สมาชิกวุฒิสภาหลายคนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันจันทร์ (24 ก.ค.) ว่าการออกเสียงลงมติเห็นชอบแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่มีพรรคก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาลด้วยนั้น เป็นไปได้ยาก แม้พรรคก้าวไกลตัดสินใจไม่ผลักดันการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ก็ตาม

ออนลั่นไม่ต้องมาเจรจา-จี้ก้าวไกลสละร่วมรัฐบาล

นายออน กาจกระโทก สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เผยว่ามีการพูดคุยเรื่องนี้ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ซึ่งมีคนมองว่า คนที่คิดในจิตสำนึก แม้พักไว้ แต่ยังคิดจะทำ ทำให้ตนไม่ไว้ใจ

สว. รายนี้ กล่าวไปต่อไปว่า หากจัดตั้งรัฐบาลโดยยังมีพรรคก้าวไกล ที่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ก็ยากที่จะผ่าน

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยพยายามมาขอเสียงนั้น นายออนมามองว่าไม่ควรมาเจรจา ไม่ใช่ว่า สว. หยิ่งยโส แต่ สว. ต้องวางตัวเป็นกลาง การมาเจรจาจึงเหมือนมาล็อบบี้ เงื่อนไขที่ตนรับได้คือพรรคก้าวไกลต้องเสียละให้บ้านเมืองเดินหน้า

เสรีแนะลอยแพก้าวไกล

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. อีกคน ที่อยู่ในคณะกรรมาธิการเดียวกัน มองว่าการจัดตั้งรัฐบาลปรองดองเป็นไปได้ แต่ไม่ใช่การรวมทุกพรรคการเมือง จะมีเพียงพรรคก้าวไกลเท่านั้นไม่ี่อาจไม่ได้เข้าร่วม เพราะจุดยืนไม่ตรงกับพรรคอื่น

นอกจากนี้ นายเสรี มองว่าการได้นายกรัฐมนตรีคนนอก ที่ไม่อยู่ในรายชื่อที่พรรคการเมืองยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั้นก็มีโอกาสเกิดได้เช่นกัน แต่อยู่ที่พรรคการเมืองต่างๆ ว่าจะตกลงร่วมกันได้หรือไม่

สมชายย้ำจุดยืนเดิม ไม่หนุนพรรคแก้ ม. 112

นายสมชาย แสวงการ สว. เผยเมื่อวันอาทิตย์ (23 ก.ค.) ว่าตนยังคงย้ำจุดยืนเดิมว่าจะไม่โหวตรับรองนายกรัฐมนตรี ที่มาจากรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลเข้าร่วม เพราะตนไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

สว. รายนี้ให้ความเห็นต่อไปว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยกล้าสลัดพรรคก้าวไกลทิ้งก็จะยินดีออกเสียงให้