สหรัฐขีดเส้นตาย”ติ๊กต็อก”– วันที่ 28 ก.พ.เอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาขีดเส้นตายให้เวลาหน่วยงานรัฐส่วนกลาง 30 วันเพื่อลบแอพพลิเคชั่นติ๊กต็อกของไบต์แดนซ์ บริษัทเทคโนโลยี สัญชาติจีนออกจากอุปกรณ์ของรัฐบาล หลังจากรัฐสภาสหรัฐออกกฎหมายสั่งห้าม

น.ส.ชลันดา ยัง ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณและการจัดการของสหรัฐเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาลลบและไม่อนุญาตการติดตั้งติ๊กต็อกบนอุปกรณ์ที่หน่วยงานเป็นเจ้าของหรืออุปกรณ์ไอทีที่หน่วยงานรัฐใช้ปฏิบัติงาน ตลอดจนห้ามท่องอินเตอร์เน็ตจากอุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อเข้าถึงแอพฯ ทั้งนี้ คำสั่งห้ามดังกล่าวไม่บังคับใช้กับภาคธุรกิจในสหรัฐที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลกลางหรือพลเมืองที่เป็นเอกชนหลายล้านคน ซึ่งนิยมใช้ติ๊กต็อกอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกันหรือแอลซีแอลยู องค์กรไม่แสวงหากำไรจากสหรัฐระบุว่า กฎหมายนี้จะห้ามการใช้ติ๊กต็อกในประเทศได้ผลและเรียกร้องให้สภาคองเกรสต้องไม่เซนเซอร์แพลตฟอร์มทั้งหมดและไม่เพิกถอนสิทธิเสรีภาพในการพูดและแสดงออกตามรัฐธรรมนูญของชาวอเมริกัน ชาวอเมริกันมีสิทธิใช้ติ๊กต็อกและแพลตฟอร์มอื่นๆเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันรวมถึงกับคนทั่วโลก

นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาลงนามในกฎหมายห้ามใช้ติ๊กต็อกในอุปกรณ์ของรัฐบาลเมื่อเดือนที่แล้วรวมถึงห้ามใช้ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและวุฒิสภาด้วย เนื่องจากสภาความมั่นคงแห่งชาติกังวลในประเด็นที่สหรัฐกล่าวหาว่า การสอดแนมจากจีนเพิ่มขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากบอลลูนจีนข้ามน่านฟ้าสหรัฐจนสหรัฐยิงทิ้งในที่สุด

วันเดียวกัน รัฐบาลแคนาดาสั่งห้ามติ๊กต็อกจากโทรศัพท์และอุปกรณ์อื่นๆทุกชนิดของรัฐบาล โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.เป็นต้นไป จากข้อกังวลด้านความมั่นคงและความเป็นส่วนตัว ด้วยตระหนักว่าจีนเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้อย่างมาก ด้านโฆษกบริษัทติ๊กต็อกระบุว่า บริษัทผิดหวังอย่างมากจากการตัดสินใจดังกล่าว ความเคลื่อนไหวนี้ เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังคณะกรรมาธิการของสหภาพยุโรปหรืออียูประกาศแผนแบนติ๊กต็อกเช่นกัน

นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ระบุว่า มีความกังวลที่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของแอพพลิเคชั่นติ๊กต็อกที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ ติ๊กต็อกถูกวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นการใช้ข้อมูลส่วนตัวและผูกติดกับรัฐบาลจีน
………..