สลดวันวาเลนไทน์ ‘ลูกชายนักธุรกิจ’ กลายเป็นศพ แถมเงินล้านหาย

Home » สลดวันวาเลนไทน์ ‘ลูกชายนักธุรกิจ’ กลายเป็นศพ แถมเงินล้านหาย
สลดวันวาเลนไทน์

เกิดเหตุ! สลดวันวาเลนไทน์ แม่สุดช็อกฟื้นจากการสลบพบ ลูกชายนักธุรกิจกลายเป็นศพ แถมเงินกว่า 5 ล้าน หายวั๊บ คาดปม “ซื้อขายเงินดำ”

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 มีรายงาน ข่าวสลดวันวาเลนไทน์ เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุ “มีชายชาวต่างชาติถูกทำร้ายเสียชีวิต” ในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ซอยสุขุมวิท 4 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เป็นการด่วน ที่เกิดเหตุภายในห้องพบศพชายชาวต่างชาติ มีบาดแผลที่ปาก ใบหู และศีรษะมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก ทราบชื่อ นายคะยอ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ชาวเมียนมา

จากการสอบถามมารดาผู้เสียชีวิต เล่าว่า  ลูกชายตนทำธุรกิจรับแลกเงินตราต่างประเทศ โดยทำธุรกิจในประเทศไทย ร่วมกับ “นายวิลเลียม” และ “นายจอห์น” เป็นคนผิวสี ชาวสกอตแลนด์ ก่อนเกิดเหตุทั้ง 3 คน ไปคุยธุรกิจกันบริเวณสถานที่แห่งหนึ่งย่านวัดพระยาไกร ก่อนกลับมาที่ห้องพัก เมื่อมาถึง ชาวสกอตแลนด์ ทั้ง 2 ราย เกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับลูกชายตนอย่างรุนแรง จนเกิดการลงมือทำร้ายร่างกายด้วยการชกต่อยกัน ตนเห็นจึงเข้าไปห้าม แต่ถูกชาวสกอตแลนด์ทั้ง 2 คน ต่อยเข้าที่บริเวณใบหน้า จนตนเองสลบไป เมื่อตนเองตื่นขึ้นมาอีกก็พบว่า “ลูกชายของตน เสียชีวิตแล้ว” จึงรีบวิ่งลงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ของแมนชั่นให้ช่วยติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

  • อาการบุ้ง-ทะลุวัง หลังอดข้าวประท้วง นาน 17 วัน ล่าสุด ปัสสาวะไม่ออก
  • ตั๋วเครื่องบินวันวาเลนไทน์ กรุงเทพ-ภูเก็ต ราคาพุ่งเหมือนไปต่างประเทศ
  • เจ้าแม่ใบ้หวยดัง งวดนี้ไม่ได้ให้รวย เพราะเกมแล้ว หลังใบ้เอง รับแทงเอง

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทรัพย์สินภายในห้องพัก พบว่า “เงินสดจำนวนกว่า 5 ล้านบาท สูญหายไป” ส่วนสาเหตุการทะเลาะวิวาทในครั้งนี้คาดว่า “กลุ่มของผู้ก่อเหตุกับผู้ตาย ได้ทำการพูดคุยตกลงซื้อขาย “เงินดำ” โดยมีการสั่งซื้อผงละลายสีเงินดำ และตู้เซฟเพื่อใช้ในกรรมวิธีดังกล่าว” แต่ผู้ตายอาจรู้สึกว่าจะถูกหลอก จึงขอเงินคืน แต่กลุ่มคนร้ายไม่ยอมจึงเกิดเหตุดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้ยึดกระเป๋าเดินทางปริศนาที่ตกอยู่ภายในห้อง พร้อมกับตู้เซฟที่ผู้ตายและผู้ก่อเหตุซื้อมาเก็บไว้

ทั้งนี้ ตำรวจ สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พบว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายจากการกระแทกกับของแข็งแต่ไม่พบอาวุธในที่เกิดเหตุ จึงคาดว่าอาจเป็นการนำศีรษะกระแทกพื้นซึ่งต้องรอการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดประกอบกับผลการชันสูตรศพอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมประสานงานเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้ช่วยสกัดการเดินทางตามสนามบิน และจะนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ