สหรัฐ อียู จ่อคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพิ่ม ปมพลเรือนตายหมู่ในยูเครน
วันที่ 6 เม.ย. บีบีซี รายงานสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศยูเครนที่ยังยืดเยื้อหลังรัสเซียรุกรานว่า สหรัฐอเมริการะบุว่า บรรดาผู้นำชาติตะวันตกจะประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพิ่มเติม
เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐ กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะมุ่งเป้าไปที่หน่วยทางทางการเงินและหน่วยงานรัฐของรัสเซีย ตลอดจนเจ้าหน้าที่และกลุ่มเศรษฐีทางการเมืองรัสเซีย ซึ่งมีผลต่อระบอบเผด็จการรัสเซียที่ให้เงินทุนและสนับสนุนสงครามของปูติน
ซากีกล่าวในการแถลงข่าวในกรุงวอชิงตันเมื่อวันอังคารที่ 5 เม.ย. ว่า มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมการห้ามการลงทุนทั้งหมดในรัสเซีย จะลดทอนเครื่องมือสำคัญของอำนาจรัฐรัสเซีย เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างเฉียบพลันทันทีต่อรัสเซีย
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีตเจอร์นัลรายงานวันอังคารที่ 5 เม.ย. ว่า ซเบียร์แบงก์ ธนาคารผู้ให้กู้ยืมรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย อาจอยู่ในรายชื่อที่จะถูกคว่ำบาตรระลอกใหม่ ขณะที่สื่อสหรัฐชี้ว่า มาตรการคว่ำบาตรดังกล่างยังอาจมุ่งเป้าไปที่ลูกสาว 2 คน ของนายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ซากีจะปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อรายงานข้างต้น และเสริมว่า การประกาศมาตรการคว่ำบาตรจะดำเนินการร่วมกับอียูและประเทศอื่นๆ ในจี 7 มาตรการคว่ำบาตรที่ขยายวงกว้างออกไปจะส่งผลให้รัสเซียโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจ การเงิน และเทคโนโลยี
เมื่อวันอังคารที่ 5 เม.ย. คณะกรรมาธิการยุโรปยื่นข้อเสนอมาตรการคว่ำบาตรในวงกว้างครั้งใหม่ต่อรัสเซีย รวมถึงการห้ามนำเข้าถ่านหินของรัสเซีย และมาตรการเพิ่มเติมมุ่งเป้าไปที่ธุรกิจของรัฐ เจ้าหน้าที่ และมหาเศรษฐีทางการเมืองในรัสเซีย
ข้อเสนอการห้ามใช้ถ่านหินของรัสเซีย หากได้รับความเห็นชอบจากทั้งหมด 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) จะถือเป็นครั้งแรกที่อียูปิดกั้นการนำเข้าพลังงานของรัสเซีย ทั้งนี้ อียูซื้อถ่านหินจากรัสเซีย มูลค่าราว 4 พันล้านยูโรต่อปี (146,520 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม สมาชิกบางประเทศของอียู รวมถึงเยอรมนี พึ่งพาพลังงานของรัสเซียอย่างมาก และไม่เต็มใจที่จะมุ่งเป้าการคว่ำบาตรที่ภาคส่วนพลังงานโดยตรง แต่ท่าทีดูจะเปลี่ยนไปเมื่อหลักฐานของอาชญากรรมสงครามของรัสเซียปรากฏขึ้น ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง เข้าร่วมเรียกร้องการห้ามนำเข้าพลังงานรัสเซียเมื่อต้นสัปดาห์นี้
…………..
นอกจากนี้ คาดว่ารัฐสมาชิกอียูจะห้ามการทำธุรกรรมเต็มรูปแบบกับธนาคารรัสเซีย 4 แห่ง และห้ามการนำเข้าสินค้าอื่นๆ ของรัสเซียและเบลารุส รวมถึงไม้ ซีเมนต์ อาหารทะเล และสุรา มูลค่า 5,500 ล้านยูโร (201,505 ล้านบาท)
อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า ตั้งใจที่จะปิดกั้นท่าเรือของอียูจากจากเรือรัสเซีย ห้ามผู้ประกอบการขนส่งทางถนนของรัสเซียและเบลารุสเข้ามาในอียู และกล่าวหารัสเซียทำสงครามโหดร้ายและไร้ความปราณีกับพลเรือนยูเครน และอียูต้องคงแรงกดดันสูงสุดต่อปูตินและรัฐบาลรัสเซียที่จุดวิกฤตนี้
อย่างไรก็ตาม กาเบรียลเลียส ลันด์สเบริจิส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย วิจารณ์ข้อเสนอมาตรคว่ำบาตรเป็นการตอบโต้อ่อนแอซึ่งจะเป็นการเปิดประตูให้ความโหดร้ายเข้ามาในยูเครนเพิ่มขึ้น “ถ่านหิน ธนาคาร 4 แห่ง… การปิดกั้นท่าเรือและพรมแดนไม่ใช่มาตรการคว่ำบาตรที่เพียงพอต่อการสังหารหมู่ที่กำลังถูกเปิดเผย” ลันด์สเบริจิสโพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์
…………..
วันเดียวกัน ในการปราศรัยต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวหาคณะผู้นำรัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน และเรียกร้องนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
“กองทัพรัสเซียค้นหาและตั้งใจฆ่าทุกคนที่รับใช้ชาติของเรา พวกเขาฆ่าทั้งครอบครัว ผู้ใหญ่ และเด็ก และพยายามเผาศพ” นายเซเลนสกีกล่าว
ความเคลื่อนไหวในการเรียกร้องคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซียเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่วันนี้ ท่ามกลางข้อครหาเกี่ยวกับความโหดเหี้ยมของกองทัพรัสเซียในเมืองบูชา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ
นายอะนาโตลี เฟโดรุค นายกเทศมนตรีเมืองบูชา ให้สัมภาษณ์บีบีซ เมื่อค่ำวันอังคารที่ 4 เม.ย. ว่า กองทัพรัสเซียสังหารพลเรือนราว 320 ราย ระหว่างการยึดครองเมืองบูชา ขณะที่ภาพถ่ายเผยหลุมศพจำนวนมากเรียกเสียงประณามจากชาติตะวันตก