สรุปมาให้แล้ว วาระแห่งชาติ พี่กะเทยไทยนัดรวมตัวสุขุมวิท 11 ตบกู้ศักดิ์ศรีล้างแค้นกะเทยปินส์ ต้นสายปลายเหตุคืออะไรกันแน่

(4 มี.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายรายไลฟ์สดสถานการณ์ชุลมุนที่ซอยสุขุมวิท 11 ปรากฏภาพมี หญิงข้ามเพศ หรือ LGBTQ+ หรือ พี่กะเทย ชาวไทยจำนวนมาก ยืนรวมกลุ่มกันอยู่ โดยจากการตรวจสอบทราบว่า กลุ่มคนเหล่านี้ มายืนรอ กลุ่มสาวข้ามเพศชาวฟิลิปปินส์ ที่หลบอยู่บนอาคารของโรงแรม และไม่ยอมลงมาเผชิญหน้า 

ปินส์รุมไทยก่อน เหยียดเชื้อชาติ

จากข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า เหตุการณ์วันนี้เป็นประเด็นสืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) กะเทยปินส์หาเรื่องกะเทยไทย ก่อนจะยกพวกรุม 20 ต่อ 2 อีกทั้งยังมีการอ้างว่าฝ่ายปินส์ลักทรัพย์คนไทยไปด้วย จากนั้นฝ่ายปินส์ได้นำคลิปรุมตบไปโพสต์เหยียดหยามกะเทยไทยในกลุ่มโซเชียลของชาวฟิลิปปินส์ ทำนองว่า ฟิลิปปินส์ชนะไทย มีการเหยียดเชื้อชาติ ทำตัวเป็นมาเฟียยึดพื้นที่ ทั้งที่ฝ่ายฟิลิปปินส์เข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย 

กะเทยไทยรวมตัวโดย(ไม่)ได้นัดหมาย

จากการโพสต์เหยียดหยามและบูลลี่ที่เกิดขึ้น ทำให้ฝั่งกะเทยไทยนัดรวมตัวกันเพื่อกู้ศักดิ์ศรีและล้างแค้นในวันที่ 4 มีนาคม 2567 โดยส่งต่อข้อความ ขอความร่วมมือกะเทยทั่วสุขุมวิทรวมตัวกันเพื่อทวงคืนพื้นที่และความยุติธรรมให้คนที่ถูกทำร้าย ทั้งนัดหมายและไม่ได้นัดหมาย ซึ่งที่อยู่ของกะเทยปินส์นั้นได้ถูกสืบทราบจากเครือข่ายกะเทยสุขุมวิท และบอกต่อกันจนมารวมตัวกันกู้ศักดิ์ศรีให้กับกะเทยไทยอย่างล้นหลาม ซึ่งหลายคนก็รู้สึกขนลุกกับพลังของกะเทยไทย ที่มารวมตัวกันมากมายขนาดนี้ แม้ในยามปกติ จะมีคำกล่าวที่ว่า เวลากะเทยมักจะสาย นัดตีสี่แปลว่ามาเจ็ด นัดสิบเอ็ดแปลว่าบ่ายสอง แต่ในการนัดตบครั้งนี้ กะเทยไทยมาก่อนเวลา และพร้อมเพรียงอย่างไม่น่าเชื่อ

นัดล้างตา ณ ซอยสุขุมวิท 11

หลังจากกะเทยไทยมานัดรวมตัวกันที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งจำนวนหลายร้อยคน ซึ่งมาจากทั้งในกรุงเทพและพื้นที่ใกล้เคียง ยืนรอเคลียร์กับกะเทยปินส์อย่างใจจดจ่อแต่คู่กรณีไม่กล้าลงมา ผู้ประสานงานและเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้แจ้งขอความร่วมมือเคลียร์พื้นที่ให้ย้ายไปรอที่ สน.ลุมพินี ซึ่งหลายคนก็ไม่ยอมไปไหน ตั้งหน้าตั้งตารอจนกว่าคู่กรณีจะลงมา หวังจะได้แก้แค้นให้จบ

จากนั้นระหว่างที่ตำรวจนำตัวกะเทยปินส์ขึ้นรถไปที่ สน. ปรากฏว่ามีฝ่ายไทยพุ่งไปตบจนเกิดความชุลมุนอยู่หน้าโรงแรม เจ้าหน้าที่ต้องรีบกันตัวออกไปเพื่อความปลอดภัย แต่ก็มีบางรายที่ตำรวจช่วยไม่ทัน และโดนรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดเชียร์ดังสนั่นซอยสุขุมวิท 11 ก่อนที่จะนำตัวขึ้นรถตำรวจได้สำเร็จ เมื่อไปถึง สน. ฝ่ายไทยบางส่วนที่ตั้งตารอก็วิ่งกรูเข้าไปดูหน้าคู่กรณี โดยตัวแทนได้ยืนยันกับตำรวจว่า “ไม่มีอาวุธ ไม่มีอะไรเลย มีแต่มือกับคxxค่ะ” 

เจ้าหน้าที่ตำรวจหย่าศึก ยันดำเนินคดีตามกฎหมาย

พันตำรวจเอก ยิ่งยศ สุวรรณโน ผู้กำกับการ สน. ลุมพินี เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องตำรวจได้นำกำลังไปดูแลความปลอดภัย ในจุดที่มีการรวมตัวกันภายในซอยสุขุมวิท 11 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรง ก่อนจะเชิญให้ฝ่ายผู้เสียหายมาพูดคุยที่ สน.ลุมพินี

โดยยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรม ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหาย เมื่อพิสูจน์ทราบแน่ชัดว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครก็จะเจอตัวมาให้ปากคำต่อไป ทั้งกรณีทำร้ายร่างกาย ลักทรัพย์ หรือเข้ามาทำงานในไทยโดยผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน หากมีหลักฐานสามารถส่งให้ตำรวจได้เลย ส่วนจะมีการขอขมาลาโทษด้วยธูปเทียนแพตามที่ฝั่งกะเทยไทยเรียกร้องหรือไม่ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายไปก่อน ขณะที่ผู้ประสานงานก็ยืนยันว่า คนทำผิดต้องได้รับการดำเนินคดีแน่นอน

ชาวเน็ตไทยดันแฮชแท็กขึ้นเทรนด์

การทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่ม LGBTQ+ ทั้ง 2 เชื้อชาติในครั้งนี้ กลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ตไทยอย่างมาก จนแฮชแท็ก #สุขุมวิท11 ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์ (X) พร้อมเสียงเชียร์เข้าข้างพี่กะเทยไทยอย่างเผ็ดร้อน แม้จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจริงจัง เพราะเป็นการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย รวมถึงอาจกระทบความสัมพันธ์ของ 2 ชาติ แต่ชาวเน็ตไทยก็ไม่วายมีอารมณ์ขัน มีการโพสต์ข้อความ อาทิ 4 มีนาคม วันกะเทยผ่านศึก, ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ข(ล)าด, อย่าล้อเล่นกับระบบกะเทยไทย, สุขุมวิท11 สมรภูมิรบสงครามไทย-ปินส์ พุทธศักราช ๒๕๖๗, นัวมากกกกจังหวะนี้ เราต้องเอาความยุติธรรมของเรากลับคืนมาค่ะ อย่ายอมให้คนผินมันมาเหนียดหยามเราอีก ต้องเอาให้หลาบจำค่ะ ให้มันจบที่รุ่นเรา, กะเทยไทยไม่เคยแพ้ชาติใดในโลกค่ะ โน1เท่านั้น! ฯลฯ