หนุ่มใหญ่ กลายเป็นศพถูกหมกป่า สภาพร่างกายถูกสัตว์แทะ-หัวคล้ายโดนเผา ด้านพ่อบอกรู้ตัวคนทำ แต่บอกไม่ได้ ส่วนเมียหน้าบวมช้ำ บอกเมาแล้วล้ม
วันที่ 7 พ.ค. 2567 สภ.หนองไทร รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคน พบศพบริเวณป่าหนาม ริมห้วยลำมาศ หมู่ 7 บ้านหนองหว้า ต.ทรัพย์พระยา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่เกิดเหตุห่างจากถนนสาธารณะประมาณ 1 กม.พบศพชาย อายุ 46 ปี สภาพศพนอนหงาย มีร่องรอยการกัดแทะของสัตว์ ส่วนหัวมีร่องรอยถูกเผา คาดเสียชีวิตมาประมาณ 6 วัน
คนเจอศพรายแรก เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งว่า มีคนหายเคยช่วยตามหาตั้งแต่มีการประกาศ วันนี้จึงเดินมาบริเวณดังกล่าว มองไกลๆ เห็นนกกำลังจิกซากอะไรบางอย่าง จึงเดินเข้ามาใกล้ เห็นขามนุษย์จึงคิดว่าน่าจะเป็นคนที่หายไปแน่นอน
พ่อผู้เสียชีวิต เล่าว่า ปกติลูกชายจะออกไปรับจ้างทำงานทั่วไป ทุกครั้งที่จะออกไปมักจะบอกให้ตนเสมอ เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา หากับข้าวให้ลูกกินแล้วออกไปทำงาน พอกลับมากับข้าวอยู่เหมือนเดิม แต่ก็ไม่เอะใจ คิดว่าไปดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ
- ผอ.โรงเรียน โต้ดราม่า ยื่นคำขาดจ่ายเทอม หลัง ผปค.ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม
- บ้านอากู๋ชนะคดี ศาลสั่งจำคุกจำเลยทั้ง 4 พร้อมปรับ 1.1 หมื่น
- อุกอาจ! ชายเร่ร่อนบุกปล้ำหญิงไร้บ้าน โดนซ้อมยับหลังขัดขืน เจ็บสาหัส
วันต่อมาก็ไม่เห็นลูกชายกลับบ้าน พอวันที่ 3 ที่หายไป จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยออกตามหา ไปถามหมอดูหลายที่ทักมาต่างกันไป บางคนบอกว่าอยู่บริเวณนี้ บางคนบอกว่าไปต่างจังหวัด
ผ่านไป 5 วัน ตนรู้สึกว่าลูกชายน่าจะเป็นอันตราย เพราะผิดวิสัยของลูกที่ทุกครั้งจะไปไหนมาไหนต้องบอกพ่อตลอด กระทั่งมีชาวบ้านมาบอกว่าพบศพแล้ว ส่วนทางด้านคดีต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เพราะลูกชายไม่เคยมีศัตรู
ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า อยู่กินกับสามีแบบไม่ได้แต่งและไม่มีลูก เวลาออกไปทำงานจะไปด้วยกัน หาข้าวให้สามีกินตลอด แต่สามีผอม เพราะดื่มเหล้าเยอะ หลังจากสามีหายไป ตนได้ออกติดตามอีกทางหนึ่งและไปแจ้งความกับตำรวจ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึง ใบหน้าของภรรยาผู้ตาย ว่า ทำไมถึงมีร่องรอยเหมือนถูกทำร้าย ภรรยาผู้ตาย บอกว่า เกิดจากตนเมาแล้วล้ม แต่ไปแกะแผล ทำให้แผลหายช้า ยอมรับว่าเคยทะเลาะ ทำร้ายร่างกายกับสามีเป็นประจำ แต่ที่เห็นคือเมาแล้วล้ม
