สลด! แม่ร้อง ลูกชายสอบติดนายสิบ เสียชีวิตคาค่าย หลังเข้าฝึกเพียง 10 วัน

Home » สลด! แม่ร้อง ลูกชายสอบติดนายสิบ เสียชีวิตคาค่าย หลังเข้าฝึกเพียง 10 วัน
นร.นายสิบ-min

ครอบครัวร้องสื่อ! หลังลูกชายสอยติดนายสิบ ขณะฝึกกลับโดนบังคับให้วิ่ง 10 กิโลเมตร แม้มีอาการป่วย หลังเป็นลมแต่เพื่อต้องหิ้วปีกวิ่งต่อ

เรื่องนี้เรียกว่าเป็นข่าวสุดสลด หลังจากที่มีคุณแม่ครอบครัวหนึ่งได้มาร้องเรียนกับสื่อว่า ลูกชายตนเองนั้นต้องเสียชีวิตเนื่องจากการฝึก นายสิบตำรวจ ที่ครูฝึกบังคับให้วิ่งทั้งๆที่มีอาการป่วย ซึ่งทางด้านเพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าว ซึ่งนอกจากครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้ว แฟนสาวของนักเรียนนายสิบรายนั้นก็ได้เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม

โดย นางสาวณัฐริกา ณ สังข์ อายุ หรือ พลอย อายุ 26 ปี ว่า แฟนหนุ่มของตนเองชื่อ นายปกรณ์ เนียมรัตน์ หรือ ไบท์ อายุ 26 ปี สามารถสอบติด นายสิบตำรวจ.ตชด. ได้ และเข้ารับการฝึกที่ค่ายท่านมุก หรือ กองกำกับการ 9 กองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายท่านมุก ตำบลเขามีเกียรติ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ก่อนจะเสียชีวิตในเช้าวันที่ 10 ตุลาคม 2566 สาเหตุจากเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ครูฝึกได้มีการสั่งให้กลุ่ม นสต.ตชด. วิ่ง 10 กิโลเมตร โดยมี นายปกรณ์ เนียมรัตน์ หรือ ไบท์ เป็น นสต.ตชด. อยู่ด้วย

ระหว่างที่นายปกรณ์วิ่งไปได้ 6 กิโลเมตร ก็เป็นลมหมดสติไป จากนั้นครูฝึกได้สั่งให้เพื่อนหิ้วปีกขึ้นมาทั้ง 2 ข้าง แล้ววิ่งลากขาไปให้ครบ 10 กิโลเมตร ก่อนที่ นายปกรณ์ จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังทราบข่าวทางญาติได้นำศพนายปกรณ์ มาบำเพ็ญกุศลศพที่วัดสระเกษ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ล่าสุดยังไม่มีผู้บังคับบัญชาท่านใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ จึงได้ร้องทุกข์กับสื่อ

ระหว่างจัดพิธีบำเพ็ญกุศล ผู้สื่อข่าวได้ทำกการลงพื้นที่ และพบกับ นางสาวณัฐริกา ณ สังข์ หรือ พลอย อายุ 26 ปี (แฟนของผู้เสียชีวิต) ซึ่งกำลังเตรียมงานจัดงานศพให้ นายปกรณ์ ก่อนมอบหลักฐานต่างๆ เช่น เอกสารการรักษาของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีโรคประจำตัวและได้รักษาโรคประจำตัวจนหายขาดแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน รวมทั้งคลิปนายปกรณ์ ที่ได้ไลฟ์สดขายของก่อนจะสอบติด นสต.ตชด. และคลิปครูฝึก นสต.ตชด. ซึ่งได้มีการโพสต์คลิปกำลังฝึก นสต.ตชด. ลงใน TikTok ก่อนจะมีการลบคลิปต่างๆ ใน TikTok หลังทราบข่าวว่า นายปกรณ์ เสียชีวิต

นายสิบ2

เบื้องต้นทราบชื่อครูฝึก

เบื้องต้นทราบชื่อ ส.ต.ท.ปัญญาวุฒิ ครูฝึกนักเรียน ตชด. ค่ายท่านมุก พึ่งจบหลักสูตรครูฝึกมาใหม่ และเป็นครูฝึกที่สั่งการให้กลุ่ม นสต.ตชด. วิ่ง 10 กิโลเมตร แต่ทางญาติสามารถโหลดคลิปเก็บไว้ได้ทัน

พี่สาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนได้ไปส่งน้องเข้าค่ายวันที่ 1 ต.ค. 66 พอส่งเสร็จเราก็ไปทำงานต่อ พอมาเมื่อวานเห็นในไลน์กลุ่มเขาบอกว่าขอเบอร์ผู้ปกครอง พอเราให้ไป ครูฝึกก็ไม่ได้ตอบอะไรกับเรา มีโทรมาหาแม่เรา จึงสื่อสารกับแม่เรื่อยๆ ว่า ตกลงน้องเป็นอะไร พอรู้ว่าน้องเข้า รพ. และมารู้ทีหลังว่าครูฝึกให้วิ่ง 10 กิโลเมตร น้องตนวิ่งได้ 6 กิโลเมตร หลังจากนั้นจึงล้มลงทันที แล้วครูฝึกให้เพื่อน 2 คน แบกแขนหิ้วปีก-ลากขา ไปให้ครบถึง 10 กิโลเมตร

“เราสงสัยว่า ทำไมเขาไม่คิดสงสัย หรือตรวจเช็คร่างกายน้องเราหรือเปล่าว่า หายใจปกติไหม เขามีความรู้มากแค่ไหนว่าออกกำลังกายหนัก มันจะทำให้กล้ามเนื้อสลาย เป็นภาวะไตวาย ในเมื่อเป็นครูฝึก แต่ทำไมไม่มีความรู้เรื่องนี้ แล้วที่สำคัญค่ายที่หนูไปเจอมา ไม่เห็นว่าจะเตรียมความพร้อมจะรับมือยังไง หากเด็กเป็นลมหมดสติ และเมื่อเขาฝึกมาทุกปี ในเมื่อเด็กอาการหนักขนาดนั้น ทำไมถึงไปผูกกับ รพ.สะเดา ที่อยู่ห่างไกล ทั้งๆที่ รพ.มอ.อยู่ใกล้นิดเดียว ที่สำคัญไม่ใช่ส่งตัวกับรถ ambulance แต่ส่งกับรถตำรวจ ก่อนจะไปส่งที่ค่าย” พี่สาวผู้เสียชีวิตกล่าว

แฟนผู้เสียชีวิต เล่าเพิ่มเติมว่า ตนได้ฟังเพื่อนของผู้เสียชีวิตบอกว่า แรตอนแรกผู้เสียชีวิตมีไข้ประมาณ 3 วัน มีการกินยาพาราเพื่อบรรเทาอาการ แต่ทางครูฝึกก็ไม่ได้พาไป รพ. ส่วนในช่วง 6 -7 โมงเช้า จะมีการวิ่ง 6-10 กิโลเมตร แฟนหนูได้ล้มลง มีเพื่อนๆ ช่วยหิ้วปีกและลากพากันวิ่งให้ถึงจุดหมาย

พอช่วง 8 โมงครึ่ง ก็มีครูฝึกทักมาในไลน์ ขอเบอร์ผู้ปกครอง เราจึงให้ไป ตอนนั้นมีเบอร์ นศท. เพื่อนของแฟนหนูโทรมาในเฟซบุ๊ก แต่คนพูดสายไม่ใช่ นศท.คนที่โทรมา แต่เป็นครูฝึก ถามเราว่าเป็นอะไรกับผู้ป่วย หนูเลยตอบไปว่าเป็นแฟน จากนั้นเขาหัวเราะ และพูดว่าไม่เป็นไร กำลังใจดีอยู่แบบนี้ หนูจึงรีบมา รพ.ไปจับเท้าแฟนดู พบว่าแข็งไปหมดแล้ว คาดว่าแฟนน่าจะเสียชีวิตมาตั้งแต่บนรถก่อนนำส่ง รพ.แล้ว แค่ยังมีชีพจร แต่ก้านสมองอาจจะตายไปแล้ว ตรงนี้เราฟังมาจากหมอพูด ตนอยากให้ออกมาชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างขณะนั้น

แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อวานตื่นมา 9 โมง นั่งคิดไปเรื่อยๆ ว่าน้องไปฝึกได้หลายวันแล้ว แป๊บนึงก็มีโทรศัพท์เข้ามาว่า น้องไม่สบายอยู่สะเดา เดี๋ยวเจอกันที่ควนลัง แต่พอเราแต่งตัวเสร็จ เขาบอกว่าไม่ต้องไปแล้วควนลัง ให้มาหาดใหญ่เลย เจอน้องล่าสุดประมาณตอน 12.00 น. ไปจับเท้าเขาก็แข็ง เขากำลังปั๊มหัวใจอยู่ เราก็ภาวนาให้น้องฟื้นขึ้นมา คนที่มาด้วยเขาบอกว่า น้องเป็นลม วันนั้นคนที่มาด้วยบอกว่าน้องเป็นลม เราเลยถามว่าเป็นยังไงเขาบอกก็เป็นลมไปเลย

ผู้เสียชีวิตมีอาการชักเกร็งก่อนถึงโรงพยาบาล

โดยหลังหมดสติก็มีการวัดตรวจและพามา รพ.สะเดา แต่ก่อนจะถึงแยกไฟแดง น้องมีอาการมือเกร็งจิกตาเหลือก หลังจากที่ไป รพ.สะเดา ภาพแรกที่เราเห้นน้องนอนตาปลิ้น เท้าแข็ง เขาก็บอกว่าน้องขาดน้ำอย่างรุนแรง เลือดแห้งไปเลี้ยงสมองไม่พอ และมีอาการกล้ามเนื้อสลาย รวมถึงเลือดเป็นกรด ซึ่งหลายอย่างมาก แม่ออกมาจากห้องในรพ.ออกมาถึงกับเป็นลม

“แม่อยากเรียกร้องความเป็นธรรม เพราะเราถามคนที่มา รพ.กับน้อง ตอนเกิดเหตุเขามีจัดการอะไรบ้าง เขาก็บอกว่าก็มีเพียงวัดค่าต่างๆ ของร่างกายและนำตัวส่ง รพ. แล้วก็ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้ เราจึงแจ้งไปว่าทำไมไม่พาน้องไป รพ.หาดใหญ่เลย เขาก็แจ้งมาว่ามันเป็นไปตามระบบ เหมือนเขาจากไปแบบนี้ จากที่เราจะไปเยี่ยมลูกกลายเป็นรับศพแทน แม่อยากให้ทางหน่วยฝึกของค่ายท่านมุกเอาใจใส่คนฝึกให้มากกว่านี้ เตรียมพร้อมที่จะรับฝึกแล้วเป็มลมอย่างทันท่วงที ไม่ใช่ลากปีกมาเป็นระยะทางไกลโดยที่ไม่ดูแล” แม่ผู้เสียชีวิตกล่าว

นายสิบ

ที่มา : สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ

Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ