วันที่ 4 ก.ย. 2567 สำหรับการแข่งขัน “วีลแชร์ฟันดาบ” พาราลิมปิก 2024 ปารีสเกมส์ ที่ประเทศฝรั่งเศส วันที่ 3 ก.ย. 67 รอบชิงชนะเลิศ ประเภทเซเบอร์ บุคคลหญิง คลาส B “ราชินีฟันดาบแชมป์โลก” สายสุนีย์ จ๊ะนะ วัย 50 ปี จากเชียงใหม่ มือวางอันดับ 4 พบกับ เสี่ยว หลง วัย 31 ปี มืออันดับ 3 จากจีน เจ้าของเหรียญทองแดง พาราลิมปิก โตเกียว 2020

ตลอดทั้งเกม สายสุนีย์ แต้มตามหลังตลอดก่อนจบพีเรียดแรกตาม จีน 6-8 ในช่วงพีเรียดหลังสถานการณ์สูสีแบบสุดๆ กระทั่งมา เสมอกัน 13-13

ก่อนที่ สายสุนีย์ แซงขึ้นนำเป็นครั้งแรกในเกม 14-13 แต่จีนก็ไล่มาตีเสมอ 14-14 จนได้ทำให้ต้องตัดสินกันในคะแนนสุดท้ายซึ่ง สายสุนีย์ นิ่งกว่าปาดหน้าเอาชนะไปได้ 15-14 ชนิดที่ต้องชาลเลนจ์รีวิวด้วยการดู VDO ตัดสิน ซึ่งนับเป็นการคว้าเหรียญทองประเภทเซเบอร์สมัยแรกของเจ้าตัว

• อีกแล้ว! เคลมแรง ‘เค้กครก’ เป็นอาหารของ กัมพูชา ไม่ใช่ ขนมครก ไทย

• เตือน! 10 จังหวัดภาคกลาง รวมกทม. รับมือมวลน้ำเจ้าพระยาเพิ่ม

• อัจฉริยะ ร้องทุกข์! เจ้าพ่อจีนรายใหญ่ มีแบ็กหนุน นำบุหรี่ไฟฟ้าเข้าประเทศ

ทำให้ทัพพาราลิมปิกทีมชาติไทยได้เหรียญทองที่ 4  ใน พาราลิมปิกปารีส 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส และนับเป็นเหรียญทองที่ 3 และเหรียญรางวัลที่ 7 ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกฤดูร้อนของ สายสุนีย์ นับตั้่งแต่ปี 2004 

“พี่แวว – สายสุนีย์ จ๊ะนะ” เป็นชาวเชียงใหม่ เกิดและเติบโตในครอบครัวที่มีฐานะยากจน เธอจึงต้องไปเป็นสาวโรงงานตั้งแต่วัยรุ่นเพื่อเป็นเสาหลักของครอบครัว ทั้งที่ฝันของเธอคือการเป็นครู ตอนอายุ 17 ปี พี่แววประสบอุบัติเหตุถูกรถชน พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าช่วงล่างของร่างกายไม่มีความรู้สึกอะไรเลย หมอบอกว่าเธอจะไม่สามารถเดินได้อีกตลอดชีวิต

พี่แววพยายามฆ่าตัวตายเพราะไม่ต้องการเป็นภาระของครอบครัวซึ่งลำบากอยู่แล้ว แต่แม่ร้องไห้และบอกว่า “แม่เลี้ยงมา 17-18 ปีแล้ว ทำไมจะเลี้ยงลูกต่อไม่ได้ เราจะอดมื้อกินมื้อไปด้วยกันนะ” แล้วนับแต่นั้นพี่แววก็ตัดสินใจที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อครอบครัว ไม่ได้มีทางเลือกมากนักสำหรับผู้พิการ พี่แววได้ยินว่าหากได้เป็นนักกีฬาทีมชาติก็จะมีเงินเลี้ยงครอบครัว เธอจึงเบนเข็มไปสู่เส้นทางนั้น ตอนนั้นกีฬาฟันดาบยังใหม่มากสำหรับไทย พี่แววฝึกซ้อมได้ 7 วัน ครูฝึกชาวฮ่องกงก็เห็นแววและพูดว่า “ฉันต้องได้เห็นเธอในพาราลิมปิก!”

สรุปเหรียญ พาราลิมปิก 2024 วันนี้ 4 กันยายน 2567

อันดับ 1 จีน : 53 เหรียญทอง 40 เหรียญเงิน 22 เหรียญทองแดง รวม 115 เหรียญ
อันดับ 2 สหราชอาณาจักร : 30 เหรียญทอง 18 เหรียญเงิน 13 เหรียญทองแดง รวม 61 เหรียญ
อันดับ 3 สหรัฐอเมริกา : 20 เหรียญทอง 22 เหรียญเงิน 11 เหรียญทองแดง รวม 53 เหรียญ
อันดับ 4 บราซิล : 14 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน 23 เหรียญทองแดง รวม 48 เหรียญ
อันดับ 5 ฝรั่งเศส : 11 เหรียญทอง 12 เหรียญเงิน 15 เหรียญทองแดง รวม 38 เหรียญ
อันดับ 6 อิตาลี : 10 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน 17 เหรียญทองแดง รวม 35 เหรียญ
อันดับ 7 ยูเครน : 9 เหรียญทอง 15 เหรียญเงิน 21 เหรียญทองแดง รวม 45 เหรียญ
อันดับ 8 ออสเตรเลีย : 9 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 14 เหรียญทองแดง รวม 32 เหรียญ
อันดับ 9 เนเธอร์แลนด์ : 9 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง รวม 18 เหรียญ
อันดับ 10 อุซเบกิสถาน : 6 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง รวม 14 เหรียญ
อันดับ 16 ไทย : 4 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง รวม 14 เหรียญ