สาวร้อง แท็กซี่ ขับผิดทาง คนขับถามแล้ว แต่ใส่หูฟังไม่ได้ยินเอง

Home » สาวร้อง แท็กซี่ ขับผิดทาง คนขับถามแล้ว แต่ใส่หูฟังไม่ได้ยินเอง

ฟังกันก่อน

หญิงสาว โวย แท็กซี่ ขับผิดทาง คนขับถามแล้ว แต่ใส่หูฟังเลยไม่ได้ยิน ขอลงที่เดิม ไม่จ่ายตัง ทำให้มีปากเสียง สุดท้ายโดนชาวเน็ตจวกยับแทน

กรณีมีหญิงท่านหนึงเรียกรถแท็กซี่ จากรพ. บางนา ไปที่ BTS บางนา โดยเจ้าตัวแจ้ง คนขับรถแท็กซี่ ว่าให้ขึ้นทางด่วน และยื่นค่าทางด่วนให้ ซึ่งก่อนและอยู่ในรถ หญิงท่านนี้ใส่หูฟังเพลงมาโดยตลอด คนขับรถแท็กซี่ ถามสะพานข้างหน้าคืออะไร แต่ไม่เสียงตอบรับ จึงขับรถขึ้นสะพาน เมื่อหญิงท่านนี้เห็นจึงไม่พอใจที่ คนขับรถ ขับไปคนละทาง ตนจึงขอลงที่หน้ารพ.บางนา เหมือนเดิม และไม่จ่ายเงิน พอเธอโบกรถคันใหม่ คนขับรถแท็กซี่ ก็ลงมาตะโกนด่าว่าเธอโกงค่าโดยสารจึงทำให้ยืนมีปากเสียงกันพักใหญ่ สุดท้ายคนขับรถแท็กซี่ บอกไม่เอาเงิน และขับออกไป

จากกรณีดังกล่าวมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้มีการโพสต์รูป และข้อความในเพจ พวกเราคือผู้บริโภค ระบุว่า “กรณีนี้ใครเป็นคนรับผิดชอบคะ? (มหากาพย์ค่ะ)

เราโบก Taxi จากร.พ บางนา 2 เพื่อไป BTS บางนา เราแจ้งคนขับว่าให้ขึ้นทางด่วนและได้ให้เงินค่าทางด่วนไปแล้ว ตั้งแต่ขึ้นรถเราใส่หูฟังและฟังเพลงตลอด พอขับออกมาได้สักพักนึงเขาถามเราว่า

คนขับ : ไปไหนนะ อะไรบางนา

เรา : BTS บางนาค่ะ

แล้วอีกสักพักเขาก็พูดขึ้นมาอีกว่า

คนขับ : ทางด่วนใช่มั้ย

เรา : ใช่ค่ะ

แต่ที่ขับขึ้นไปคือสะพานกลับรถ! เราเฟลมากตอนนั้น ไหนจะนัดของเราไหนจะค่ารถที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่รู้ว่าจะคิดเพิ่มมั้ย เพราะ

คนขับ : เอ้า มันคือสะพานกลับรถหนิ เมื่อกี้ลุงถามแล้วนะว่านี่คือสะพานอะไร

เรา : คืออะไรคะ เราก็ไม่รู้ค่ะว่าลุงถามอะไรเรา เพราะเราใส่หูฟัง ได้ยินแค่ว่า”ทางด่วนใช่มั้ย”แค่นั้นค่ะ

คนขับ : ผมก็ไม่รู้ ผมคิดว่าคุณรู้ก็เลยถามคุณ

แล้วคนขับก็ขับไปจนถึงสะพานกลับรถ เพื่อกลับมาทางเข้าเมือง เราเลยถามลุงกลังไปว่า

เรา : แบบนี้หนูต้องจ่ายค่ารถเพิ่มหรือเปล่าคะ เพราะมากันผิดทาง (ซึ่งค่ารถมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วสะพานกลับรถบางนา-ตราดไม่ใช่ว่าใกล้กันขนาดนั้น)

คนขับเงียบ! ไม่ตอบอะไรเราซักนิด! ตอนนั้นโมโหมาก เพราะไม่ตอบไม่อธิบาย ไม่ชัดเจนอะไรกับเราซักอย่าง

เรา : งั้นขอลงตรงโรงบาลเหมือนเดิมนะคะ ไม่ไปแล้วค่ะ

พอมาถึงจุดเดิม เราก็เปิดประตูลงและไม่จ่ายเงิน ไปขึ้นคันอื่นแทน พอเราปิดประตูเท่านั้นแหละ เขาก็มาเทียบรถและบอกว่าเราโกงค่าโดยสาร เราเลยอธิบาย Taxi อีกคันและมีปากเสียงกับตาลุงนั่นด้วย และก็โทร 1584 ไปหลายรอบมากกก ไม่มีการตอบรับสักรอบ

สุดท้ายตาลุงนั่นก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่เอาแล้ว แค่ไม่กี่บาท (77 บาท) แล้วก็ขับรถออกไป

บอกตามตรงว่าโมโหมาก ตอนที่เงียบใส่เราไม่ยอมอธิบายอะไรซักนิด ถ้าให้จ่ายครึ่งนึงก็ยังได้ เพราะไม่จ่ายเต็มอยู่แล้ว มาผิดทางด้วยกัน เข้าใจผิดทั้งสองฝ่าย แต่เลือกที่จะตีมึนไม่อธิบายอะไรซักอย่าง

ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำยังไงกับเรื่องแบบนี้คะ?”

1-min
  • สลด ป้าหมอนวด ดับปริศนา ญาตินึกว่าล้มหัวฟาดพื้น ที่แท้กระสุนเจาะหัว!?
  • แม่ ร้องขอความเป็นธรรม หลังลูกชาย อาการ สาหัส จนท.เรือนจำ อ้าง ชัก
  • ป้ามหาโหด! ฆ่าทุบหัวเพื่อนบ้าน ก่อนเอาศพใส่รถ ไปทิ้งริมน้ำ ไม่สนสายตาใคร
3

หลังจากโพสต์กรณีดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปนั้น ก็เกิดเป็นกระแสขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเป็นที่สนใจของชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ต่างเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นกันหลากหลาย เช่น “เอาจริงๆ นั่งรถไม่ควรใส่หูฟังนะคะ ไม่ใช่แกรป หรือ ไม่ใช่ Bolt นะคะ” “เราก็ไม่รู้ค่ะว่าลุงถามอะไรเรา เพราะเราใส่หูฟัง….. ควรต้องหยุดฟังอะไรก่อนแล้วบอกจุดหมายเคลียร์กันให้ชัดเจนก่อนดีกว่ามั้ยคะนั่น” “บางทีคนขับก้อใช่จะรู้ทางทุกคน” “ถึงจะไม่พอใจยังไง แต่ก็ควรจ่ายเงินค่าแท็กซี่นะคะ” “ถ้าผู้โดยสารแจ้งปลายทาง คนขับก็รับทราบแล้วก็ควรต้องหาเส้นทางไปให้ได้ เพราะมันเป็นความรับผิดชอบในอาชีพที่ทำ จะโทษเรื่องใส่หูฟังไม่ได้หรอก //พยาบาลวางยาสลบคนไข้ หมอต้องปลุกขึ้นมาถามไหมว่าผ่าตัดตรงไหนยังไง //พ่อครัวต้องออกมาถามลูกค้าไหม ว่าทำอาหารยังไง ใส่อะไรบ้างฯ” “ไม่จ่ายและลงที่เดิมผมว่าก็ดีแล้ว ในเมื่อคนขับไม่พยายามเจรจาว่าจะเคลียร์ปัญหายังไง นั่งต่อจะมีเรื่องเปล่าๆ แต่เคยฟังเรื่องผู้โดยสารเรียก Taxi พอขึ้นไปแล้วแค่แจ้งปลายทาง แล้วก็ไม่สนใจอย่างอื่น นั่งฟังเพลงหรือเล่นเกมส์ ทำให้สุดท้ายไปผิดเส้นทางมาหลายครั้งแล้ว หนักสุดคือต้องไปขึ้นเครื่องดอนเมืองแต่แท็กซี่นึกว่าไปสุวรรณภูมิ กว่าจะรู้ตัวก็อยู่บนทางด่วน กลับตัวไม่ได้แล้ว สุดท้ายตกเครื่องแท็กซี่ก็ไม่รับผิดชอบหรอก เป็นบทเรียนของทางฝั่งผู้โดยสารด้วย” “ใดๆนะคะ ขึ้นรถแล้ว บอกจุดหมายแล้ว อย่าเพิ่งไปทำอย่างอื่น นั่งสังเกตมองทางรอบข้างด้วยว่าไปถูกไหมหรือ เคลียร์กันใหัเข้าใจก่อนออกรถเลยค่ะ จะได้ไม่เป็นแบบนี่อีก” เป็นต้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ