ความคืบหน้าเกี่ยวกับ แรงงานไทยในอิสราเอล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 นั้นต้องบอกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการอพยพ ทั้งแรงงานหรือประชาชนทั่วไป ทางรัฐบาลนั้นได้เปิดเผยล่าสุดว่า จะมีการเหมาเที่ยวบินลำสุดท้าย โดย นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อความ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ซึ่งระบุให้ แรงงานไทยในอิสราเอล ที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย ด้วยเที่ยวบินอพยพ ให้เดินทางมาที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เทลอาวีฟ ภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เวลา 17.00 น.  (ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงเทลอาวีฟ ซึ่งช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง) ซึ่งต่อจากนี้ การอพยพคนไทยอาจไม่ใช้เที่ยวบินเช่าเหมาลำ ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้อพยพ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ โพสต์ข้อความระบุถึงแรงงานไทยในอิสราเอลที่ประสงค์เดินทางกลับกับเที่ยวบินอพยพให้เดินทางมาที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เทลอาวีฟ ภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เวลา 17.00 น.

โดย กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า เที่ยวบินอพยพคนไทยหลังจากนี้ยังมีอย่างต่อเนื่อง แต่อาจไม่ใช่การเช่าเหมาลำ ซึ่งต้องพิจารณาจากจำนวนคนอพยพ หากมีน้อยก็ไม่สามารถอพยพแบบเหมาลำได้ ส่วนแรงงานไทย ที่พร้อมจะเดินทางกลับเอง ยังสามารถเบิกจ่ายค่าเครื่องบิน ตามนโยบายรัฐบาล

• ครม. เห็นชอบ! โครงการสินเชื่อคืนถิ่น ‘แรงงานไทย’ หลังกลับจากอิสราเอล

• เช็กเลย! แรงงานไทยในอิสราเอล ขอรับเงินค่ากลับประเทศได้แล้ววันนี้

• เปิด 10 รายชื่อ ‘ศพแรงงาน’ ในอิสราเอล เดินทางกลับถึงไทย 1 พ.ย.

คำสุดท้ายก่อนเสียชีวิต

ซึ่งนั้นก็ถือเป็นขั้นตอนในภารกิจช่วยเหลือ คนไทยและแรงงานไทยในอิสราเอล แต่อีกหนึ่งข่าวร้ายที่สร้างความสะเทือนใจอย่างมาก นั้นคือชะตาชีวิตของแรงงานบางคนที่ต้องเสียชีวิต ดังเช่นกรณีนี้ เมื่อมีครอบครัวของ แรงงานไทยในอิสราเอล ที่เสียชีวิตโดยกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นชาวขอนแแก่นนามว่า นายพิทักษ์ โทแหล่ง

โดยในวันนี้ ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน กำลังร่วมกันจัดสถานที่ เพื่อเตรียมรับศพ ที่กำลังจะเดินทางถึงที่บ้านในช่วงเย็นวันนี้ โดยครอบครัวนั้นเปิดเผยกับสื่อว่า นายพิทักษ์ ได้พูดไว้เมื่อปีที่แล้วว่าจะกลับมาอยู่ไทยถาวรและไม่กลับไปทำงานที่อิสราเอลอีก แต่สุดท้ายกลับมาได้แค่ร่างไร้วิญญาณ

“นายพิทักษ์ มีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ช่วงลูกเรียนหนังสือระดับประถม แม่ก็เสียชีวิต นายพิทักษ์ จึงเดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ส่งเงินมาให้เลี้ยงลูกทั้ง 2 คน เมื่อลูก 2 คนเติบโต ก็เข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ จนถึงปัจจุบัน ครั้งล่าสุด ได้พูดคุยกับนายพิทักษ์ เมื่อครั้งกลับมาเยี่ยมพ่อที่ประเทศไทย ช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว นายพิทักษ์ยังบอกตนอีกว่า ประมาณปีหน้า จะกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยแล้ว ไม่กลับไปอีก เพราะอายุมากแล้ว โดยจะพาลูกสาวคนคนเล็กกลับมาอยู่ประเทศไทยด้วย แต่กลายเป็นว่าได้กลับมาในสภาพร่างไร้วิญญาณ ซึ่งญาติๆก็เสียใจเป็นอย่างมาก” ญาติกล่าว

ทั้งนี้ นาย พิทักษ์ โทแหล่ง อายุ 54 ปีแรงงานไทยในประเทศอิสราเอล ซึ่งทำงานมากว่า 20 ปี จนรู้ภาษาและมีภรรยาเป็นชาวอิสราเอล ซึ่งญาติพี่น้องเห็นภาพคนที่ถูกยิงตายข้างถนนแล้ว ยืนยันว่า เป็นนายพิทักษ์ โทแหล่ง แรงงานไทย โดยพบกับบิดาและน้องสาว รวมถึงภรรยาชาวไทย อยู่ที่บ้าน ซึ่งบิดามีอาการนิ่งและเหม่อ หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของลูกชายเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา

เหตุการณ์วันเกิดเหตุนั้น ทราบจากเพื่อนแรงงานเล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุ แรงงานที่อยู่ข้างกันได้ยินเสียงปืน แต่ก็ยังเฉยกัน ก่อนจะมีเด็กไปเรียกพิทักษ์ และพากันหนีหาที่หลบ แต่ไม่ทัน เด็กที่วิ่งไปบอกว่าอากู๋ตายแล้ว เขายิงอากู๋ ซึ่งอากู๋คือฉายาที่เพื่อนๆแรงงานเรียกแทนชื่อนายพิทักษ์ โดยถูกยิงในรถเก่งก่อนจะถีบร่างนายพิทักษ์ทิ้งกลางถนน ก่อนที่เหตุการณ์ในจุดนั้นจะค่อยๆคลายและพบว่านายพิทักษ์ถูกยิงหลายนัดเสียชีวิตแล้ว

ที่มาเพิ่มเติม : ข่าวช่อง 7

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY