สุราษฎร์ธานี สาวพรุไทย พลิกอาชีพ สู้โควิด เลี้ยงด้วงสาคู พื้นที่ขนาดสี่คูณสี่ ขายผ่านออนไลน์ทั่วประเทศ ส่งโรงงานแปรรูปขายต่างประเทศ สร้างรายได้ดี

ที่พดด้วงฟาร์ม 46/1 ม7 ต.พรุไทย อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ใช้พื้นที่ขนาดสี่คูณสี่ตารางเมตร เพาะเลี้ยงด้วงสาคู ส่งโรงงานแปรรูปส่งขายต่างประเทศ ขายผ่านออนไลน์ทั่วประเทศ

น.ส.ชนัญธิดา ดิษยาอัครนนท์ อายุ 37 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยทำร้านกาแฟ แต่มาช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบที่สองทำให้ต้องหยุดขาย ก่อนได้คิดหาอาชีพใหม่ที่สามารถทำอยู่กับบ้านได้ ซึ่งที่บ้านมีพื้นที่พอเหมาะ จึงได้คิดเลี้ยงตัวด้วง เพราะเลี้ยงง่ายใช้พื้นที่ไม่มาก และมีความต้องการของตลาด

ส่วนวิธีการเลี้ยงไม่ยุ่งยาก เริ่มจากใช้ต้นสาคูที่บดละเอียดมาใส่ลงในกะละมังพลาสติก แล้วใช้หัวอาหารใส่ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วโรยด้วยขุยมะพร้าวหันเป็นชิ้นทับอีกครั้ง จากนั้นก็ค่อยนำแมลงหวังพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์จำนวน 3 คู่ ลงไปเลี้ยงในกะละมัง ให้วางไข่

ซึ่งจะใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 30-45 วันก็จะได้ตัวด้วงสาคูที่มีขนาดใหญ่ประมาณหัวแม่มือพร้อมที่จะส่งขาย ซึ่งก่อนที่จะส่งขายต้องนำด้วงสาคูมาพักไว้ในกะละมังที่มีแต่ต้นสาคูที่บดละเอียดให้ตัวด้วงได้กินแต่ต้นสาคูบด จะทำให้ต้วด้วงมีรสชาติมันหวามและหอมเมื่อนำมาปรุงเป็นอาหาร

ตอนนี้ในแต่ละเดือนจะสามารถผลิตตัวด้วงสาคูได้ประมาณ 50-100 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งยังไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า ทั้งลูกค้าโรงงานแปรรูปส่งขายต่างประเทศ และลูกค้าทั่วไป ซึ่งได้รับความนิยมรับประทาน เพราะในตัวด้วงสาคูจะให้โปรตีนสูง และก่อนที่จะส่งให้ลูกค้าจะต้องนำด้วงสาคูมาต้มให้สุก แล้วแพคด้วยระบบสุญญากาศแล้วนำไปแช่แข็ง เตรียงส่งให้ลูกค้าที่สั่ง

ลูกค้าส่วนใหญที่สั่งซื้อจะเป็นร้านอาหาร จะนำไปปรุงเป็นอาหารได้หลายชนิด เช่นเมนูด้วงสาคูผัดน้ำมัน ผัดกะทิ ทอด หรือคั่วเกลือก็จะอร่อยมา ส่วนราคาขายปลีกจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาทและขายส่งราคา 180 ต่อกิโลกรัม

สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เฟซบุ๊ก ชนัญธิดา ดิษยาอัครนนท์ หรือที่เบอร์โทร 063-916-9399