สสจ.อ่างทอง ยันคิวฉีดวัคซีนไม่มีเส้นสายขึ้นอยู่กับความเสี่ยง ดราม่าเกิดจากความขัดแย้งท้องถิ่น
(21 พ.ค.64) กรณี นายเตือนใจ ทรงไตร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอ่างทอง ประกาศกลางห้องประชุมข้าราชการและประธานชุมชนทั้ง 22 ชุมชนในเขตเทศบาล ไม่ร่วมสังฆกรรมรณรงค์การฉีดวัคซีนกับสาธารณสุขอ่างทอง หลังถูกหลอกให้ส่งรายชื่อพนักงานด่านหน้าผู้ต้องการฉีดวัคซีนให้กับทางโรงพยาบาลอ่างทอง จำนวน 33 ราย ตามที่ทางโรงพยาบาลขอรายชื่อมาแต่กลับถูกบอกเลิการฉีดอย่างไม่มีกำหนด และกลับมีการฉีดให้กับกลุ่มคนบางกลุ่มแทน ทำให้พนักงานทั้งหมดถูกหลอก สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้มีนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวิเศษไชยชาญออกมาโวยถถึงกรณีเดียวกันเนื่องจากพนักงานจำนวน 56 รายถูกยกเลิกการฉีดวัคซีนเช่นเดียวกัน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายแพทย์ศรีศักดิ์ ตั้งจิตธรรม สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง เปิดใจถึงกรณีดังกล่าวว่าเป็นความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารและการตรวจสอบสต็อกวัคซีนที่ทางโรงพยาบาลอ่างทองได้รับในการทดสอบระบบฉีดวัคซีนเมื่อช่วงวันที่ 18-20 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อเตรียมรองรับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่จะได้รับ 34,000 โดส โดยทางโรงพยาบาลอ่างทองได้รับชุดแรก 400 โดส เพื่อฉีดให้กับบุคลากร และชุดหลังอีก 361โดส เพื่อทดสอบระบบการฉีดวัคซีน ซึ่งทางผู้บริหารโรงพยาบาลอ่างทองเข้าใจว่าได้รับ 400 โดส ทั้งสองครั้งทำให้มีการเตรียมผู้ต้องการฉีดไว้ แต่เมื่อวัคซีนที่ได้ไม่พอกับจำนวนผู้ที่จะเข้ารับการฉีดและไม่ได้ทำความเข้าใจกันเกิดการคลาดเคลื่อนทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว
เบื้องต้นได้ทำความเข้าใจกับผู้บริหารโรงพยาบาลอ่างทองแล้วและชี้แจงกับประชาชนว่าทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนทุกคนที่ต้องการฉีดแต่จะได้ก่อนหรือหลังขึ้นอยู่กับการลงทะเบียนและความเสี่ยงของกลุ่มนั้นๆ ยืนยันว่าวัคซีนที่อ่างทองไม่มีเส้น ซึ่งทางเราพยายามที่จะรณรงค์ในการฉีดวัคซีนจึงต้องมีการเชิญหัวหน้าหน่วยงานมาฉีดเพื่อสร้างความั่นใจให้กับประชาชน
ส่วนกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีมีการนำบุคคลภายนอกจังหวัดและบุคคลใกล้ชิดนักการเมืองเข้ามาฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ ในวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมาและมีการยกเลิกการฉีดวัคซีนของบุคลากรท้องถิ่น ทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง ปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าว โดยขอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งเนื่องจากเพิ่งทราบเรื่องและยังไม่ได้รับรายงาน ซึ่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทองกล่าวแต่เพียงว่า คนไทยทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการฉีดวัคซีน
