หญิงอายุ 16 ปี หอบลูกน้อยเพียงเดือนเศษ หนีผัวหลอนยาบ้าคลุ้มคลั่งตบตี ถือมีดขู่ฆ่าทั้งแม่และลูก ไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้พากลับบ้านเกิด นายอำเภอทราบเรื่องควักเงินส่วนตัวเป็นค่าน้ำมันให้กู้ภัยตำรวจทางหลวงส่งกลับบ้านที่กาฬสินธุ์ และให้เงินไว้ดูแลลูกด้วย
หญิงวัย 16 เล่าทั้งน้ำตาโดนสามีทำร้ายตั้งแต่ท้องจนคลอดลูก ชาวบ้านเผยสุดหดหู่ใจบางวันแม่ไม่มีเงินต้องไปขอข้าววัดกิน
วันที่ 21 ก.ย. 66 หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านตำบลบ้านสิงห์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีหญิงคนหนึ่งอายุ 16 ปี อุ้มลูกน้อยวัยเพียงเดือนเศษหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน เพราะโดนสามีทำร้ายร่างกายและถือมีดข่มขู่จะฆ่า จากนั้นหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง
เมื่อไปถึงบ้านหลังหนึ่งในตำบลบ้านสิงห์ ก็พบครอบครัวหนึ่งได้ให้ที่พักพิงและช่วยเหลือหญิงสาวอายุ 16 ปี พร้อมลูกน้อยวัย 1 เดือนเศษ ซึ่งได้หนีจากสามีที่หลอนยาบ้าคลุ้มคลั่งมาจากตำบลหนองโบสถ์ อ.นางรอง อยู่ในอาการตกใจกลัว
จากการสอบถาม น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี หญิงสาวที่อุ้มลูกน้อยหนีจากสามีเมายาคลั่ง ก็เล่าทั้งน้ำตาว่า ปกติตนเป็นชาว จ.กาฬสินธุ์ ได้มาอยู่กินกับนายเจมส์ อายุ 20 ปี ที่ ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ฉันสามีภรรยาได้ประมาณ 1 ปีกว่า
หลังจากตนตั้งท้องได้ประมาณ 7 – 8 เดือน สามีก็ชอบดุด่าบางครั้งที่สามีหลอนยาบ้า ก็จะใช้กำลังตบตีทำร้าย กระชากผม แต่ก็ทนมาตลอดเพราะไม่อยากให้ลูกกำพร้าพ่อ
แต่ล่าสุดถึงขั้นถือมีดขู่จะฆ่าทั้งตนเองและลูก ด้วยความกลัวจึงไปขอให้ชาวบ้านช่วยเหลือพาไปส่งที่ บขส.เพราะอยากกลับบ้านไปหาแม่ที่ จ.กาฬสินธุ์ กลัวว่าหากอยู่ต่อจะถูกสามีทำร้ายทั้งตนเองและลูกน้อย แต่ก็ไม่มีเงินติดตัวสักบาทเพราะไม่ได้ทำงาน
จากนั้นหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ จึงได้ประสานไปยังทางอำเภอเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือทั้งแม่และลูก เมื่อนางสาวเพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ได้ให้พาทั้งแม่และลูกไปที่ที่ว่าการอำเภอนางรอง เพื่อสอบถามรายละเอียดเกิดขึ้น
เมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดและความประสงค์ของ น.ส.เอ ท่านนายอำเภอก็ได้โทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกับแม่ของ น.ส.เอ พร้อมทั้งได้ควักเงินส่วนตัว ให้หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์
สำหรับเป็นค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการขับรถไปส่งแม่และเด็กที่ จ.กาฬสินธุ์ เพราะหากให้เดินทางกลับด้วยรถโดยสารก็กลัวจะไม่สะดวกเนื่องจากลูกยังเล็กมาก พร้อมกันนี้ยังได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับ น.ส.เอ หญิงวัย 16 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางดูแลลูกด้วย
จากการสอบถาม น.ส.บี อายุ 16 ปี ซึ่งก็เป็นญาติพี่น้องกับนายเจมส์ สามีของ น.ส.เอ บอกว่า ที่ผ่านมาก็เห็นนายเจมส์ ชอบดุด่าและทำร้าย น.ส.เอ บ่อยครั้ง เนื่องจากนายเจมส์ เสพยาบ้ามากจนหลอน บางครั้งถึงขั้นถือมีดขู่จะฆ่าทั้งแม่และลูกตัวเองด้วย จน น.ส.เอ ทนไม่ไหวขอร้องให้พาไปส่งที่ บขส. เพื่อจะหนีกลับบ้านที่ จ.กาฬสินธุ์ กลัวว่าถ้าอยู่ต่อไปอาจจะเป็นอันตราย
แต่เนื่องจาก น.ส.เอ ไม่มีเงินติดต่อสักบาท ตนจึงพาขับรถ จยย.มาที่บ้านตนเองก่อนซึ่งอยู่คนละตำบล เพื่อมาปรึกษากับแม่ว่าจะช่วยยังไง ก่อนจะประสานหน่วยกู้ภัยฯ ช่วยเหลือ แม้ตนจะเป็นญาติของนายเจมส์ แต่ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้ สงสาร น.ส.เอ เพราะขนาดตอนคลอดก็ไม่มีเงินสักบาท ยังดีที่ รพ.ให้ใช้สิทธิ์ 30 บาท
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่ น.ส.เอ อาศัยอยู่กับสามี แต่พบบ้านปิดไม่มีใครอยู่ จึงได้ไปสอบถาม เพื่อนบ้าน บอกว่า เห็น น.ส.เอ มาอยู่กินกับนายเจมส์ ได้ประมาณปีกว่าแล้ว
ที่ผ่านมา น.ส.เอ ก็จะชอบมาเล่าให้ฟังว่า สามีน้องเวลาหลอนยาบ้า จะชอบทำร้ายร่างกาย บางครั้งก็ขู่จะฆ่า ที่ผ่านมา น.ส.เอ ก็เคยมาขอยืมเงินไปซื้อแพมเพิสเพราะไม่มีเงินตนสงสารก็ให้ยืมเห็นว่ามีลูกน้อย บางครั้งไม่มีเงินซื้อข้าว ก็ไปขอข้าวจากวัดมากิน ก็น่าเห็นใจและน่าสงสารเพราะ น.ส.เอ ก็อายุยังน้อย แล้วยังมามีลูกอีก