วันที่ 20 ธันวาคม 2566 ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ศาลได้นัดอ่าน คำพิพากษาคดีน้องชมพู่ โดยมีจำเลยจำนวน 2 ราย ได้แก่ นายไชย์พล (สงวนนามสกุล) หรือ ลุงพล และ นางสาวสมพร (สงวนนามสกุล) หรือ ป้าแต๋น ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ซึ่งคดีดังกล่าวนับว่าเป็นคดีใหญ่ที่ประชาชนจับตามอง และเป้นคดีที่ยืดเยื้อมาเป็นระยะเวลานาน โดยศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาวันนี้ (20 ธ.ค. 66) เวลาประมาณ 10.00 น. โดยคดีดังกล่าวถือว่า เป็นคดีมหากาพย์ เนื่องจากคดีนี้ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี กรณี เด็กหญิงวัย 3 ขวบ หายตัวปริศนาก่อนพบเป็นศพในเวลาต่อมา เนื่องด้วยคดีนี้ผ่านมาเป็นระยะเวลานาน ทางทีมข่าวไบรท์ ทูเดย์ จึงย้อนสรุปให้ ดังนี้
ย้อนรอย คดีน้องชมพู่
คดีเริ่มขึ้น จากกรณี เด็นหญิงวัย 3 ขวบ ชื่อว่า “ชมพู่” ได้หายตัวไปอย่างปริศณาจากบ้าน ในพื้นที่ บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ในช่วงเช้าของวันที่ (11 พฤษภาคม 2563) ซึ่งครอบครัว และชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงได้ออกระดมค้นหา “น้องชมพู่” อย่างหนักเป็นระยะเวลานาน
ต่อมา ช่วงเย็นวันที่ (14 พฤษภาคม 2563) ได้พบศพน้องชมพู่ โดยศพนอนเสียชีวิตบนภูเหล็กไฟ เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล ห่างจากบ้านน้องชมพู่ประมาณ 2 กิโลเมตร ในสภาพเปลือยกาย พบร่องรอยหนามเกี่ยวตามแขนและขา บริเวณที่เกิดเหตุพบกางเกงผู้เสียชีวิตถูกถอดไว้ข้างก้อนหิน และรองเท้าหล่นอยู่ระหว่างทางเดิน ตำรวจสันนิษฐานว่า น้องชมพู่ อาจถูกล่อลวงออกมาจากบ้าน ซึ่งเป็นไปได้ว่า หากเป็นเหตุฆาตกรรม ผู้ก่อเหตุจะต้องมีความชำนาญ และอาจรู้จักคนในครอบครัวนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบพยานแวดล้อม ต่อมา พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 สันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตไม่ได้พลัดหลงป่าหรือเข้าไปในป่าเพียงคนเดียว มั่นใจว่ามีคนนำพาตัวไปที่จุดเกิดเหตุ โดยทางตำรวจ สภ.กกตูม เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ผู้ต้องสงสัย 7 คน พยาน เด็ก 7 ขวบ อ้างว่าเห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อสีส้มแขนยาว มีหมวกสีดำเหมือนคนตัดอ้อย อุ้มน้องชมพู่ไป
วันที่ (19 พฤษภาคม 2563) แผนกนิติเวช รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ยืนยันผลชันสูตร ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายและการล่วงละเมิดทางเพศ ระบุ “ไม่ปรากฏสาเหตุการตาย แต่พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ” ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเกิดจากทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิด หรือสาเหตุใดแน่ชัด
วันที่ (20 พฤษภาคม 2563) ครอบครัวฌาปนกิจศพน้องชมพู่ ที่ป่าช้าบ้านกกกอก โดยเผาแบบเชิงตะกอนแบบโบราณ ขณะที่ตำรวจตัดผู้ต้องสงสัยออก
วันที่ (7 กรกฎาคม 2563) ลุงพล หรือ นายไชย์พล ไปออกรายการโทรทัศน์ พร้อมยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นคนฆ่าล้านเปอร์เซ็นต์ รักเหมือนลูกตัวเอง โดยตั้งข้อสังเกตพ่อแม่น้องชมพู่
วันที่ (8 กรกฎาคม 2563) พ่อแม่ น้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตนสงสัยในตัว ลุงพล หรือ นายไชย์พล เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่าง รวมถึงการให้ข้อมูลไม่ตรงกัน
วันที่ (22 กรกฎาคม 2563) เจ้าของเสื้อสีส้ม ที่พบในป่า ออกมายอมรับเป็นเสื้อของตัวเองถอดทิ้งไว้ ตั้งแต่ปี 2562 แล้ว
วันที่ (2 ตุลาคม 2563) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ขณะนั้น ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. แถลงตรวจพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ คืบหน้า ร้อยละ 99 ยังเหลือผลตรวจเส้นผมที่หล่นอยู่ใกล้กับจุดที่พบศพน้องชมพู่ แต่ขอพักการสืบสวนสอบสวนไปก่อนจนกว่าจะมีข้อเท็จจริงใหม่ๆ เกิดขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สืบสวนคดี ระบุ ได้สืบสวนและหาหลักฐานในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่เป็นจำนวนมาก โดยสอบปากคำพยานจำนวน 384 ปาก ผู้เชี่ยวชาญ 13 ปาก วัตถุพยาน 113 ชิ้น เก็บ DNA บุคคลต้องสงสัยจำนวน 154 ตัวอย่าง เก็บวัตถุพยานที่สำคัญจำนวน 113 ชิ้น และจากการสืบสวนยืนยัน ด้วยเหตุผล 8 ประการ พบว่า น้องชมพู่ไม่สามารถขึ้นไปบนภูเหล็กไฟได้ด้วยตัวเองจึงเชื่อได้ว่ามีผู้พาน้องชมพูไปและทำให้ถึงแก่ความตาย
- คำพิพากษาคดีน้องชมพู่ ทนายเดชา ชี้ สามารถออกได้ 3 แนวทาง แบบนี้!
- ทะเบียนรถ ลุงพล-ป้าแต๋น ฟังคำพิพากษาชี้ชะตา ‘คดีน้องชมพู่’
- คดีลุงพล ทนาย ชี้ ศึกแห่งศักดิ์ศรี คนจะจำชื่อ บิ๊กปั๊ด ไปอีกนานเพราะเหตุนี้
วันที่ (7-8 มกราคม 2564) เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีน้องชมพู่ ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งพ่อแม่น้องชมพู่ พี่สาว น้าๆ รวมทั้งลุงพลและป้าแต๋น เข้าเครื่องจับเท็จ
วันที่ (29 พฤษภาคม 2564) ตำรวจ เปิดเผย รู้ตัวผู้ก่อเหตุ เนื่องจากพบเส้นผม 3 เส้น เป็นหลักฐานและเตรียมขอหมายจับ
วันที่ (1 มิถุนายน 2564) ศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับนายไชย์พล หรือ ลุงพล ในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย, และกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป โดย ลุงพล ยื่นขอประกันตัวในเวลาต่อมา
วันที่ (27 กรกฎาคม 2566) ฝ่ายโจทก์ และฝ่ายจำเลย ในคดีน้องชมพู่ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดาหารเพื่อนัดสืบพยานวันสุดท้าย หลังจากเริ่มสืบพยานมาตั้งแต่ (30 มิ.ย. 65) จนถึง (27 ก.ค. 66) ซึ่งการสืบพยานในวันที่ (27 ต.ค. 66) นี้เป็นพยานฝ่ายจำเลยโดยถือว่าเป็นวันสุดท้าย ซึ่งศาลจังหวัดมุกดาหารได้เลื่อนนัดอ่านฟังคำพิพากษามาเป็นวันนี้ (20 ธ.ค. 66)
อย่างไรก็ตามต่อรอจับตาดูว่า ผลการอ่านคำพิพากษานั้นจะออกมาอย่างไร เบื้องต้นทราบมาว่า ลุงพล ป้าแต๋น ได้มีการจัดเตรียมทนายมาแล้ว หากเกิดในกรณีศาลตัดสินให้ติดคุกก็จะยื่นขอประกันตัว โดยทางด้านลุงพลมั่นใจว่าตนเองบริสุทธิล้านเปอร์เซ็น ในส่วนทางด้านของแม่น้องชมพู่เองนั้น ก็มันใจในพยานหลักฐานที่มี และเชื่อว่าศาลจะให้ความเป็นะรรมกับตนเอง เช่นกัน