อ่านไม่ผิด สาววัย 32 ท้องโตผิดปกติ หมอเจอ “อัณฑะ” ซ่อนในร่างกาย แปลงร่างเป็นเนื้องอกยักษ์ 20 เซนติเมตร และเป็นเซลล์มะเร็ง
สื่อจีนรายงานว่า หญิงแซ่ฟาง (นามสมมติ) วัย 32 ปี จากเมืองหนิงโป มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน พบว่าช่วงไม่นานมานี้หน้าท้องของเธอโตผิดปกติ จึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลสตรีและเด็กแห่งมหาวิทยาลัยหนิงโป หลังการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม แพทย์พบว่าอัณฑะที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของเธอได้กลายสภาพเป็นเนื้องอกขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 20 เซนติเมตร หลังผ่าตัดนำออก พบว่าเป็นเซลล์มะเร็งชนิดเซมิโนมา (Seminoma) ทั้งนี้ การสอบถามประวัติการเจ็บป่วยของเธอ ก็ได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตที่น่าเศร้าในอดีตอีกด้วย
อาการเริ่มต้นที่ผิดปกติ
หญิงแซ่ฟางเล่าว่า เธอสังเกตเห็นหน้าท้องของตนโตขึ้นเมื่อ 3 เดือนก่อน และอาการดังกล่าวรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แพทย์จึงสอบถามประวัติการเจ็บป่วยอย่างละเอียด พบว่าเธอมีลักษณะใบหน้าสวยงามมาตั้งแต่เด็ก และเมื่อเข้าสู่ชั้นประถมปลาย หน้าอกเริ่มพัฒนา แต่เธอกลับไม่เคยมีประจำเดือนเหมือนเพื่อนรุ่นเดียวกัน ครอบครัวจึงคิดว่าเป็นเพียงการพัฒนาช้า จึงไม่ได้สนใจมากนัก
การค้นพบที่ไม่คาดคิดในวัย 15 ปี
จนกระทั่งเมื่อเธออายุ 15 ปี ครอบครัวเริ่มสงสัยในความผิดปกติ จึงพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลในท้องถิ่น หลังการตรวจอย่างละเอียดพบว่าเธอไม่มีมดลูกหรือรังไข่เหมือนหญิงปกติ แต่กลับมีอัณฑะซ่อนอยู่ในช่องท้อง แพทย์จึงตรวจโครโมโซมของเธอ พบว่าเป็นโครโมโซมแบบ “46,XY” ซึ่งเป็นโครโมโซมปกติของเพศชาย
จากการตรวจเพิ่มเติมทางพันธุกรรม ยืนยันว่าเธอเป็นผู้ป่วยภาวะ Androgen Insensitivity Syndrome หรือ ความผิดปกติในการพัฒนาทางเพศ ครอบครัวพิจารณาแล้วว่าตั้งแต่เล็กเธอมีรูปลักษณ์เป็นผู้หญิง และเลี้ยงดูมาในฐานะลูกสาว จึงตัดสินใจพาเธอเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศเมื่อไม่กี่ปีก่อน อย่างไรก็ตาม เธอยังคงไม่สามารถมีลูกได้
เนื้องอกจากอัณฑะที่ซ่อนอยู่
เนื่องจากกรณีของเธอมีความซับซ้อน แพทย์จากแผนกนรีเวชร่วมกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผู้ใหญ่ได้หารือกัน และคาดว่าเนื้องอกในช่องท้องอาจเกิดจากอัณฑะที่ซ่อนอยู่และเปลี่ยนสภาพเป็นเซลล์มะเร็งชนิดเซมิโนมา หลังการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าอัณฑะด้านซ้ายมีเนื้องอกขนาดใหญ่ จึงวางแผนผ่าตัดนำอัณฑะทั้งสองข้างและเนื้องอกขนาดใหญ่ในช่องท้องออก
เนื้องอกที่ผ่าออกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 20 เซนติเมตร ใหญ่กว่าศีรษะทารก หลังการตรวจชิ้นเนื้อยืนยันว่าเป็นมะเร็งชนิดเซมิโนมาในอัณฑะด้านซ้ายของเธอ
คำแนะนำจากแพทย์
แพทย์เตือนว่าผู้ป่วยที่มีภาวะดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็งอัณฑะ จำเป็นต้องติดตามตรวจภาพถ่ายทางรังสีและตัวชี้วัดมะเร็งอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ แพทย์แนะนำว่า หากผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ ควรนำอัณฑะทั้งสองข้างออกเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในอนาคต