สาวโร่ไปหาหมอ หลังแฟนบ่นน้องสาวกลิ่นแปลก ๆ แต่ทั้งหมอ-พยาบาล บอกไม่ได้กลิ่น จนเผยอาชีพแฟน ทำหายงงไปตาม ๆ กัน
เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า สาวสวยรายหนึ่งจากเมืองเกาสง ในไต้หวัน เดินทางไปเข้ารับการปรึกษากับทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะ
เธอเล่าด้วยความเขินอายว่า ตอนที่เธอมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม แฟนบอกว่าอวัยวะเพศของเธอ “มีกลิ่นแรงมาก” ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ และเป็นกังวลว่าอาจจะมีปัญหาสุขภาพภายใน
เมื่อได้ยินดังนั้น แพทย์หญิงจาง เหม่ยหยู ผู้ดูแลเคสของหญิงสาวรายนี้ ได้ขอให้เธอถอดกางเกงชั้นในออก เพื่อที่จะทำการตรวจภายในเบื้องต้นดูว่ามีการอักเสบหรือติดเชื้อใด ๆ หรือไม่
แต่ปรากฏว่าเมื่อคุณหมอตรวจดูก็พบว่าอวัยะเพศของเธอไม่มีกลิ่น แม้ว่าจะเข้าไปใกล้ ๆ ก็ไม่ได้กลิ่น ยิ่งไปกว่านั้นคุณหมอยังให้พยาบาลหญิงเข้ามาช่วยพิสูจน์ ซึ่งทั้งสองต่างก็ยืนยันว่าไม่มีกลิ่นเลยจริง ๆ
หญิงสาวยังบอกอีกว่า แฟนของเธอมีนิสัยแปลก ๆ เขาชอบเลีย และทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้ เขาจะบอกว่ามีกลิ่นแรง
สถานการณ์นี้ทำให้คุณหมอจาง เหม่ยหยู รู้สึกงงมาก ว่าทำไมจมูกของแฟนคนไข้หญิงรายนี้ถึงได้กลิ่นที่ว่า จึงพยายามพูดคุยให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย เผื่อว่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จนกระทั่งหญิงสาวเผยว่า แฟนของเธอมีอาชีพเป็นเชฟ
คุณหมอถึงได้เข้าใจถึงสาเหตุในทันที จึงบอกกับคนไข้ว่า “จริง ๆ แล้วท่อนล่างของเธอไม่ได้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์แต่อย่างใด แต่เพราะแฟนของเธอทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับอาหาร จึงอาจมีประสาทสัมผัสด้านการรับรู้รสชาติและกลิ่นได้ดีกว่าคนปกติทั่วไป”
คุณหมอจาง เหม่ยหยู ยังได้อธิบายเพิ่มเติมว่า เช่นเดียวกับการที่คนเข้าไปในโรงกล้วยไม้ หรือโรงเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อ ในตอนแรกก็จะได้กลิ่นแรง แต่เมื่ออยู่ไปนาน ๆ จมูกก็จะคุ้นเคยและไม่รู้สึกถึงกลิ่นของมัน
ดังนั้นคุณหมอจึงกล่าวแบบติดตลก แนะนำให้หญิงสาวชวนแฟนหนุ่มทำความคุ้นเคยกับตรงนั้นให้นานขึ้น เขาอาจจะไม่ได้กลิ่นอีกต่อไป คำแนะนำดังกล่าวทำให้หญิงสาวถึงกับหัวเราะออกมา
คุณหมอจาง เหมยหยู ทิ้งท้ายว่า จริง ๆ แล้วร่างกายของทุกคนมีกลิ่น ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีกลิ่นเหม็น และผู้ชายหลายคนชอบมันมาก ผู้หญิงจึงไม่ควรรู้สึกอาย
เกี่ยวกับประเด็นนี้ คุณหมอโหว หงจือ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลซินเจิ้งซิน กล่าวว่า กลิ่นดังกล่าวมีสาเหตุมาจากจุลินทรีย์บางชนิดเจริญเติบโตในช่องคลอด เช่น Trichomonas vaginalis จะมีกลิ่นคาวเป็นพิเศษ และแบคทีเรียบางชนิด การติดเชื้อก็จะมีกลิ่นด้วย
ดังนั้นแนะนำให้ไปพบสูติแพทย์และนรีแพทย์เพื่อระบุชนิดของการติดเชื้อแบคทีเรีย ไทรโคโมแนส หรือ เชื้อรา แล้วจึงสั่งยาให้ถูกต้อง โดยปกติระยะเวลาในการรักษาจะอยู่ที่ประมาณ 2 สัปดาห์
หากเป็นการติดเชื้อซ้ำ แนะนำให้ปรับปรุงสุขอนามัยส่วนบุคคล การทำงาน และการพักผ่อน จากนั้นเสริมด้วยโปรไบโอติกบางชนิดที่มุ่งเป้าไปที่ระบบทางเดินปัสสาวะของผู้หญิง
