สาวลองเทรนด์ฮิต “โครมมิ่ง” ดมสเปรย์ฉีดตัว จนหัวใจหยุดเต้น-สมองเสื่อมดับสลด

Home » สาวลองเทรนด์ฮิต “โครมมิ่ง” ดมสเปรย์ฉีดตัว จนหัวใจหยุดเต้น-สมองเสื่อมดับสลด



สาวลองเทรนด์ฮิต – สเตรตส์ไทมส์ รายงานภัยร้ายจากเทรนด์ยอดฮิตบนโลกออนไลน์ กรณีเด็กหญิงวัย 13 ปี จากเมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ทางตอนใต้ของ ประเทศออสเตรเลีย เสียชีวิตหลังจากลองทำตามกระแสโซเชียลที่เรียกว่า “โครมมิ่ง” ภายหลังครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียชีวิตเรียกร้องให้มีการดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก

ด.ญ.เอสรา เฮย์เนส ทำตามกระแสนิยมบนโลกโซเชียลที่เรียกว่า “โครมมิ่ง” ซึ่งเป็นการสูดดมสารต่างๆ เช่น สีโลหะ ตัวทำละลาย น้ำมันและสารเคมีจากกระป๋องสเปรย์ โดยเฉพาะสเปรย์ระงับกลิ่นกาย เพื่อให้เกิดความรู้สึกมึนเมาเหมือนเสพสารเสพติด นิวส์ดอตคอม เว็บไซต์ข่าวท้องถิ่นระบุว่าเธอไปนอนค้างบ้านเพื่อนเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา และเอสราได้ลองสูดดมสเปรย์จากกระป๋องระงับกลิ่นกาย

A teenage girl in Australia died recently after inhaling toxic chemicals from a can in a trend called “chroming.” /A Current Affair/

ส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จนต้องใช้เครื่องช่วยพยุงชีพเป็นเวลานาน 8 วัน แต่ท้ายที่สุดแพทย์บอกว่า “สมองของเธอเสียหายเกินกว่าจะซ่อมแซมได้” และครอบครัวตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจ โดย นายพอล และ นางแอนเดรีย เฮย์เนส พ่อแม่ของเอสรา รวมถึงเซธและชาร์ลี พี่น้องของเด็กสาว พากันกอดเธอจนวินาทีสุดท้าย

รายงานของสื่อออสเตรเลียระบุด้วยว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เด็กวัยรุ่นออสเตรเลียเสียชีวิตหลังพยายามทำการสูดดมสารพิษตามเทรนด์โครมมิ่ง โดยในปี 2562 มีเด็กหนุ่มวัย 16 ปี เสียชีวิต และยังมีวัยรุ่นสาวที่สมองได้รับความเสียหายจากการทำตามเทรนด์ดังกล่าว

ทั้งนี้ หลังจากการเสียชีวิตของเอสรา กระทรวงศึกษาธิการรัฐวิกตอเรียกล่าวว่าจะเพิ่มความพยายามในการให้ข้อมูลและความรู้แก่เด็กๆ ในเรื่องผลเสียที่ร้ายแรงของการโครมมิ่ง

The teenager’s parents Paul and Andrea Haynes as well as her older siblings Imogen, Seth and Charlie “cuddled her until the end”, according to Australian media. Mr and Mrs Haynes are also on a mission to raise awareness about such dangerous trends. They said they had no idea what “chroming” was until they received a call to say their daughter had been taken to hospital because of it. /A Current Affair/

ขณะที่ครอบครัวเฮย์เนสทำภารกิจช่วยสร้างความตระหนักถึงอันตรายจากการสูดดมสารพิษ เนื่องจากพวกเขาเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าการโครมมิ่งคืออะไร กระทั่งได้รับสายโทรศัพท์จากโรงพยาบาลที่แจ้งเรื่องลูกสาว

หลังจากนั้นพวกเขาก็แนะนำเด็กและวัยรุ่นเพื่อไม่ให้ทำผิดซ้ำรอยเหมือนลูกสาวของตน นายเฮย์เนสกล่าวกับเฮรัลด์ซันว่า “พวกเราอยากช่วยเหลือเด็กๆ ไม่ให้พลาดตกหลุมพรางจากการทำสิ่งไร้สาระพวกนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่อาจจะเป็นสงครามครูเสดของเรา ไม่ว่าคุณพยายามจะช่วยเหลือมากแค่ไหน แต่คุณไม่สามารถบังคับพวกเขาได้ หากมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาอยากจะทำด้วยตัวเอง”

นอกจากนี้ครอบครัวยังเรียกร้องให้การทำซีพีอาร์เป็นบทเรียนภาคบังคับในโรงเรียน และเรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิตสเปรย์ระงับกลิ่นกายปรับสารประกอบในผลิตภัณฑ์ให้มีความปลอดภัยมากขึ้นและเป็นพิษน้อยลง

สาวลองเทรนด์ฮิต

สาวลองเทรนด์ฮิต – Esra went into cardiac arrest and was on life support for eight days when doctors said “her brain was damaged beyond repair”. Her family then decided to turn off the machines. /A Current Affair/

สาวลองเทรนด์ฮิต

สาวลองเทรนด์ฮิต – ภาพประกอบ – Woolworths in Mount Isa has moved deodorant to the service desk. This is not the first time Australian teenagers have died after trying “chroming”. Since 2019, two 16-year-old boys have died after participating in the trend. Another teenage girl suffered brain damage. (ABC North West Queensland: Kelly Butterworth)

ภาพประกอบ – This is not the first time Australian teenagers have died after trying “chroming”. Since 2019, two 16-year-old boys have died after participating in the trend. Another teenage girl suffered brain damage. /A Current Affair/

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

  • อุทาหรณ์! เด็กหญิงวัย 14 ปีสูดสเปรย์ระงับกลิ่น หัวใจหยุดเต้น-เสียชีวิต

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ