Huawei ประเทศไทยได้เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นหูฟังรุ่น FreeClip และ HUAWEI MatePad Pro 13.2 รุ่นใหม่ล่าสุดเห็นแบบนี้แล้วมันน่าใช้จริงไหม เรามาดูกันว่ามันเป็นอย่างไร
HUAWEI FreeClip
หูฟังไร้สายจะบอกว่ามันแบบ Open Fit หูฟังไร้สายที่ออกแบบเป็นแบบตัว C ออกแบบได้สมมาตร ไม่เหมือนใคร โดยออกแบบคล้ายกับสถาปัตยกรรมที่ดู Minimal และนอกจากนี้ยังทำให้เราใส่ได้สบาย ลดอาการแบคทีเรียในหูลดลง เพราะตัวนี้จะอยู่ที่ช่องหูเท่านั้น และลดการเกิดอุบัติเหตุได้เพราะมันไม่ได้อยู่ในหู
น้ำหนักเพียง 5.7 กรัมเท่านั้นและใส่แล้วสบายกระโดด หรือวิ่งได้แบบไม่ต้องกลัวหลุด เพราะตัวหูฟังสามารถปรับได้เป็นหลากหลายครั้ง โดยสามารถปรับเป็นแบบ Acustic Ball, Comfort Bean ที่เหมาะกับหูเรา, มีการทดสอบกับคนกว่า 100 คนที่ใส่แล้วว่าส่วนไหนสบาย รวมถึงระยะห่างของ Acustic Ball และ Comfort Bean ว่าแบบไหนที่จะใส่สบายสุด
ข้างในของก้านจะมีสายไฟ 9 เส้นและติดตั้ง Nickel-Titanium (Ni-Ti) ในการหูฟังนี้ออกจะกลับมาใช้รูปทรงเป็นตัวปกติเอง และหุ้มด้วย TPU ช่วยให้การสัมผัสมีความนุ่มนวลไม่ระคายเคือง ใช้งานได้ทั้งวัน แบบไม่รู้สึกระคายเคืองและเจ็บหู และได้ยินเสียงรอบข้าง
นอกจากนี้ยังสามารถใส่สลับซ้ายหรือขวาได้ รองรับการเชื่อมต่อแบบ Dual Device แบบอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องอุปกรณ์ของ Huawei ก็ได้
คุณภาพเสียงที่ / ไมโครโฟน
สำหรับหูฟังรุ่นนี้จะใช้ Dynamic Driver ขนาด 10.8 มิลลิเมตร ได้ยินเสียงเบสที่ดีและมีการปรับปรุงเสียงที่ดีและให้เสียงเข้าไปที่หู ทิศทางของเสียงไปก่อนและเกิดการสะท้อนกลับ ทำให้คุณได้ยินเสียงที่ชัดเจน แต่เสียงภายในก็จะข้างๆ จะไม่ได้ยินเสียงเพลงว่าเพลงอะไร
นอกจากนี้การจัดการเรื่องของไมโครโฟนยังทำได้ดีควบคุมง่ายผ่านทาง AI Life
แบตเตอรี่ของหูฟังสามารถใช้งานได้ 8 ชั่วโมง และสามารถเก็บเข้ากล่องสามารถใช้งานได้ 36 ชั่วโมง คุยสายได้ 5.5 ชั่วโมง และเคสรวมกัน 22 ชั่วโมง และ มี Quick Charge 10 นาทีใช้งานได้ 4 ชั่วโมงแถมกันน้ำ IP54 กันน้ำกันเหงื่อ
ราคาอย่างเป็นทางการ 6,490 บาท แต่บอกก่อนสีม่วงมีจำนวนจำกัด
HUAWEI MatePad Pro 13.2
รอบนี้มาพร้อมกับขนาดใหญ่สุดของ HUAWEI MatePad ตั้งแต่ที่เคยมีมา เพราะมาพร้อมกับหน้าจอแบบ Flexible OLED ขนาด 13.2 นิ้ว และทุกอย่างใหญ่ขึ้นดีขึ้นและเครื่องเบาลงกว่าเดิม ขอบหน้าจอบางลงให้พื้นที่ 94% ความสว่าง 1,000 nits ขอบเขตการแสดงผลสี DCI-P3 ความลึกของสีที่ลึกมากและอัตราส่วน 3:2 โดย MatePad Pro จะมาพื้นที่ 16:10
และถนอมสายตาแบบ TUV Rheinland Eye Comfort 3.0 แต่ตัดเฉพาะบางช่วงเท่านั้นและหน้าจอจะไม่เหลืองมากนัก มาพร้อมกับขอบเขตการสีที่คมชัดไม่ผิดเพี้ยน Tablet หน้าจอใหญ่ที่น้ำหนัก 580 กรัม (เฉพาะเครื่อง) สีด้านหลังมาเฉพาะสีเขียว
HUAWEI MatePad Pro 13.2 จะมาพร้อมกับ M-Pencil รุ่นใหม่ รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ระยะสั้น NearLink มันคือ Protocol การเชื่อมต่อระยะสั้นทีทำให้การเขียนปากกาได้ละเอียดมากกว่าเดิม โดยเก็บได้มากถึง 10,000 ระดับ และทำให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากขึ้น และจะรองรับการเขียนได้เร็วมากขึ้น
- HUAWEI Note รุ่นใหม่ที่จะสามารถส่งให้อุปกรณ์ HUAWEI แล้วสามารถแก้ไขไดโดยใช้สกุลไฟล์ HiNOTE
- รองรับการวางและออกแบบดีไซน์ทำให้สามารถวาดกับโปรแกรมต่างๆ มากมาย
นอกจากนี้ยังมีลำโพงทั้งหมด 4 ตัวออกมาทั้งหมด และมีย่านเสียงที่ดีทั้งเบสและเสียงแหลม เท่าๆ กันแม้ว่าตัวเครื่องจะบางเฉียบก็ตาม โดยมี 4 Woofer 2 Tweeter และยังมีระบบเสียงปรับโดยทั้งหมด 4 รูปแบบ
นอกจากนี้ยังออกเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ออกแบบทำได้ดีขึ้นและมีการออกแบบระบบระบายความร้อนแบบ แผ่นกราไฟต์ 2 จุด
Keyboard จะออกแบบให้ฐานอยู่ด้านหลัง และ สามารถกดได้ด้วยมือเดียว และยังชาร์จไฟแบบไร้สาย มันต่างจาก Tablet ก่อนหน้านี้ และตัว Touchpad จะเหมือนกับการทัชบนหน้าจอ และยังรองรับ Multi Window ที่ปรับได้มากกว่าเดิม
กล้องหน้า 16 MP + ToF และมีกล้องหลักมุมกว้าง และ 13 ล้านพิกเซล RAM 12GB / 512GB และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 10100 mAh Bluetooth 5.2 พร้อมกับ Harmony OS 4.0 ไม่รองรับ SIM Card ชาร์จไฟ USB-C ออกหน้าจอได้ด้วย และ Huawei Share + Huawei Super Device
ราคาเปิดตัว 39,990 บาทของแถมจัดหนักมาก โดยเริ่มวางจำหน่ายช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ เช่นเดียวกัน ถ้าคิดว่ารู้แค่นี้ยังไม่จุใจและอยากรู้ว่ามันทำงานได้จริงแค่ไหน เจอกันในรีวิวเร็วๆ นี้ครับ