แม้สถิติการเปิดสนามเอเชียน คัพ ตลอดหน้าประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของ ไทย จะติดลบเละเทะ แต่เมื่อขึ้นศักราชใหม่ พร้อมกับกุนซือใหม่อย่าง มาซาทาดะ อิชิอิ ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เมื่อทัพช้างศึกงัดฟอร์มหรูอย่างที่ไม่เคยได้เห็นมานาน สยบ คีร์กีซสถาน สวยงาม 2-0 ชนิดที่ถ้าเฉียบคมกันกว่านี้หน่อย อาจมี 4-0 หรือ 5-0 ไปแล้วด้วยซ้ำ
คะแนนนักเตะทีมชาติไทย
ปฏิวัติ คำไหม – 7
กลายเป็นคนที่งานน้อยที่สุดในเกม ครึ่งแรกไมต้องออกแรงเซฟสำคัญเลย แถมมีจังหวะออกบอลสวยๆ โดยเฉพาะช่วงทดเจ็บที่สาดให้ ศุภณัฏฐ์ ทะลุเดี่ยวไปยิง จากนั้นครึ่งหลังก็คล้ายๆเดิม แม้งานชุกขึ้นบ้างแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา
ธีราทร บุญมาทัน – 7
เติมเกมรุกได้ไหลลื่นเลยในช่วงต้นเกม กระนั้นถือว่าโดนใบเหลืองแรกเร็วไปหน่อยในแค่ 8 นาทีแรก ทำให้ต้องพยายามเล่นอย่างระมัดระวังตลอดช่วงหลังจากนั้น แต่ก็ยังมีทิ้งบอลยาวสวยๆให้เห็นบ้าง
เอเลียส ดอเลาะ – 8
แสดงให้เห็นว่าตั้งใจเล่นอย่างไม่ประมาท เน้นความเด็ดขาดในบอลสุดท้ายแบบไม่เสียดายที่จะเตะทิ้ง และปิดกั้นเกมบุกของคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ทางหนึ่งคือกองหน้า คีร์กีซสถาน ไม่แข็งนักก็ตาม
พรรษา เหมวิบูลย์ – 7
ครึ่งแรกมีสกัดจังหวะสำคัญๆให้เห็นบ้าง แต่ยังไม่ถูกทดสอบจากเกมรุกคู่แข่งมากนัก ส่วนครึ่งหลังมีจังหวะทำบอลลั่นเสียเองให้เห็น ยังดีที่ไม่ถึงกับเสียประตู
นิโคลัส มิคเกลสัน – 8
ขึ้นเกมทางขวาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการปาดเข้าในแล้วไปจบที่ประตูในนาทีที่ 16 แต่โชคร้ายที่เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน ขณะที่เกมรับก็เผชิญหน้ากับตัวริมเส้นคู่แข่งอย่างไม่หวั่นไหว จากนั้นเมื่อเริ่มครึ่งหลังก็เปิดคมๆให้ สุภโชค โหม่งติดกองหลังและเสร็จ ศุภชัย บวกเป็น 2-0
พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี – 7
ทำหน้าที่ตัวตัดเกมอย่างมีคุณภาพในครึ่งแรก หลายๆจังหวะสามารถเข้าถึงลูกได้ก่อนคู่แข่ง เป็นส่วนสำคัญของการที่ไม่โดนเจาะหลังบ้าน กระนั้นก็โชคร้ายที่เกิดปัญหาบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนออกเมื่อเริ่มครึ่งหลัง
วีระเทพ ป้อมพันธุ์ – 8
ปักหลักประสานงานกับคู่กลางอย่าง พีรดนย์ ได้เป็นอย่างดีในครึ่งแรก และครึ่งหลังก็รักษามาตรฐานเดิม โดยถือว่าเล่นได้ตามที่โค้ชสั่งมาแทบทุกอย่าง และแทบไม่เห็นว่ามีช็อตเล่นผิดพลาดอะไรเลย
บดินทร์ ผาลา – 7
ประสานงานทางกราบซ้ายกับ ธีราทร ได้ดีในช่วงต้น และมีส่วนสำคัญยิ่งในประตูนำ 1-0 จากการส่องไกลหน้าเขตโทษไปติดเซฟนายทวารและ ศุภชัย ซ้ำดาบสองเข้าไป กระนั้นครึ่งหลังค่อนข้างเงียบไปหน่อย
สุภโชค สารชาติ – 8
เทียบกับเพื่อนแล้วอาจจะเงียบไปนิดในช่วงต้น แต่ก็พยายามวิ่งเยอะและเล่นตามแท็กติก รวมถึงถอยลงช่วยงานเกมรับเยอะทีเดียว แต่ในครึ่งหลังเมื่อเริ่มดันสูงขึ้นก็มีส่วนกับลูก 2-0 ทันทีด้วยการโขกติดกองหลัง เข้าทาง ศุภชัย ปิดบัญชีเข้าไป
ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา – 6
ได้โอกาสตะบันเน้นๆระยะอันตราย แต่กดไปชนเสาเข้าอย่างจัง จนแม้เพื่อนจะซ้ำเข้าไปแต่ก็ล้ำหน้า จากนั้นอีกไม่กี่นาทีก็ทะลุเข้าไปซัดชนคานเต็มๆ ต่อด้วยทดเจ็บครึ่งแรกทะลุเดี่ยวไปยิงออกเอง แล้วต้นครึ่งหลังก็ได้ยิงโล่งๆอีกแต่ไม่ผ่านเซฟ เท่ากับเกมนี้แม้วูบวาบ แต่ไม่เฉียบคมเอาเลย
ศุภชัย ใจเด็ด – 9
สบโอกาสยิงช้ำจ่อๆเข้าประตูในนาทีที่ 16 แต่ VAR ฟ้องว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า จากนั้นก็เช็กบิลสำเร็จด้วยการยิงซ้ำลูกที่นายทวารปัดออกมา เป็นประตูนำ 1-0 ในนาที 26 สำคัญกว่าคือการยืนถูกที่ถูกเวลา จนเบิ้ล 2-0 ได้ในต้นครึ่งหลัง
สำรอง
สารัช อยู่เย็น (แทน พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี น.46) – 7
ลงไปมีบทบาทเยอะทีเดียวในครึ่งหลัง เล่นได้เข้ากับมาตรฐานของเพื่อนร่วมทีม และมีสอดเข้ายิงจากแถวสองให้เห็นบ้างเหมือนกัน
เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (แทน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา น.69) – 6
ความวูบวาบต่างกันเยอะเมื่อเทียบกับ ศุภณัฏฐ์ เพียงแต่ก็เข้าใจได้ว่าลงไปในช่วงที่ ไทย ต้องพยายามตั้งรับตรึงสกอร์ไว้เป็นหลัก
ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (แทน บดินทร์ ผาลา น.69) – 6
ลงไปเล่นเกมริมเส้นซ้ายแทนเพื่อนร่วมสังกัด และถือว่าวิ่งเยอะ ช่วยเกมรับได้ แต่เกมรุกไม่โดดเด่น
ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (แทน ศุภชัย ใจเด็ด น.77) – 5
ได้รับโอกาสใหญ่ในวัยเพียง 21 ปี แต่ก็ยังไม่มีบทบาทกับเกมเท่าที่ควรในการลงสำรองช่วง 10 กว่านาทีสุดท้าย
วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (แทน สุภโชค สารชาติ น.88) – N/A
มีเวลาได้อยู่ในสนามน้อยเกินไป จนแทบไม่ได้สัมผัสบอลเลย