อธิบดีสรรมสามิต เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีล่อซื้อน้ำส้ม 500 ขวด – สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ 3 ราย ออกจาก กทม.แล้ว ขณะคำอธิบายก่อนหน้าของ “ณัฐกร อุเทนสุต” อ้างว่าไม่มีการเรียกเก็บเงิน 12,000 บาท อย่างที่เป็นข่าว
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้เผยแพร่เรื่องราวถูกเจ้าหน้าที่ล่อซื้อน้ำส้มจำนวน 500 ขวด ก่อนที่จะโดนถามหาใบอนุญาต พร้อมกับเรียกเงินค่าปรับจำนวน 12,000 บาท ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ถามถึงความเหมาะสมว่าเจ้าหน้าที่สามารถทำได้หรือไม่
ล่าสุด วันที่ 17 มิ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตนได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ที่ปรากฏเป็นข่าวรวม 3 คน ออกนอกพื้นที่เกิดเหตุในกรุงเทพฯ เป็นที่เรียบร้อย พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการด่วน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่กระจ่างแก่สังคม
“ทั้งนี้ ขอยืนยันกรมสรรพสามิต ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ออกรังแกประชาชนไปล่อซื้อในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดเช่นนี้เป็นอันขาด”
ก่อนหน้านี้ (16 มิ.ย.2564) ณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กรมฯ ได้รับการแจ้งเบาะแสจากผู้ประกอบอุตสาหกรรมที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง ว่ามีบางโรงงานผลิตเครื่องดื่มที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิต จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ และได้ดำเนินการให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมเข้าระบบและเสียภาษีอย่างถูกต้องแล้วจำนวน 4 ราย
โดยรายนี้ เป็นรายที่ 5 ซึ่งพบว่า ผลิตเครื่องดื่มไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิต เจ้าหน้าที่จึงได้ให้คำแนะนำเพื่อให้เข้ามาอยู่ในระบบและเสียภาษีสรรพสามิตอย่างถูกต้อง ไม่ได้เรียกค่าปรับเงิน จำนวน 12,000 บาท ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
- แม่ค้าสุดช้ำ เร่งทำน้ำส้ม 500 ขวด สุดท้ายเจอถามหาใบอนุญาต เสียค่าปรับ 12,000
- สรรพสามิตแจงดราม่า “น้ำส้ม” ผลิตไม่ได้มาตรฐาน-ไม่เสียภาษี ยันไม่ได้เรียกเก็บ 12,000 บาท