วันที่ 21 มิ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ ได้รับรายงานว่า จนท.พมจ.กระบี่ พร้อม ผญบ.ในพื้นที่หมู่ 2 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านเลขที่ 104/10 หมู่ 2 หลังมีเด็ก 3 คน ส่งเรื่องไปที่สื่อโซเชี่ยลใน จ.นครศรีธรรมราช ให้ช่วยตามหาแม่

ที่บ้านหลังดังกล่าวพบนายสิทธิชัย อายุ 47 ปี พร้อมกับลูกชาย 3 คน คือ ด.ช.ทวีโชค อายุ 14 ปี ด.ช.อนุชพร อายุ 9 ปี และ ด.ช.วีรพัฒน์ อายุ 7 ปี และมีลูกชายคนโตอีก 1 คน คือ นายเทพารักษ์ อายุ 20 ปี ไปอยู่กับแม่ของนายสิทธิชัย หลังอยู่กินกันมา 24 ปี

นายสิทธิชัย ผู้เป็นพ่อของเด็กขอให้นางนิตนรา เป็นแม่เด็กกลับมาตามที่ลูกเรียกร้อง หลังทิ้งไป ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดมือที่สามของแม่ได้พาแม่หนีไปอยู่เกาะลันตา เมื่อลูกโทรไปหาไม่ยอมรับสายลูก สรุปว่าแม่ใจร้ายเลือกอยู่กับสามีใหม่ และทิ้งลูกทั้ง 3 คนตามเวรตามกรรมใจร้ายที่สุดทิ้งลูกในไส้ตัวเองหลงสามีใหม่จนลืมลูก

นายสิทธิชัย ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า เหตุที่ต้องร้องเรียนไปทางสื่อ เพราะ นางนิตนรา อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นภรรยา ได้หนีออกจากบ้านไปกับชายคนใหม่ที่มีชื่อเล่นว่านายดำ ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ทิ้งลูกทั้ง 3 ไวักับตนที่ต้องดูแลรับผิดชอบ ซึ่งคนโตได้ออกจากโรงเรียนแล้ว และอีก 2 คน ยังเรียนอยู่ จึงวอนให้ภรรยาที่หนีไป ให้กลับมาเลี้ยงลูกเหมือนเดิมด้วย ตนเองก็จะได้ออกไปทำงานได้ตามปกติ

• อัพเดตอาการ! น้องข้าวสาก หลังป่วยหนัก ภาวะตับอ่อนอักเสบ
• ‘MK’ ขอรับผิดชอบทุกอย่าง หลังลูกค้าแพ้อาหารที่ร้านจนแอดมิท
• ทนแรงต้านทานไม่ไหว อานตี้ แอนส์ ประกาศ ไล่พนักงานด่าลูกค้าในร้าน ออกทันที

ปกติจะอยู่กันที่บ้านอีกหลัง แต่ช่วงที่ภรรยาหนีหายไปตนทำงานกรีดยางอยู่อีกพื้นที่ กลับมาถึงบ้านหลังนี้ตอนเช้ามืดแล้วจึงเข้านอน ตื่นมาอีกทีก็ไม่เจอภรรยาแล้ว ก็เข้าใจว่าพาลูกไปอยู่บ้านอีกหลัง จนผ่านไปหลายวัน ก็พาลูกมาทิ้งไว้ที่บ้านหลังนี้ แล้วเจ้าตัวก็หายไปซึ่งตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะภรรยาและชายคนใหม่ไม่มีโทรศัพท์ โดยตนทราบจากคนรู้จักว่า ภรรยาไปอยู่กับนายดำซึ่งเป็นลูกของพ่อเลี้ยง เพราะแม่ของนายสิทธิชัยไปคบกับพ่อของนายดำ จึงเริ่มรู้จักกันเพราะไปกรีดยางที่เดียวกัน ภรรยาตนจึงเริ่มรู้จักกับนายดำ จนกระทั่งมาชวนกันหนีไปดังกล่าว

เบื้องต้น ทางด้าน จนท.พม.จ.กระบี่ ช่วยประสานให้เด็กทั้ง 3 คน ได้เข้าเรียน โดยเฉพาะคนโตที่ออกจากโรงเรียนแล้ว ให้กลับไปเรียนปรับพื้นฐานใหม่ และได้มอบข้าวสารอาหารแห้งของใช้จำเป็นไว้ก่อน จากนั้นจะติดตามหาแม่ของเด็ก เพื่อเจรจาพูดคุยแก้ปัญหาต่อไป