกินเสร็จก็ขับรถกลับ โดยเดินทางไปส่งเพื่อนของตนก่อน โดยนายมนต์รับปากกับเพื่อนตนว่า จะเดินทางไปส่งตน

ซึ่งช่วงนั้นก็เช้าจนเห็นพระออกบิณฑบาตแล้ว นายมนต์ขับรถเร็วมาก และขับออกนอกเส้นทาง ตนจึงถามไปว่าจะพาตนไปไหน นายมนต์ บอกกับตนว่า ไปบ้านพี่ก่อน ไปคุยเป็นเพื่อน พี่เหงา จึงเลี้ยวเข้าบ้าน และเดินไปล็อกประตูรั้ว ตนเริ่มใจไม่ดีแล้ว พยายามจะหมุนเพื่อปิดกระจกรถไม่ให้นายมนต์ เข้าถึงตัวเองได้

แต่นายมนต์ ก็พยายามเปิดประตูและถามตนว่า จะลงดีๆหรือจะให้พี่อุ้มลง ตนจึงบอกไปว่า เดี๋ยวหนูลงเอง อย่ามาแตะเนื้อต้องตัวหนู และตนก็ย้ำอยู่คำเดียวว่า ให้ไปส่งหนูที่หอ นายมนต์บอกกับตนว่า อยู่เป็นเพื่อนพี่ก่อน เหลือเบียร์อยู่ 2 กระป๋อง จึงยอมเดินเข้าไปนั่งในบ้าน

ก็ย้ำไปอีกว่า ไม่ดื่ม หนูจะกลับห้อง ไปส่งเดี๋ยวนี้ ตนจึงลุกเพื่อจะเดินออกจากบ้านหลังดังกล่าว นายมนต์จึงกระชากตนเข้าไปในห้องนอน ตนเห็นท่าไม่ดี จึงใช้มือจับกับขอบประตูไว้ พร้อมใช้ขาเกี่ยวขอบประตู แต่สู้แรงผู้ชายไม่ไหว เพราะนายมนต์ เป็นคนตัวใหญ่แรงเยอะ ตนจึงล้มลงนอนไปกับพื้น

“นายมนต์จึงล็อกประตูและลากเก้าอี้มากั้นประตู เพื่อปิดทางไม่ให้หนี หลังจากนั้นก็นั่งคุยเรื่องผู้หญิงของเขา และเดินมาดมที่หัวของหนู ก็พยายามขัดขืนไม่ให้เข้าใกล้ โดยนายมนต์ดึงกระเป๋าสะพายของหนูออก ซึ่งในนั้นมีโทรศัพท์อยู่ และก็มีปากเสียงกัน นายมนต์ก็เริ่มลวนลาม ขณะนั้นหนูกลัวจนร้องไห้หนักมาก พยายามขัดขืนตลอด นายมนต์จึงพูดว่า พี่ขอไปเข้าห้องน้ำได้ไหม หนูตอบไปว่า ไปเลยจะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าแตะต้องตัวหนู” น.ส.เอม กล่าว

ต่อมานายมนต์ก็พยายามเข้ามาประชิดตัวตน แต่ตนก็พยายามขัดขืน จนเกิดการต่อสู้กัน นายมนต์พูดมาว่า ยิ่งหนูร้องไห้พี่ก็อยากจะเอาชนะ ซึ่งในวันเกิดเหตุตนใส่กาง เกงยืนขาสั้นแน่นพอดี จึงไม่สามารถถอดออกได้ง่าย และขัดขืนป้องกันตัวเองอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนใช้จังหวะนี้บีบไปที่เจ้าโลกของนายมนต์ พร้อมพูดทั้งน้ำตาว่า ‘หนูให้พี่ไปส่ง ทำไมพี่ไม่ไปส่งหนู’

ตนจึงบอกให้นายมนต์ไปเปิดประตูให้ โดยนายมนต์ขอร้องให้ตนปล่อย แต่ตนก็ไม่ปล่อย เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย ตนจึงเดินไปเปิดประตูเองและลากนายมนต์เดินมาที่ประตู เพื่อใช้อีกมือหนึ่งเปิดประตูออกจากห้อง พร้อมกับมานั่งที่โซฟากลางบ้านขอให้เอากุญแจเปิดประตูรั้วหน้าบ้านให้

นายมนต์จึงบอกมาว่า ประตูไม่ได้ล็อก ตนไม่เชื่อ จึงหาโอกาสรีบวิ่งออกจากบ้าน ขณะนั้นตนไม่ได้คิดอะไรเลย คิดแต่จะทำยังไงให้หลุดรอดออกไปได้ โดยประตูรั้วบ้านก็ถูกล็อกไว้และมีความสูงท่วมหัวตน ตนจึงปีนข้ามรั้วกำแพงบ้านหลังดังกล่าว และตกลงใส่โคลนสภาพเปื้อนโคลนทั้งตัว

ขณะนั้นตนทั้งกลัว ตัวสั่นและร้องไห้เดินออกไปถึงปากซอยเจอพลเมืองดี 2 คน และขอความช่วยเหลือ ต่อมาไม่นานนายมนต์จึงขับรถตามมา และบอกว่าจะไปส่ง ตนจึงพูดไปว่า หนูไม่ไปกับพี่หรอก พี่จะข่มขืนหนู และหนูก็จะไปแจ้งความด้วย โดยพลเมืองดีจะอาสาพาไปส่งเอง ซึ่งตนก็บอกไปกับนายมนต์ว่า หนูรู้จักกับพี่เขา (พลเมืองดี) ผู้ก่อเหตุจึงรีบขับรถออกไปเลย หลังจากนั้นพลเมืองดีคนดังกล่าวก็ขับรถมาส่งตนที่หอพัก และถามว่าเป็นอะไร ตนจึงเล่าให้ฟังทั้งหมด

หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น นายมนต์ก็ยังตามตื๊อด้วยการโทรหาตน และพยายามเข้ามาหาตนให้ได้ ตนจึงติดต่อไปยังเพื่อนที่รู้จักนายมนต์ โดยเพื่อนก็บอกมาว่า ผู้ชายคนนี้เจ้าชู้ ให้ตนระวังตัวไว้ด้วย

โดยก่อนหน้านี้ตนรู้จักกับนายมนต์มาเกือบ 1 ปีแล้ว จากการพูดคุยเรื่องโทรศัพท์ และยังเป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนตนด้วย ดูจากภายนอกเป็นคนนิสัยดี พูดจาดี เจอกันในที่เที่ยวบ่อยครั้ง พูดจาจนตนไว้ใจว่าเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนไว้ใจได้

ที่ตนกล้ารับปากไปเที่ยวกับผู้ก่อเหตุครั้งนี้ เป็นเพราะความไว้ใจและไปกับเพื่อนไม่ได้ไปคนเดียว ตนจึงอยากจะฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้หญิงทุกคน แม้แต่คนที่ไว้ใจที่สุด ยังไว้ใจไม่ได้เลย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ