“สมชาย” ลั่นเสนอชื่อ “พิธา” ไม่ได้ ญัตติตกไปแล้ว ต้องรอสมัยประชุมหน้าเท่านั้น ยันจำเป็นต้องดำเนินคดี ผู้ข่มขู่คุกคามครอบครัว ส.ว. ฉะพฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าหลังการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา มี ส.ว.ถูกคุกคามจำนวนมาก ไปยังครอบครัว ธุรกิจ กิจการ สถานที่ราชการ มีจนถึงขึ้นให้คนเดินไปพูด การคุกคามครอบครัว ส.ว. ที่มากเกินไปกว่าการแบนธุรกิจ แต่ที่รับไม่ได้ คือ กรณีประกาศจะข่มขืนลูกสาว ส.ว. จึงมองว่า ไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้ว แต่เป็นการคุกคามรูปแบบใหม่ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีให้สังคมได้ตื่นรู้
ทั้งนี้ นายสมชาย ยอมรับว่า มี สว. กว่า 10% ที่รวมตัวกันทำงานร่วมกับ ทนาย เร่งดำเนินการเรื่องนี้ และมีการตั้งทีม สว.อาสา ที่เป็นนักกฎหมายประชุมร่วมกัน และได้ข้อสรุปว่า จะดำเนินการทุกคดีที่มีหลักฐาน ใครเข้าข่ายในโซเชียลต่างๆ รวมถึงเพจที่ปลุกระดม จะต้องดำเนินการคดีทั้งทางแพ่ง อาญา พร้อมยืนยัน สามารถตรวจค้นได้ทั้งหมดในระบบโซเชียลว่าเป็นใคร ทำอะไร อยู่ที่ไหน โดยขณะนี้จะดำเนินการ 2 เรื่อง คือ แจ้งความต่อตำรวจ และการยื่นฟ้องศาล ซึ่งสัปดาห์นี้ จะฟ้อง 5-6 คดี ยืนยันจะไม่ฟ้องรวมคดี แต่จะฟ้องแยกกรรม ต่างวาระ เพื่อให้เกิดคดีต่อเนื่อง และขอย้ำว่า ไม่ละเว้นใครทั้งสิ้น
ขณะเกียวกัน นายสมชาย ยืนยันไม่ได้เป็นเรื่องที่นำไปตัดสินการโหวตนายกฯ รอบ 2 พร้อมมองว่า การถูกทัวร์ถล่มทางโซเชียลมาจากระบบโรบอต หรือ AI ไม่ใช่คน ทั้งนี้ ที่ผ่านมา คนไทยเกิดความเกลียดชัง ก็มีการสร้างแอคเคาท์หลุม ที่เป็นการชวนให้ประชาชนเข้าใจผิด ซึ่งภาครัฐต้องเร่งแก้ไขเรื่องนี้โดยเร็จ ส่วน สว. จะเดินหน้ากับคนก่อน หากตรวจสอบข้อเท็จจริงไปถึงขบวนการของบางพรรคการเมืองที่อาจอยู่เบื้องหลัง ก็จะจัดการเช่นกัน แต่ยังไม่ขอกล่าวหา หากเกี่ยวข้องกับพรรคใด ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนการโหวตนายกฯ ก็ไปว่ากันในสภา โดยประธานรัฐสภา ได้ออกหนังสือนัดประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้แล้ว
ซึ่งโดยปกติประธานสภาจะต้องหารือกับประธานวุฒิสภาก่อนเพื่อกำหนดวันประชุม แต่ในเมื่อออกกำหนดการแล้ว ส.ว.ก็ไม่ขัดข้อง พร้อมมองว่า การนัดประชุมเป็นไปตามวาระ แต่การเสนอญัตติตามเดิมที่เสนอ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่ง 375 เสียง ก็ถือว่าตกไป ต้องไปเสนอใหม่ในสมัยประชุมหน้า คือวันที่ 12 ธันวาคม 2566
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันนี้เวลา 10.00 น. ตนในฐานะวิปวุฒิสภา จะเป็นตัวแทนประชุมร่วมกันของวิปสามฝ่าย โดยจะหารือกับประธานรัฐสภาเกี่ยวกับความเห็นของ ส.ว.ให้รับทราบ ทั้งนี้ ในวันประชุมร่วมรัฐสภา หากมีการถกเถียงเรื่องการเสนอญัตติ และมีความเห็นแตกต่างกัน ก็ต้องลงมติเพื่อให้ได้ข้อสรุปชัดเจน ว่าจะดำเนินการเลือกนายกรัฐมนตรีต่อหรือให้เลื่อนออกไปก่อน