สวนสัตว์เชียงใหม่ แจงภาพ ‘หลินฮุ่ย’ เลือดไหล เผยมีฝรั่งเข้ามาไลฟ์สด ขณะแพนด้าหลับ เลือดที่เห็นเป็นเลือดกำเดา ช่วงพี่เลี้ยงเข้าไปช่วยรักษา จนท.วางดอกไม้อาลัย

เมื่อวันที่ 20 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา สวนสัตว์เชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 กรณีการแชร์ภาพหมีแพนด้ามีเลือดกำเดาไหล โดยอ้างว่าเป็นภาพการตายของหมีแพนด้าหลินฮุ่ย ที่ขาดการดูแลนั้น

สวนสัตว์เชียงใหม่ ขอแจ้งว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพของชาวต่างชาติคนหนึ่ง เข้ามาไลฟ์สดในส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า ขณะที่หลินฮุ่ยหลับ ส่วนรอยเลือดที่เห็นเป็นเลือดกำเดาที่ไหลออกไปช่วงพี่เลี้ยงกำลังเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อนำเข้าคอกกัก เพื่อรักษา (ตามที่แถลงข่าวไปแล้วนั้น)

ภาพนี้เป็นภาพหมีแพนด้าหลินฮุ่ยหลับในส่วนจัดแสดง ยังมีชีวิตอยู่ในการสังเกตการณ์ของสัตวแพทย์ และทีมพี่เลี้ยงอย่างใกล้ชิด เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันเดียวคือ 18 เม.ย. มิได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเวลาหลายวันก่อนหน้านั้น

ขณะนี้มีภาพและข้อความต่างๆที่บิดเบือนจากความเป็นจริงไปแชร์ในสื่อออนไลน์จำนวนมาก ทำให้สวนสัตว์เชียงใหม่ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้รับความเสียหาย

สวนสัตว์เชียงใหม่ ขอยืนยันว่า ปฏิบัติตามมาตรฐานการเลี้ยงและดูแล ตลอดจนถึงให้การรักษาอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งไทยและฝ่ายจีน การสูญเสียหมีแพนด้า หลินฮุ่ย เป็นการจากไปที่ยิ่งใหญ่ ของพวกเราชาวสวนสัตว์เชียงใหม่ทุกคน ที่ให้ความรักและผูกพันมา 20 ปีที่ผ่านมา

วันเดียวกัน นายเดชบุญ มาประเสริฐ ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วย ผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้างสวนสัตว์เชียงใหม่ ร่วมกันวางช่อดอกไม้ พร้อมยืนไว้อาลัย เพื่อแสดงความไว้อาลัยแก่หมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” หน้ารูปปั้นหมีแพนด้า ด้านหน้าทางเข้าส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่

บรรยากาศที่บริเวณรูปปั้นหมีแพนด้า ซึ่งเป็นไปด้วยความเศร้าโศก และยังมีแฟนคลับของหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” นำดอกไม้มาวางไว้อาลัย ด้านหน้ารูปภาพขนาดใหญ่ของหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” อีกด้วย

ทั้งนี้ สวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดให้กับนักท่องเที่ยว เข้ามาร่วมวางดอกไม้ เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่หมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” ณ รูปปั้นหมีแพนด้า ด้านหน้าทางเข้าส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป