วันที่ 20 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 01.45 น. พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยบางโปรง ซอย 4 ตำบลบางโปรง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ จึงประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลบางโปรงและเทศบาลใกล้เคียง รวม 6 คัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
บริเวณที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยต้องเดินเข้าไปเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ พบ เพลิงกำลังโหมลุกไหม้บ้านไม้ที่ปลูกติดกันอยู่หลายหลังอย่างรุนแรง ชาวบ้านต่างช่วยกันยกสิ่งของที่มีค่าออกจากบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับเพลิงไหม้กันอย่างโกลาหน ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ต้องระดมกำลังกันวางหัวฉีดน้ำเร่งสกัดเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้ เพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามขยายวงกว้างลุกลามบ้านหลังใกล้เคียง แต่การควบคุมเพลิงนั้นเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากซอยดังกล่าวเป็นซอยคับแคบ ประกอบกับขณะเกิดเหตุมีลมกรรโชกแรง และบ้านดังกล่าวเป็นบ้านไม้เก่าที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ซึ่งกว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ต้องใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้น เพลิงได้ลุกไหม้บ้านบ้านเรือนเสียหายประมาณ 10 หลังคาเรือน และมีผู้เสียชีวิตในกองเพลิง 2 ราย เป็นผู้ใหญ่ 1 ราย และ เด็กหญิง 1 ราย ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้งในช่วงสายของวันนี้ เพื่อเก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุ และ สอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อสรุปสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้
จากการสอบถาม นายเอกชัย อายุ 47 ปี ลูกเขยคนตาย เล่าว่า ที่หายไปมี ยาย หลานสาว 11 ขวบ และหลานชาย 8 ขวบ แต่ที่ตอนนี้เจ้าหน้าที่พบเป็นศพ คือ ยายกับหลานสาว ตอนเกิดเหตุตนอยู่บ้านข้าง ๆ ตนเป็นลูกเขยเขา แฟนตะโกนบอกว่าบ้านแม่ไฟไหม้ ตนก็เลยตะโกนเรียกอีก 3 หลังที่อยู่ติดกับบ้านแม่ ตอนนั้นไฟพุ่งออกจากประตูแต่น่าจะไหม้ข้างล่างหมดแล้ว ตนตะโกนเรียกก็เห็นลูกสาวเขากระโดดหน้าต่างออกมา เขาบอกว่าช่วยแม่ไม่ได้แล้วเพราะไฟมันลุก ตนก็เลยรีบลงกับมาพอไฟมันลุกปุบมันก็ลามมาหลังแรกจนมาถึงบ้านตนซึ่งเป็นหลังที่ 3 ที่ไฟมันลุกมาหลังจากนั้นก็อย่างที่เห็นช่วยใครไม่ได้เลย คนที่เสียชีวิตก็มี ยายบัว กับหลานสาวอายุ 11 ขวบ เขานอนอยู่ด้วยกัน 2 คน
นางสาวชมนาด อายุ 43 ปี ลูกสาวคนตาย เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนนอนหลับอยู่ ได้ยินเสียงคนเรียกก็เลยเปิดหน้าต่างข้างบ้าน ออกมาดู ก็เห็นบ้านไฟไหม้บนบ้านแล้ว ตนก็เลยปีนออกหน้าต่างเลย ตอนนั้นคนที่อยู่บนบ้านมี แม่ ลูกสาว หลาน และก็ลูกชาย ตนก็เลยออกมาข้าง ๆ ซอกมาน้องสาวเลยตะโกนเรียก มันไหม้บนบ้านไปหมดแล้ว ตอนนั้นตนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยบนบ้าน มันไหม้ไปหมดเลย ตนก็เลยยืนดูกับน้องสาวแล้วก็ตะโกนเรียก และไปเอาที่ดับเพลิงตรงซอยกลางเข้าไปฉีด แล้วมันก็ระเบิด ก็เข้าไปช่วยไม่ได้ มันก็ลุกลามมาจนถึงบ้านน้องสาวก็ฉีดช่วยไม่ได้ ไฟมันไหม้จากชั้น 2 ตนก็มีเหยียบไฟได้รับบาดเจ็บ ปกติในบ้านอยู่ในบ้านด้วยกัน 7 คน ลูกชายอีกคนไปข้างนอก
จากการตรวจสอบ พบว่า มีบ้านเรือนถูกไฟไหม้เสียหายประมาณ 7 หลัง และ มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย เป็นยายอายุ 67 ปี และหลานสาวอายุ 11 ปี โดยการควบคุมเพลิงนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจาก ไฟฟ้ายังไม่ตัดตัด ทำให้เป็นอุปสรรค์ในการดับเพลิงในช่วงแรก ส่วนบ้านต้นเพลิงนั้นจากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นยืนยันว่าเป็นบ้านที่พบศพของผู้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุนั้นต้องเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลังฐานลงพื้นที่อีกครั้ง
ทางด้าน นางสาวพนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ เขต 1 กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับฟังจากชาวบ้าน ทราบว่า เหตุเพลิงไหม้ตั้งแต่ช่วงเกือบจะตีสอง แต่ว่าจะสามารถเข้าไปดับเพลิงได้จริง กว่าจะตัดกระแสไฟฟ้าได้จริง ก็ประมาณตีสองครึ่งซึ่งมันใช้เวลานานมากจริงความเสียหายมันถูกจำกัดได้ตั้งแต่แรกถ้าเกิดสามารถตัดไฟได้ตั้งแต่ต้น ก็เดี๋ยวจะนำเรื่องนี้เข้าไปปรึกษาหารือ กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดและจะหาแนวทางในการที่จะปรับปรุงกาแนวทางการับมือกับเหตุการณ์ภัยพิบัติเหตุการณ์ เผชิญเหตุฉุกเฉินแบบนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในจังหวัดเรา
- ลุงไรเดอร์วัย 64 เปิดใจ หลังถูกจัดฉากทำเป็นรถชน ก่อนชกหน้า-ตบทรัพย์
- ไม่ได้ไปเที่ยว! เพจดังเปิด ภาพ ‘พระ ว.วชิรเมธี’ นั่งสมาธิ กลางหิมะที่ญี่ปุ่น
- เลี่ยงได้เลี่ยง! สะพานบางปะกง เสี่ยงหัก หลังถูกเรือโป๊ะพุ่งชนอย่างแรง
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะว่ายังไงตาม ถึงแม้ว่าทางพี่ ๆ ดับเพลิงจะมาถึงหน้างานก่อนแล้วก็ยังไม่สามารถทำงานได้เต็มที่เต็มประสิทธิภาพ เพราะจากการที่ดูในคลิปก่อนที่ตนจะมาถึง ตนเห็นว่ามีเสียงระเบิดเกิดขึ้นเยอะ ซึ่งทำให้ทางเจ้าหน้าที่เองก็ต้องระวังมากขึ้นก็ต้องเซฟตัวเองด้วยแล้วก็กว่าที่จะสามารถตัดไฟได้แล้วเข้าไประงับเหตุได้ก็ลุกลามไปเกือบ 10 หลังแล้ว ก็เดี๋ยวจะนำเรื่องนี้เข้าไปสู่สภาเช่นเดียวกัน ว่าเราจะสามารถหาแนวทางป้องกัน หาแนวทางรับมือที่มีประสิทธิภาพกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้
เบื้องต้นจากการสอบถามทาง นายก อบต. ซึ่งอยู่ในหน้างานด้วย ก็จะมีการจัดตั้งศูนย์ที่จะให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งมาลงชื่อมาลงทะเบียนแล้วก็น่าจะแจ้งสิทธิที่จะได้รับการดูแลจากทางภาครัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ได้ประสานไปทาง ปภ. จังหวัด แล้ว ทาง หัวหน้า ปภ. ก็ได้แจ้งมาว่ามีเงินส่วนไหนบ้างที่สามารถสนับสนุนบ้านที่เกิดความเสียและทางครอบครัวที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป พรุ้งนี้จะมีศูนย์ที่นี้และตนก็จะมาเยี่ยมด้วยเช่นกัน