ช็อคทั้งเมือง! เกิดเหตุระทึกหนุ่มเมายาบวกเหล้า ซิ่งกระบะชนชาวบ้านที่กำลังนั่งทานก๋วยเตี๋ยวริมถนน อัดใส่กำแพงและต้นไม้ ที่ จ.อุดรธานี กวาดพังเรียบเจ็บสาหัส 9 ราย เสียชีวิต 1 ราย กู้ภัยช่วยระทึกเด็กติดใต้ท้องรถ ผกก.คุมตัวคนขับอาการเมาหนักคาดเมายาบวกเหล้า แต่เจ้าตัวอ้างกำลังไปรับแม่ที่ทำงานขับมาดี ๆ เกิดวูบ ชาวบ้านบอกขับเร็วป่านพายุ เดือดเข้ารุมประชาทัณฑ์ พาไปตรวจที่บ้านหาสิ่งผิดกฎหมาย

วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เวลา 21.00 น. พ.ต.ท.พีระ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระเสียหลักพุ่งชนร้านอาหารข้างทางมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดที่ทางขึ้นอุโมงแยกเก่าน้อยช่วงขาเข้าตัวเมืองอุดรธานี หน้าสำนักงานขนส่งเก่าแห่งที่ 1 จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่นิติเวชโรงพยาบาลอุดรธานี กู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี ร่วมตรวจสอบและรายให้ผู้บังคับบัญชาทราบเนื่องจากเป็นอุบัติเหตุรุนแรงมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

• “คดีตากใบ” หมดอายุความวันนี้ 3 ฝ่าย คุมเข้ม นราธิวาส หวั่นเหตุป่วน
• อุกอาจ! ผู้ก่อการร้าย ก่อเหตุ ระเบิดใกล้สภ.ปะนาเระ ตึก-ถนนเสียหาย
• สุดหลอน! โจรบุกขโมยกะโหลกศพ หายไป 25 หัวเหลือแต่ตัว เอี่ยวสายมู?

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีดำ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน กจ 5007 อุดรธานี พุ่งชนกับรถเข็นขายอาหารข้างกำแพงสำนกงานขนส่งเก่าแห่งที่ 1 จ.อุดรธานี จนพังเสียหายหลายร้านโต๊ะเก้าอี้ ถ้วยชามจานของร้านที่ขายบะหมี่ ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ พังระเนระนาดแตกกระเด็นกระดอนไปคนละทิศทาง ส่วนลูกค้าที่มานั่งร้านก๋วยเตี๋ยวก็ถูกรถชนเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บสาหัสอีก 9 ราย บางรายกระโดดหลบทันแต่ก็ได้รับบาดเจ็บ ทีมกู้ภัยจึงรีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยมีคลิปวีดีโอที่ชาวบ้านถ่ายเอาไว้ได้ตอนเกิดเหตุ ทุกคนต่างพากันช็อคกันทั้งเมือง ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์รถกระบะพุ่งชนร้ายก๋วยเตี๋ยวริมทางแบบนี้ แต่ละคนวิ่งเข้าไปช่วยคนเจ็บอย่างเร่งด่วน

ต่อมากู้ภัยได้รีบมาช่วยเหลือคนเจ็บ แต่ขณะทีมกู้ภัยกำลังช่วยชีวิตอยู่นั้น ผู้บาดเจ็บบอกทีมกู้ภัยช่วยลูกหนูด้วยลูกติดอยู่ใต้ท้องรถเมื่อเขาไปดูก็พบร่างของเด็กถูกรถทับ จึงใช้อุปกรณ์ยกรถขึ้นก่อนนำตัวเด็กน้อยออกมาและรีบนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งเด็กมีบาดแผลที่ขาและยังรู้สึกตัว ส่วนคนขับไม่ได้หลบหนีไปไหนได้รับบาดเจ็บยืนรอเจ้าหน้าที่มาสอบสวน ทราบชื่อต่อมา คือนายเกียรติศักดิ์ วงษ์ชาลี อายุ 21 ปี ชาวบ้านกุดสระ อ.เมืองอุดรธานี และจากการตรวจวัดแอลกอฮอล์วัดได้ 19 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนรถยนต์ก็ขาดต่อภาษีและพรบ.เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” แต่ดูท่าจะเมาอย่างอื่นด้วย โดยมีชาวบ้านบอกว่าหนุ่มคนนี้เมายาไปตรวจฉี่เจอแน่นอน และชาวบ้านโกรธจัดเดินปรี่จะเข้าทำร้ายรุมประชาทัณฑ์ เพราะเมาแล้วชนมีคนตายและคนเจ็บจำนวนมาก แต่ช่วงชุลมุนคนก่อเหตุก็พยายามจะทำร้ายกลับ จนตร.ต้องเข้าห้ามชุลมุน

ในเวลาต่อมาน.ส.ฤดี ชมพู หรือแหม่ม อายุ 42 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิตที่ขับผ่านมาประสบเหตุพอดีได้เข้ามาดูและพบว่าพี่ชายตัวเองเสียชีวิตคาที่ร้องไห้แทบขาดใจ โดยคุณแหม่ม เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุพี่ชาย บอกว่าวันนี้เกือบรถคว่ำ โดยน๊อตล้อจะหลุด ตนก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะเป็นลางและเป็นเรื่องจริง คนที่เสียชีวิตนั้นเป็นพี่ชายเขาพาภรรยาและลูกกับหลานมากินบะหมี่ ก่อนเกิดเหตุตนขับผ่านมาพอดีเห็นรถพี่ชายจอดอยู่ขณะกำลังจะเลี้ยวรถกลับรถกระบะสีดำก็พุ่งชนกวาดร้านบะหมี่ที่พี่ชายนั่งกิน ตั้งสติได้จอดรถแล้วรีบวิ่งเข้ามาดูมาดูมาเห็นก็พบศพพี่ชายเสียชีวิตแล้ว สำหรับผู้เสียชีวิตชื่อนายฉัตรชัย บุญเกิด อายุ 51 ปี ทำงานเป็นผู้จัดการเต้นท์รถมือสองแห่งหนึ่งแถวสี่แยกวิทยาลัยพละศึกษาอุดรธานี

ต่อมาน้าสาวของนายเกียรติศักดิ์ (ผู้หญิงใส่เสื้อเหลือง) เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ บอกกับนักข่าวว่า มันเสพยามาไม่ได้เมา ไปติดฉี่เจอแน่นอน พร้อมกับเดินไปหาหลานชายปรี่จะทำร้าย จนตร.ต้องห้ามอย่างชุลมุน น้าสาวก็ด่าหลานชายหนัก กูวว์บอกมึงแล้วอย่าขับรถมา บอกหลายครั้งแล้ว เมาแล้วอย่าขับมา เป็นไงชนคนตาย ไอ้สัด ให้มันจบอยู่นี้จับมันเข้าคุกเลย

นายเกียรติศักดิ์ฯ คนขับรถกระบะ เปิดเผยว่า ตนขับรถมาจากบ้านที่บ้านโนนยาง กำลังจะไปรับแม่กลับบ้านเพราะแม่เพิ่งลิกงาน และพรุ่งนี้กำลังจะไปรายงานตัวเป็นทหารที่อำเภอ เมื่อขับเข้าทางลอดอุโมงขึ้นมาจากนั้นภาพก็ตัดมืดไปมารู้สึกตัวอีกทีรถก็เกิดอุบัติเหตุแล้ว สาเหตุที่รถเกิดอุบัติเหตุไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรแต่ผมทำงานดึกผมเลิกงานดึก ตอนเกิดอุบัติเหตุตนขับรถมากับน้องสาว 2 คน โดยน้องสาวนั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจำชื่อตัวเองได้ไหม นายกิตติศักดิ์ตอบว่าจำได้ทุกอย่าง แต่จำเรื่องราวก่อนเกิดอุบัติเหตุไม่ได้ทุกอย่างมันมืด มารู้สึกตัวรถก็เกิดอุบัติเหตุแล้ว ซึ่งขณะสัมภาษณ์อยู่นายเกรียงศักดิ์ก็ปฏิเสธไม่อยากให้นักข่าวถ่ายภาพ ผู้สื่อถามต่อว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นรู้สึกสำนึกผิดหรือไม่นายเกรียงศักดิ์ตอบว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตผม ผมอยากขอโทษกับครอบครัวผู้เสียชีวิตผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ และหากย้อนเวลาไปได้ก็อยากจะไม่ขับรถอีก ต่อมาตร.ได้คุมตัวนายเกียรติศักดิ์ไปบ้านพักที่บ้านโนนยางเพื่อตรวจหายาเสพติดยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ยายนายเกียรติศักดิ์ก็ด่าหลานชายบอกว่า ยายบอกหลายครั้งแล้ว ทำไมเป็นแบบนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วมันเอาคืนไม่ได้ ยายบอกยายสอนก็ไม่เคยเชื่อยาย เป็นเพราะกินเหล้าเมายา เป็นไงหละทีนี้ติดคุกหัวโตแน่ จากนั้นตำรวจจึงควบคุมตัวมายัง สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไปน่าจะโดนหลายข้อหาหนักเหมือนกัน