เก๋งครูขับเก๋งกลับบ้าน ชนสาว 19 ขี่ ขี่จยย.มาจุดนัดพบแฟนหนุ่มเดินทางข้ามจังหวัดมาหา ดับคาถนน ก่อนไฟลุกท่วมทั้ง 2 คัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 18.30 น. มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์บนถนนชมฐีระเวช สายชนแดน-ดงขุย ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 33-34 บ้านกุฏิพระ ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และเกิดเพลิงไหม้ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จึงประสานไปยังรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลท่าข้าม มาช่วยดับไฟ

ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเอ็มจี สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 7267 เพชรบูรณ์ ชนอยู่กับตู้ควบคุมไฟฟ้าข้างทาง และมีไฟลุกไหม้บริเวณหน้ารถ เจ้าหน้าที่จึงรีบฉีดน้ำจนดับ ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถจักรยานยนต์ไฟกำลังลุกไหม้

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงระดมฉีดน้ำจนดับ พบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าไม่ทราบสี และหมายเลขทะเบียน เนื่องจากถูกไฟไหม้ มีสภาพเป็นเศษเหล็ก ใกล้กันพบศพหญิงสาวใส่กางเกงขายาว สีขาว สวมเสื้อคลุมแขนยาว สีเทา สภาพด้านหน้ามีแผลเหวอะหวะจนจำใบหน้าไม่ได้ นอนเสียชีวิตติดอยู่กับโคนต้นไม้ ทราบชื่อภายหลังว่าคือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี

ด้าน นางนัฐณิชา อายุ 36 ปี เจ้าของรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวให้การว่า ตนเป็นครูสอนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน และจะขับรถกลับบ้านที่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ ทุกวัน โดยในวันนี้หลังโรงเรียนเลิกตนก็ขับรถกลับบ้านมาตามถนนเส้นดังกล่าว

เมื่อใกล้ถึงที่เกิดเหตุ พบว่ามีรถจักรยานยนต์ขับอยู่ด้านหน้าตนจึงเร่งเครื่องเพื่อจะแซง แต่แล้วจู่ๆ รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวก็เลี้ยวขวาตัดหน้า ตนหักหลบไม่ทันจึงชนเข้าอย่างจัง จนรถของตนเสียหลักตกลงไปข้างทาง และชนกับตู้ควบคุมไฟจนเกิดไฟลุกไหม้ ตนจึงหนีออกมาได้หวุดหวิด

ทางด้าน นายพงศธร อายุ 21 ปี แฟนหนุ่มผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเองได้เดินทางมาจากจังหวัดสุรินทร์ เพื่อพบกับผู้ตาย และนัดเจอกันบริเวณที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ทันได้เจอหน้ากันก็มาประสบเหตุเสียชีวิตเสียก่อน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นสันนิษฐานว่า ก่อนเกิดเหตุรถยนต์เก๋งได้ขับมาตามเส้นทางปกติ เมื่อมาเจอรถจักรยานยนต์จึงเร่งเครื่องแซง แต่รถจักรยานยนต์ได้เลี้ยวขวากะทันหัน รถยนต์จึงชนเข้าอย่างจังจนเกิดไฟไหม้ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์และทำให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียง และทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป