สาวยูเครนเผยครอบครัวพัง ทหารรัสเซียรุมหื่นในบ้าน หลังยิงสามีทิ้ง ไม่สนลูกร้องไห้
วันที่ 29 มี.ค. เดลีเมล รายงานชะตากรรมขมขื่นของผู้หญิงชาวยูเครน ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบหลังกองทัพรัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ผู้หญิงคนนี้ถูกทหารรัสเซียข่มขืนซ้ำๆ หลายชั่วโมง ทั้งที่ลูกชายวัย 4 ขวบ ซ่อนตัวและร้องไห้ในห้องหม้อไอน้ำ เพียงไม่กี่นาทีหลังทหารรัสเซียเพิ่งยิงสังหารสามีของเธอไป
นาตาเลีย (นามสมมติ) วัย 33 ปี ออกมาเล่าความสยดสยองที่เธอต้องฝืนทนเป็นครั้งแรก เธอบอกว่า ผู้บัญชาการรัสเซียนายหนึ่ง และทหารหนุ่มอีกนาย เข้ามาในบ้านครอบครัวของเธอ ในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้กรุงคียิฟ เมืองหลวงขอยูเครน หลังค่ำคืนวันที่ 9 มี.ค. และยิงสังหาร อันเดรย์ สามี วัย 33 ปี ในสวนหน้าบ้าน
ไม่นานหลังจากนั้น นาตาเลียได้ยินเสียงฝีเท้าในบ้าน และเห็นผู้บัญชาการรัสเซีย (นาตาเลียเปิดเผยชื่อว่า มีฮาอิล โรมานอฟ หลังค้นหาตามโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์) และทหารหนุ่มสวมชุดดำ นาตาเลียตะโกนบอกให้ โอเล็กซี (นามสมมติ) ลูกชายวัย 4 ขวบ ไปซ่อนตัวในห้องหม้อไอน้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ครอบครัวของเธอใช้เป็นหลบที่ภัยในบ้านในหมู่บ้านเชฟเชนโคเว ชานกรุงคียิฟ
นาตาเลียให้สัมภาษณ์เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ เดอะ ไทม์ ว่า ทหารหนุ่มรัสเซียคนนั้นเล็งปืนมาที่ศีรษะของเธอและสบถว่า “แกควรหุบปากเสีย ไม่งั้นข้าจะเอาลูกแกไป และให้เด็กเห็นสมองของแม่ตัวเองกระจายเต็มบ้าน”
นาตาเลียถูกผู้บัญชาการโรมานอฟและทหารหนุ่มข่มขืนเป็นเวลาหลายชั่วโมง ขณะถูกปืนเล็งที่ศีรษะและได้ยินเสียงลูกชายที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นในห้องที่ตั้งหม้อไอน้ำ
“ทหารหนุ่มบอกให้ฉันถอดเสื้อออก จากนั้น ทั้งคู่ข่มขืนฉันทีละคน พวกเขาไม่สนใจว่าลูกชายฉันกำลังร้องไห้ในห้องหม้อไอน้ำ พวกเขาบอกให้ฉันไปหุบปากลูกชายและกลับมา ตลอดเวลาพวกเขาถือปืนจ่อที่ศีรษะฉันและเยาะเย้ยฉันว่า โดยคนหนึ่งพูดกับอีกคนว่า นายคิดว่าเธอจะดูดไอ้นั่นอย่างไร? เราจะฆ่ามันและปล่อยให้มันมีชีวิตดี?” นาตาเลียบอกกับเดอะ ไทม์
ทหารทั้งสองจากไปหลังผลัดกันข่มขืนนาตาเลียหลายชั่วโมง แต่ภายใน 20 นาที ทั้งคู่กลับมาข่มขืนนาตาเลียอีกครั้ง จากนั้น กลับมาที่บ้านนาตาเลียอีก เพื่อข่มขืนนาตาเลียเป็นครั้งที่สาม แต่ว่าครั้งนี้ทหารทั้งสองเมามากจนทั้งคู่สะดุดล้มและผล็อยหลับไป ทำให้นาตาเลียมีเวลาวิ่งไปหาลูกชายของเธอ ซึ่งซ่อนตัวในห้องหม้อไอน้ำที่มืดมิด และหนีออกจากบ้านตัวเองไป
“ขณะที่ฉันเปิดประตู ลูกชายยืนข้างร่างของพ่อ แต่มันมืดมาก ลูกชายจึงไม่รู้ว่านั่นเป็นพ่อของเขา ลูกชายพูดว่า “เราจะถูกยิงเหมือนผู้ชายคนนี้ที่นี่ใช่ไหมครับแม่?” ” นาตาเลียกล่าว
นาตาเลียพร้อมลูกชาย หลบหนีไปเมืองเทอร์โนปิล ทางตะวันตกของยูเครน เธอกล่าวลูกชายของเธอยังไม่รู้ว่า พ่อเสียชีวิตแล้ว และเธอยังไม่กล้าบอกลูกชายตอนนี้ ขณะที่ลูกชายยังขอซื้อโดนัทไปฝากพ่อด้วย เมื่อเธอแวะไปร้านค้า
อีรีนา เวเนดิคโตวา อัยการสูงสุดยูเครน กำลังสอบสวนเรื่องราวน่าเจ็บปวดและสยดสยองของนาตาเลีย นับเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการที่ทางการยูเครนดำเนินการสอบสวนข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเราพลเรือนยูเครนโดยทหารรัสเซีย และคดีนาตาเลียเป็นคดีล่าสุดในหลายคดีข่มขืนที่ดำเนินกับทหารรัสเซียตั้งแต่เริ่มรุกรานยูเครน
นาตาเลียเล่าย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 8 มี.ค. หลังกองทัพรัสเซียเข้าหมู่บ้านว่า ครอบครัวของเธอแขวนป้ายสีขาวที่ประตูรั้วบ้านในหมู่บ้านเชฟเชนโคเว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า พวกเขาไม่เป็นอันตรายและมีคนอยู่ในบ้านหลังนี้
แต่ 1 วันหลังจากนั้น ในวันที่ 9 มี.ค. ทั้งคู่ได้ยินเสียงยืงปืนด้านนอกบ้าน ครอบครัวของเธอเดินนอกบ้านโดยยกมือทั้งสองข้างขึ้นสูงเห็นทหารรัสเซียกลุ่มหนึ่ง หนึ่งในนั้นใช้ปืนไรเฟิลเล็งไปที่สุนัขที่นอนตายของครอบครัว
ผู้บัญชาการโรมานอฟอยู่ในกลุ่มทหารนั้นด้วย และเริ่มแสดงความก้าวร้าวเมื่อเห็นแจ็กเก็ตลายพรางในรถยนต์ของครอบครัวของเธอ จากนั้น ผู้บัญชาการโรมานอฟไปคว้ากุญแจรถยนต์ และขับรถยนต์ไปชนต้นไม้ที่ล้มอย่างเมามันก่อนจะขับออกไป
แต่หลายชั่วโมงต่อมาตอนกลางคืนนั้น ครอบครัวได้ยินเสียงดังสนั่นที่ประตูรั้วบ้าน และอันเดรย์ออกไปนอกบ้านเพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้น จากนั้น นาตาเลียได้ยินเสียงยิงปืน 1 นัด และเสียงประตูรั้วเปิด ตามด้วยเสียงฝีเท้าในบ้าน ผู้บัญชาการโรมานอฟ และทหารหนุ่มคนนั้น บอกว่า ยิงสามีของเธอ เนื่องจาก สามีเธอเป็น “นาซี” ก่อนทั้งคู่จะข่มขืนเธอซ้ำๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง
นาตาเลียกล่าวว่า หลังหนีออกจากบ้านมาได้ในที่สุด พี่น้องสะใภ้จึงให้เธอแจ้งความกับตำรวจยูเครนว่า ทหารรัสเซียข่มขืนเธอ
นาตาเลีย ซึ่งกลายเป็นผู้หญิงม่าย บอกว่า เธอและสามีจะฉลองวันครบรอบแต่งงานในเดือนหน้า และว่าครอบครัวของเธอไม่สามารถเก็บกู้ร่างของสามีหรือฝังศพเขาได้ เนื่องจากหมู่บ้านยังถูกทหารรัสเซียยึดครอง
นาตาเลียกล่าวว่า เธอไม่รู้ว่าจะกลับไปที่หมู่บ้านอีกหรือไม่ เนื่องจากความทรงจำช่างแสนสาหัส และเสริมว่าเธอไม่สามารถขายบ้านของครอบครัวตัวเองได้ เนื่องจากสามีเป็นคนสร้างบ้านหลังนี้เพื่อครอบครัว
ก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้หญิงชาวยูเครนที่หนีจากเมืองอีร์ปินที่ถูกทำลาย ในเขตชานเมืองของกรุงคียิฟ อ้างว่า ทหารรัสเซียหลายนายข่มขืนผู้หญิงหลายคนและยิงพลเรือนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก
ผู้หญิงคนนั้นคือ อนาสตาเซีย ตารัน อายุ 30 ปี จากเมืองเอเนอร์โฮดาร์ แคว้นซาโปริฌเฌีย ผู้มาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในเมืองอีร์ปิน ก่อนรัสเซียรุกรานยูเครน อ้างว่า สภาพในเมืองอีร์ปินที่ทหารรัสเซียยึดครองไม่ต่างจาก “นรก” และว่า ทหารผูัรุกรานปฏิบัติต่อชาวบ้านอย่างน่าสยดสยอง
“อีร์ปินคือนรก ทหารรัสเซียจำนวนมากยิงคนเข้าบ้าน และอย่างดีที่สุดแค่ไล่คนออกจากบ้านของพวกเขา พวกทหารรัสเซียข่มขืนผู้หญิงหลายคน ศพผู้เสียชีวิตมากมายแค่ถูกทิ้ง” ตารันให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ ยูไรไมดัน เพรส ของยูเครน
ดมีโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน และเลเซีย วาซีเลนโค สมาชิกฝ่ายค้านของสภายูเครน ต่างอ้างรายงานจำนวนมากที่ว่า บรรดาทหารรัสเซียล่วงละเมิดทางเพศพลเรือนหลายคนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เช่นกัน