สมุทรปราการ ยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ยังสูง 501 ราย เสียชีวิต 3 ราย คลัสเตอร์ใหม่แคมก่อสร้างพบติดเชื้อ 167 ราย

(23 มิ.ย.64) สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในจังหวัดสมุทรปราการ ยอดผู้ติดเชื้อยังสูงถึง 501 ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่จำนวน 476 ราย แยกเป็นอำเภอเมือง 292 ราย อำเภอพระประแดง 38 ราย อำเภอพระสมุทรเจดีย์ 22  ราย อำเภอบางพลี  58 ราย อำเภอบางบ่อ 12  ราย อำเภอบางเสาธง 54  ราย รับมารักษาต่อในสมุทรปราการ 25 ราย

มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 74 ปี 68 ปี และ 62 ปี ทั้งหมดมีประวัติเสี่ยง สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ที่อยู่ขณะป่วย จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมทั้งหมด 137 ราย  

นอกจากนี้ผลการตรวจเชิงรุกของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองสมุทรปราการ ภายในแคมป์คนงานก่อสร้างของบริษัท SMC หรือบริษัทสยามมัลติคอล ซึ่งตั่งอยู่ริมถนนสุขุมวิทใกล้กับแยกช้างสามเศียร ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผลการตรวจพบว่ามีแรงงานต่างด้าวจำนวน 167 คน ที่ติดเชื้อโควิด ซึ่งทางบริษัทได้ทำการปิดล็อกแคมพักคนงานและทำการกักตัวคนงานที่ติดเชื้อทั้งหมดเอาไว้ภายใน รอการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสนาม จึงกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ของจังหวัดสมุทรปราการในวันนี้

ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบางเสาธง สมุทรปราการ ได้เข้าตรวจเชิงรุกใน โรงงานผลิตน้ำแข็ง แห่งหนึ่งในย่านอำเภอบางเสาธง พบว่ามีคนงานติดเชื้อจำนวน 17 ราย 

ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อที่อาการหนัก ซึ่งอยู่ในกลุ่มสีแดง จะได้มีการผ่องถ่ายไปรักษายังจังหวัดข้างเคียงเช่น จังหวัดชลบุรี สำหรับยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน จนถึงปัจจุบันมีจำนวน 14,491 ราย เป็นผู้ป่วยสะสมในพื้นที่ 12,044 ราย นอกพื้นที่ 2,447 ราย  กำลังรักษาในโรงพยาบาลของรัฐจำนวน 985 ราย กำลังรักษาในโรงพยาบาลเอกชนจำนวน 967 ราย รักษาใน Hospitel ราชภัฏธนบุรีสมุทรปราการ จำนวน 1,266 ราย 

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ตนเอง พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ประชุมหารือร่วมกับนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ, นพ.พรณรงค์ ศรีม่วง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแนวทางการควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ หลังพบมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวันละ 100 กว่าราย เพิ่มเป็น 300-500 กว่าราย โดยภาพรวมมีการติดเชื้อทุกอำเภอ มีคลัสเตอร์เกิดขึ้นถึง 41 คลัสเตอร์ ทั้งในโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม ตลาด ชุมชน คอนโดมิเนียม และแคมป์คนงานก่อสร้าง

ทั้งนี้ เนื่องจากการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์เล็กๆ จำนวนมาก แนวทางการควบคุมจึงเสนอให้ใช้ยุทธศาสตร์ “ขนมครก” โดยสุ่มตรวจพื้นที่ต่างๆ ในชุมชนที่มีการติดเชื้อ เมื่อพบผู้ติดเชื้อนำเข้าสู่การรักษา และใช้วัคซีนฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่นั้น โดยกำหนดจำนวนให้เหมาะสมเพื่อควบคุมโรคในพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้ประสบความสำเร็จมาแล้วในพื้นที่เขตบางแคและคลองเตยใน กทม.

“เมื่อดำเนินการควบคุมโรคแบบขนมครกเป็นจุดเล็กๆ ในทุกพื้นที่ และกระจายมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะควบคุมโรคเป็นพื้นที่ใหญ่ได้ โดยจะนำร่องในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งได้ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำในการควบคุมโรค เนื่องจากการควบคุมโรคจะสำเร็จได้ ต้องอาศัยมาตรการทางสังคม ความมั่นคง และทางปกครองเข้ามาร่วมด้วย ไม่ใช่ด้านสาธารณสุขเพียงอย่างเดียว”

สำหรับการควบคุมโรคในโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม ใช้มาตรการ Bubble and Seal ในโรงงานขนาดใหญ่ที่มีการติดเชื้อแล้ว ทำให้ไม่เสียแรงงาน และยังควบคุมโรคไม่ให้แพร่เชื้อสู่ชุมชนได้ รวมถึงการหารือทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการโรงงานที่ยังไม่ติดเชื้อเพื่อใช้มาตรการนี้ด้วย จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้