สสจ.เพชรบูรณ์ แจงแล้ว ปมปล่อยศพยายติดโควิดให้ญาติ ไม่รอผลตรวจออก รพ.รับผิดพลาด เตรียมไปขอโทษญาติ พบเสี่ยงกว่า 200 คน ผลตรวจเบื้องต้นเป็นลบ
จากกรณี ยายวัย 78 ปี เสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนแล้วมีอาการป่วย แต่ภายหลัง รพ.แห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งทำการรักษาตัวผู้เสียชีวิตได้แจ้งว่าผู้เสียชีวิตติดโควิด ทำให้ญาติโวยว่าทำไมไม่รอผลตรวจออกก่อนจึงค่อยปล่อยศพออกมา และข้องใจเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานของโรงพยาบาล
ล่าสุดวันที่ 9 ธ.ค.64 นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สั่งให้ นพ.สมรัฐ ศรีตะกูล ผอ.ร.พ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ สรุปข้อเท็จจริงทั้งหมด และได้มอบหมายให้ นพ.กมล กัญญาประสิทธิ์ สสจ.เพชรบูรณ์ แถลงข่าวเพื่อทำความเข้าใจที่ห้องประชุม ร.พ.หนองไผ่
นพ.ขวัญยืน จุลศรี แพทย์ชำนาญ เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 ธ.ค.64 ญาติได้พาผู้เสียชีวิตเข้ามารักษาตัวที่ ร.พ.หนองไผ่ ด้วยอาการเหนื่อยล้า มีไข้อ่อนเพลีย ถ่ายเหลว เนื่องจากน้ำตาลสูง ซึ่งตัวผู้ป่วยเองมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว คือโรคเบาหวาน ทางทีมแพทย์ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่ไม่พบ จึงได้ให้คนไข้เข้ารักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยรวม อาการโดยรวมดีขึ้นตามลำดับ กระทั่งวันที่ 6 ธ.ค.64 พบว่า ผู้ป่วยมีอาการทรุดหนัก หมดสติ ไม่มีสัญญาณชีพ เนื่องจากปอดติดเชื้อ และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา แพทย์จึงได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง จนกระทั่งผลออกมาพบว่าติดเชื้อโควิด-19
ด้าน นพ.กมล สสจ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่ญาติๆ ติดใจเรื่องการเสียชีวิตว่ามาจากผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนนั้น ข้อนี้แพทย์ยืนยันว่าไม่ใช่ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน แต่เป็นการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 และยังเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน จึงทำให้ผู้เสียชีวิตติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสพร้อมกัน
ซึ่งทีมหมอก็ได้พยายามเต็มที่แล้ว สำหรับเรื่องที่โรงพยาบาลอนุญาตให้นำศพออกไปก่อน แทนที่จะรอให้ผลตรวจโควิด-19 ครั้งที่ 2 ออกมานั้น ซึ่งโรงพยาบาลก็ยอมรับผิดตรงจุดนี้ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ญาติๆ และคนที่มาร่วมงานศพมีความเสี่ยงไปด้วย แต่ทางสาธารณสุขก็ไม่นิ่งนอนใจ ทันทีที่ทราบผลก็ได้รีบส่งทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ พบผู้เสี่ยงสูง 17 ราย ผู้เสี่ยงต่ำ 200 ราย ซึ่งทั้งหมดผลออกมาเป็นลบ และให้อยู่ระหว่างกักตัวเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลังจากนี้ นพ.สมรัฐ ศรีตะกูล ผอ.ร.พ.หนองไผ่ และทีมแพทย์ ก็จะลงพื้นที่เข้าไปขอโทษและทำความเข้าใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตอีกครั้ง