นาทีนี้ต้องบอกว่าไม่มีกระแสดรามาไหนที่จะแรงเท่ากับกรณีของร้านชาไทยชื่อดังอย่าง ปังชา ร้านขนมหวานที่ถูกขนานนามว่าเป็นร้านที่พาชาไทยไปเป็นที่รู้จักระดับโลก โดยเมนูชูโรงคือ ปังชา อร่อยจนได้รางวัล มิชลินไกด์ 4 ปีซ้อน บริหารและคิดค้นสูตรโดย แก้ม – กาญจนา ทัตติยกุล ซึ่งก่อนจะมีร้านขนมหวานที่ชื่อ ปังชา เมนูดังกล่าวนี้ เคยเปิดขายในร้านอาหารที่ได้รางวัลมิชลินอย่าง ลูกไก่ทอง มาก่อน และปัจจุบันร้าน ปังชา มีการขยายสาขาไปถึง 10 สาขา
จนกระทั่งเกิดกระแสดรามาที่เรียกว่าทำเอาร้าน ปังชา เป็นที่รู้จักมากกว่าเดิม แต่โชคร้ายที่การโด่งดังในครั้งนี้ กลับไม่ส่งผลดีหนัก เมื่อฝ่ายกฎหมายของทางร้าน ได้ยื่นโนติสถึงร้านของหวานหลายจังหวัดทั่วประเทศที่มีคำว่า ปังชา เพื่อฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์กว่า 102 ล้านบาท ซึ่งหากเล่าคร่าวๆ อาจจะไม่เข้าใจ วันนี้ทีมข่าว ไบรท์ทูเดย์ (BrighTV) จะขอสรุปดรามาให้อ่านกันแบบง่ายๆอีกครั้งค่ะ
- จบดรามา! ‘ปังชา’ ล่าสุด ร้านดังกลับลำ คำนี้ใครก็สามารถใช้ได้
- กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยัน ปังชา หรือ PANG CHA ทุกคนใช้ได้
- ปังชา ยังไม่จบ ทีมกม. ยืนยัน มีสิทธิ์ใช้ผู้เดียว เผย การฟ้องแค่ขู่ให้กล้ว
จุดเริ่มต้น
ก่อนจะมีร้านปังชา นั้นมีร้านอาหารคาวที่ชื่อว่าร้าน ลูกไก่ทอง มาก่อน เป็นร้านอาหารสไตล์ ไทยจีนฮ่องกง ที่โด่งดังมากๆในกรุงเทพ โดยร้านนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2552 ปัจจุบันมี 8 สาขา เจ้าของร้านชื่อว่า แสงณรงค์ มนตรีวัต หรือ คุณแสง ซึ่งเป็นลูกชายของผู้ก่อตั้งร้านอาหารชื่อดังในตำนานอย่าง ไก่ทอง ซึ่งถึงแม้จะเน้นไปที่อาหารคาว แต่ทางร้านก็ได้มีการคิดค้นว่าอยากได้เมนูของหวานมาเสิร์ฟให้ลูกค้า เลยให้ภรรยาซึ่งคือ คุณแก้ม นั้นคิดค้นเมนูของหวาน และนี้จึงเป็นที่มาของ ปังชา ที่เริ่มเสิร์ฟครั้งแรกในร้าน ลูกไก่ทอง นั้นเอง
เปิดร้านปังชาแยกออกมาจนโด่งดัง
และหลังจากที่ได้ลองเสิร์ฟให้ลูกค้าทาน ปรากฏว่าเมนู ปังชา นั้นขายดีมาก จนทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดไลน์ของหวานแยกออกมาและตั้งชื่อร้านว่า ปังชา (Pang Cha Cafe) ในปี 2562 ซึ่งการบริหาร คุณแสงก็ให้คุณแก้มเป็นผู้จัดการเองทั้งหมด โดนคุณแก้มเคยเล่าว่าคิดค้นสูตรชาไทยนี้มานานกว่า 1 ปี เป็นการผสมผสานชาไทยกว่า 5 ชนิดในถ้วยเดียว พร้อมกับท็อปปิ้งที่ไม่เหมือนใคร จนทำให้ได้รางวัลมิชลินไกด์ที่กล่าวไปข้างต้น
กระแสดรามา
หลังจากนั้นร้านปังชา ก็เปิดให้บริการมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในเดือนสิงหาคม 2566 ทางเพจ Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant นั้นได้โพสต์ภาพว่า ปังชา ได้รับการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ถือครองลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า และสิทธิบัตร แต่เพียงผู้เดียว ทั้งการลอกเลียนแบบ ดัดแปลง ทำซ้ำ แก้ไข และห้ามผู้อื่นนำชื่อ ปังชา (Pang Cha) ไปเป็นชื่อร้าน หรือสินค้าภายในร้าน
แต่หลังจากโพสต์นี้ก็ไม่ได้โดนกระแสดรามาอะไรมากนัก จนกระทั่งมีเจ้าของร้าน ปังชา ที่ จ.เชียงราย ได้ออกมาเผยแพร่ข้อความว่า ตนได้รับจดหมายโนติสจาก ร้านปังชา ซึ่งมีการเรียกร้องค่าเสียหายด้านลิขสิทธิ์กว่า 102 ล้านบาท จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกโซเชียล หลังจากนั้นก็มีร้านของหวาน ร้านชาเล็กๆน้อยๆอีกในหลายจังหวัด ออกมาเปิดเผยเช่นกันว่า ได้รับจดหมายโนติสเรียกร้องค่าเสียหายจากร้านดังกล่าว บางรายโดนไปถึง 7 แสนบาท
ทางด้านชาวเน็ตต่างพากันออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ บางรายนั้นมองว่า ปังชา เป็นคำที่ถูกใช้เรียกขานแทนขนมหวาน ชาเย็น ปังเย็น มานานแล้วการจดลิขสิทธิ์แบบนี้มันทำได้ด้วยหรือ และบางมุมก็พากันทัวร์ลงที่เพจลูกไก่ทอง จนในที่สุดกลายเป็นข่าวใหญ่อย่างที่เห็นกัน
ร้านปังชาออกมาชี้แจง
ต่อมาเมื่อมีกระแสดรามาทางร้านจึงได้ออกมาแถลงการณ์ผ่านทางเพจ โดยกล่าวว่า ร้านอาหารลูกไก่ทอง และ ร้านปังชา ขอประกาศขอชี้แจงถึงกรณีข้อความในโพสต์ที่ได้มีการโพสต์ผ่านทางโซเชียลมีเดียของทางร้าน ทางร้านขออภัยที่มีการสื่อสารและทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนทางร้าน ขอน้อมรับทุกคำติชม คำแนะนำ และจะปรับปรุง พัฒนาทั้งในการสื่อสาร การบริการ สินค้า ต่อไป
กรมทรัพย์สินทางปัญญาชี้แจง
ทางด้าน นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ก็ได้ออกยืนยันว่า คำว่า ปังชา ทั้งภาษาอังกฤษ (PANG CHA) และภาษาไทย (ปังชา) ทุกคน ทุกร้านสามารถนำไปใช้ในการโฆษณาได้ เพราะแท้จริงแล้ว ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญารับจดเครื่องหมายทางการค้าให้กับผู้ประกอบการ ที่อ้างเป็นเจ้าของสิทธิ์ เป็นการคุ้มครอง เฉพาะโลโก้ และ คำที่อยู่ในรูป จดเครื่องหมายการค้าให้การคุ้มครองทั้งภาพรวม ในเครื่องหมายการค้า รูปลูกไก่และ คำว่าปังชา ไม่ได้คุ้มครองเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง หากจะเป็นการละเมิดก็ต้องนำไปใช้ทั้งโลโก้ ไม่ใช่แยกเฉพาะคำใดคำหนึ่ง หรือพูดง่ายๆว่า ถ้าเอาแค่คำว่า ปังชา ไปใช้ยังไงก็ไม่ถือเป็นการละเมิด เพราะที่จดคือจดทั้งก้อนโลโก้นั้นเอง
เจ้าของร้านร่ำไห้ผ่านโหนกระแส
และถึงแม้ทางร้านจะมีการชี้แจงแล้วแต่ประเด็นดรามาไม่จบง่ายๆ จนเรื่องนี้ไปถึงรายการโหนกระแส โดยพี่หนุ่ม กรรชัย ก็ได้เชิญเจ้าของร้านที่ได้เอกสารโนติส และคุณแก้มเจ้าของร้านปังชามาพูดคุยในรายการ และมีการเปิดเผยว่าคุณแก้มเป็นผู้เรียกร้องต่อรายการโหนกระแสเองว่าอยากให้เชิญผู้เสียหายมาพูดคุยเพื่ออยากขอโทษ แต่ตนเองดันป่วยมาไม่ได้ แต่แล้วในช่วงท้ายของรายการคุณแก้มก็ได้เข้ามาขอโทษผู้เสียหายด้วยตัวเอง
ซึ่งคุณแก้ม ร่ำไห้ อาราธนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยกมือไหว้ขอโทษ คุณนิว เจ้าของร้านปังชา จ.เชียงราย และคุณแตงกวา เจ้าของร้านทางช้างเผือก จ.สงขลา และขออโหสิกรรมในสิ่งที่ทำลงไป ไม่ได้ต้องการทำร้ายคนรวยหรือคนจน ขอรับผิดเพียงคนเดียว ยืนยันไม่ได้เฟค แค่มีความตั้งใจในการสร้างแบรนด์ให้กับประเทศไทย ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ส่วนถ้วยทองเหลือง ยืนยันออกแบบเอง และในท้ายที่สุดเรื่องนี้จบโดยคุณแก้มที่กล่าวว่า ยินดีให้ทุกคนใช้ได้เลย
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY