สารวัตรตบะแตก ปมโผโยกย้าย โพสต์ระบาย ยื่นหนังสือลาออกแล้ว บอกคนทำไม่เจริญ คนเจริญไม่ได้ทำ ผกก.ยัน ลาออกจริง อยู่ระหว่างพิจารณา ระบุจะไปดูแลแม่ป่วย
จากกรณี พ.ต.ท.บุรี อมรพิชิต สารวัตรอำนวยการ สภ.กรับใหญ่ จ.ราชบุรี โพสต์เฟซบุ๊กว่า “สงสารคนทำงานที่ผิดหวังกับการแต่งตั้ง คนที่โดนย้ายไปไกลบ้าน มีทุกปี ไม่ว่าจะยุคไหน ทำปากดีพูดนโยบายสวยเลิศเลอ ไหนจะลูกเมีย พ่อแม่ที่แก่ชราต้องดูแลชีวิตปกติที่เปลี่ยนไป แค่ปลายปากกา กระเด็นกระดอน ทุกปีสองปี นโยบายปัจจุบันด้วย ไปไหนไม่ได้ประชุมกันทุกวัน งานนอกหน้าที่เยอะ คนออกนโยบายคนสั่งห่วย จะเอาเวลาที่ไหนกลับมาดูแลครอบครัว คนทำงานไม่เจริญ คนเจริญไม่ทำงาน นี่มันอาชีพส้นXXอะไรครับ (ที่กล่าวมาแค่ยิบย่อย) # ลาออกสิครับรอXXXอะไร # ตบะกูเริ่มแตก”
ล่าสุดวันที่ 9 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วีระศักดิ์ กลั่นเกิด ผกก.สภ.กรับใหญ่ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.ท.บุรี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดย พ.ต.อ.วีระศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.บุรี อยู่ระหว่างลาราชการ โดยเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.บุรี ได้มายื่นหนังสือจำนงขอลาออกจริง และกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบรออนุมัติหนังสือลาออก ในส่วนสาเหตุที่ขอลาออก จากการพูดคุยกับ พ.ต.ท.บุรี ได้ให้เหตุผลว่า คุณแม่ ซึ่งมีอายุ 81 ปี ได้ล้มป่วย ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ประกอบกับต้องการไปช่วยทำธุรกิจของครอบครัว
เนื่องจากตนเพิ่งย้ายเข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา จึงยังไม่มีโอกาสใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.บุรี แต่จากการสอบถามเพื่อนร่วมงาน และผู้ใต้บังคับบัญชา ทราบว่า พ.ต.ท.บุรี เป็นที่รักของเพื่อนตำรวจ และชาวบ้าน ด้วยเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง และจริงจังในการทำงาน อีกทั้งยังสนใจในเรื่องของธรรมะ นอกจากการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสารวัตรฝ่ายอำนายการแล้ว ยังลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมสร้างมวลชนสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชาวบ้านอีกด้วย
ด้าน นายวิโรจน์ ถาวรกีรติ ชาวบ้านสมาชิกกลุ่มชมรมจีนแคะห้วยกระบอก เปิดเผยว่า ตนมีโอกาสได้รู้จัก และทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับ พ.ต.ท.บุรี อยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการผลิตหน้ากากป้องกันการติดเชื้อ (Face Shield) เพื่อนำไปมอบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ รวมไปถึงงานกิจกรรมอื่นๆ ของชมรม เท่าที่ตนได้สัมผัส พ.ต.ท.บุรี เป็นคนง่ายๆ สบายๆ ไม่ถือตัว หลังจากทราบข่าวว่าท่านลาออก ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ และเสียดายตำรวจดีๆ
ทั้งนี้ หลังจากทที่ พ.ต.ท.บุรี ได้โพสต์ระบายความรู้สึกผ่านเฟซบุ๊กไป ทำให้เกิดความคิดเห็นต่างๆ นานา ถึงระบบการโยกย้ายข้าราชการตำรวจ โดยล่าสุด พ.ต.ท.บุรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้งว่า “ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ มีบางท่านไม่รู้จักกันก็ยังโทรมาให้กำลังใจ ฝากเพื่อนพี่น้อง ที่อยู่ในอาชีพตำรวจต่อไป ขอให้อยู่บนพื้นฐานของความจริงใจ รักลูกน้องเสมือนเขาเป็นพี่เป็นน้องเป็นญาติเรา ให้ความเป็นธรรมกับเขา ใช้พระคุณ ดีกว่าพระเดช ชาวบ้านเขาไม่ต้องการอะไรจากตำรวจ แค่เกิดเหตุตามจับคนร้ายให้เขาได้ มีเหตุไประงับให้เขาโดยไว ให้ความเป็นธรรม เป็นมิตร ไม่รังแก ไม่แสวงหาผลประโยชน์จากเขา เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว นายที่ดีไม่สร้างงานให้ลูกน้องโดยไม่จำเป็น ถามให้เยอะๆ นโยบายที่ออกมาตำรวจเราได้อะไร ประชาชนได้อะไร ได้จริงไหมหรือแค่วาดฝัน หรือมีผลงานไว้แค่โชว์สื่อหรือต่อรองเก้าอี้เท่านั้น หาประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมไม่ได้ อยู่ให้เป็นตำนาน อย่าอยู่ให้เขาสาปแช่งไปวันๆ ครับ”
สำหรับ พ.ต.ท.บุรี เริ่มรับราชการตำรวจในระดับชั้นประทวน เมื่อปี พ.ศ.2541 ต่อมาในปี พ.ศ.2547 ได้รับการเลื่อนยศเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร โดยโชว์ฝีไม้ลายมือปฏิบัติหน้าที่สายงานด้านปราบปรามและสืบสวนในพื้นที่ภาค 7 อย่างเด่นชัด ก่อนย้ายมาดำรงตำแหน่ง สารวัตรอำนวยการ ที่ สภ.กรับใหญ่ เมื่อปี 2562 แต่สุดท้ายตัดสินใจโพสต์ระบายความในใจถึงโผโยกย้าย และยื่นใบลาออกดังกล่าว โดยยังคงเหลืออายุราชการอีกกว่า 10 ปี