สาวป่วยมะเร็ง ร้องเรียนเอาผิด โรงพยาบาลดังและเจ้าหน้าที่ หลังใส่ข้อมูลผู้ป่วยสลับคน เกือบไม่ได้ เงินประกัน 1 ล้านบาท ไปรักษาตัว
วันที่ 19 ธ.ค. 65 ที่ กองบังคับการปราบปราม ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา น.ส.รัตนาภรณ์ นุชศิริ อายุ 42 ปี ผู้เสียหาย มาแจ้งความดำเนินคดี โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใน จ.นนทบุรี ลงประวัติการรักษาผิดคน ทำให้ประกันสุขภาพบอกล้างสัญญา เกือบเคลมไม่ได้
น.ส.รัตนาภรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ตนทำประกันโรคร้ายแรงไว้กับบริษัทแห่งหนึ่ง จ่ายเบี้ยประกันปีละ 50,000 บาท หากตรวจพบโรคร้ายแรง จะได้ค่าสินไหมทดแทน เป็นจำนวนเงิน 1,075,000 บาท
ต่อมา เดือนกรกฎาคม 2565 ตรวจพบเป็นมะเร็งปากมดลูก ระยะที่ 1 โดยไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ไม่ใช่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม พอยื่นเอกสารเคลมประกันโรคร้ายแรงไป ทางบริษัทประกันบอกเลิกสัญญา โดยอ้างว่าตนมีประวัติการรักษาเมื่อปี 2561 ที่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม ก่อนที่จะมาทำประกัน โดยตรวจพบว่ามีความผิดปกติในร่างกาย เช่น ประจำเดือนมามากกว่าปกติ ที่อาจจะนำไปสู่โรคร้ายแรง
ตอนแรกทางบริษัทประกันอ้างอีกว่า ตนปกปิดประวัติการรักษาโรคร้ายแรง ซึ่งตนเคยไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม มาจริงแค่ 1 ครั้ง เป็นรักษาอาการท้องเสีย และนอนโรงพยาบาล 1 คืน แต่ในประวัติการรักษา พบว่าตนนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 4 คืน ทั้งที่ไม่ได้ไป จึงติดต่อไปขอประวัติการรักษาทั้งหมด ที่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม และปรึกษากับทนายรณณรงค์ เพราะกังวลว่าจะไม่ได้เงินเคลมประกันที่ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก รวมถึงยื่นเรื่องร้องเรียนกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส.
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลทำหนังสือชี้แจงออกมา โดยยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดในการคีย์ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากตัวเลขประจำตัวของตน คล้ายกันกับผู้ป่วยอีกราย ที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง ทำให้มีประวัติการรักษาเพิ่มขึ้นมา ซึ่งตนได้เรียกร้องค่าเสียหาย จากโรงพยาบาลเป็นเงิน 2 ล้าน แต่โรงพยาบาลเสนอเยียวยาเป็นการดูแลสุขภาพของตนและครอบครัววงเงิน 2 แสนบาท ซึ่งตนไม่รับข้อเสนอ เนื่องจากไม่มั่นใจหากต้องกลับไปใช้บริการที่เดิม
น.ส.รัตนาภรณ์ กล่าวต่อว่า ตนเดินเรื่องพิสูจน์หาเอกสารมายืนกับบริษัทประกัน จนตอนนี้ได้รับเงินเคลมแล้ว 1,075,000 บาท แต่จะมาแจ้งความเอาผิดกับทางโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครอีก ตนมองว่าเป็นเรื่องร้ายแรงมาก และไม่เป็นธรรม
ด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เวชระเบียนต้องมีมาตรฐานมากกว่านี้ เพราะการกระทำดังกล่าว เป็นการปลอมข้อมูลผู้ป่วยหรือไม่ ตอนแรกจะแจ้งความที่ จ.นนทบุรี แต่เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ กังวลว่าตำรวจจะทำงานไม่สะดวก วันนี้จึงพาผู้เสียหายมาแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราบ เพื่อเอาผิดกับทางโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ในข้อหา ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง