สมชัย เผยปัจจุบันมีทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้ง เตือน พิธา ปมถือหุ้นสื่ออย่าประมาท

Home » สมชัย เผยปัจจุบันมีทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้ง เตือน พิธา ปมถือหุ้นสื่ออย่าประมาท



คุณพิธาวางใจเกินไป อดีต กกต. “สมชัย ศรีสุทธิยากร”เผยปัจจุบันมีทุจริตการซื้อเสียงเลือกตั้ง เตือนพิธาเรื่องถือหุ้นสื่อ อย่าเพิ่งประมาท!

เคยขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อย่างหนัก #กกต.มีไว้ทำไม จากการเลือกตั้งล่วงหน้า ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 เลขขอเชิญอดีต กกต.อย่าง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร มาตอบเคลียร์ชัดถึงประเด็นที่ประชาชนสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบการเลือกตั้งเกือบ 6 พันล้าน การจ่าหน้าซองผิด แถมอดีตและปัจจุบันยังมีการโกงเลือกตั้งจริงไหม พร้อมในรายการเจ้าตัวยังบอกพิธาว่า อย่าประมาท จากเรื่องของหุ้นสื่อไม่ควรวางใจเกินไป

ทำไมการเลือกตั้งในบ้านเรา มีกติกาการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา โดยเฉพาะจำนวนของบัตร?
คือมันเป็นตามรัฐธรรมนูญนะ คือก่อนหน้านี้ รัฐธรรมนูญปี40 50 บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แล้วเราจะคุ้นเคยกับคำว่าใบนึงเลือกคนที่รัก อีกใบเลือกพรรคที่ชอบ ก็คุ้นมาตลอด แต่พอปี60 อ.มีชัย กรรมการร่างรัฐธรรมนูญบอกว่า ไม่เอาแล้วระบบแบบนี้ มันคะแนนตกน้ำ ก็เลยขอเปลี่ยนเป็นแบบบัตรใบเดียว เลือกทั้งคน ทั้งพรรคในบัตรเดียว พอใช้ไปสักพักนึง มันก็เกิดปัญหาว่า พรรครัฐบาลสงสัยตัวเองว่าจะเป็นพรรคใหญ่ เดี๋ยวกลายเป็นว่าถ้าใช้กติกานี้ เดี๋ยวจะตกที่นั่งเดียวกับพรรคเพื่อไทยตอนปี 62 คือไม่มีบัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียว ก็เลยเปลี่ยนกติกาใหม่เป็นบัตร 2 ใบอีก คือเปลี่ยนกลับไปกลับมา เหมือนกับประเทศไทยเป็นเครื่องทดลองว่า ใช้แบบนี้ไม่ได้ผล เพราะตัวเองไม่ได้เปรียบ ก็ใช้แบบนี้ พอใช้แบบนี้ตัวเองก็ได้เปรียบแล้ว ถึงเวลาแล้วกลัวว่าตัวเองจะเสียเปรียบอีก ก็เปลี่ยนกลับมาใช้บัตร 2 ใบ แล้วเป็นไงคราวนี้ จะกี่ใบไม่สนใจประชาชน จัดการหมดเลยครับ 1 ใบ 2 ใบ ไม่สนใจแล้ว ประชาชนรู้วิธีการคิด รู้วิธีการเลือก ดูผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นครับ

เดี๊ยนเห็นนะคะ ที่คุณสมชัยออกมาโพสต์แรง การออกแบบเลือกตั้งที่เฮงซวย กรณีจ่าหน้าซองบัตรเลือกตั้งผิด มาจากการออกแบบการเลือกตั้งที่ผิดพลาด และหละหลวม เดี๊ยนว่าเที่ยวนี้คอมเมนต์แรงไม่ไว้หน้ากกต.เลยนะคะ?
คือต้องบอกว่ามันเป็นอะไรที่ประชาชนอึดอัด หลายต่อหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องของการพิมพ์บัตร แทนที่ส่วนในบัตร บัตร 2 ใบไม่เป็นไรหรอก บัตรใบนึงก็เขตต บัตรอีกใบเป็นบัญชีรายชื่อ บัตรบัญชีรายชื่อไม่เป็นปัญหา เข้าไปก็ไม่งง เพราะมีชื่อพรรค มีโลโก้พรรคชัดเจน แต่บัตรเขตเนี่ย เขาใช้เป็นบัตรโหล พิมพ์เหมือนกันทั้งประเทศ แล้วตอนแรกบอกง่าย สะดวก ส่งได้ง่ายไม่หลง เป็นต้น แล้วพอเกิดปัญหาว่า จ่าหน้าซองกันที่เลือกตั้งล่วงหน้า จ่าหน้าซองกันไม่ชัดเจน จ่าผิด จะไปดูว่าของเขตไหนก็ไปดูไม่ได้แล้ว เพราะอะไร เปิดออกมามันก็บัตรเหมือนกัน หรือส่งไปผิดที่ ถ้าหากเปิดออกมานับคะแนน มันก็กลายเป็นที่ใหม่ของเขาไปอย่างนี้ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้น

แล้วเรื่องของการกำหนดวัน และสถานที่การลงคะแนน ก็กำหนดกันน้อยเกินไป เดี๊ยนว่ามันดูกระชั้นชิดไปไหมคะ?
วันเลือกตั้งล่วงหน้าใช่ไหมครับคือ เดิมมันมี 2 วัน แล้ว กกต.ไปลดเหลือวันเดียว อันนั้นไม่ทราบเหตุผล อาจจะต้องการให้กระชับมากขึ้น แต่จริงๆแล้วหลักการที่ดี คือจะต้องมีวันเวลาที่เพียงพอ ให้ประชาชนมาใช้สิทธิ์ได้โดยไม่อึดอัดเกินไป ไม่หนาแน่นเกินไป ญี่ปุ่นเขาให้ 7 วันเต็มๆเลย ไปวันไหนก็ได้ ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า ของเราบางหน่วยวันละตั้งหลายหมื่นคน แดดก็ร้อน เป็นลมกัน ถึงขนาดนั้น อันนี้ดูแล้วก็ยังต้องปรับปรุง

กกต.ใครเป็นคนเลือกมาคะ ประชาชนมีสิทธิ์เลือกไหม หรือว่ามีผู้ใหญ่จิ้มมาว่าคนนั้น คนนี้คะ?
คือ 1. ต้องมีคุณสมบัติก่อน คือคุณสมบัติระดับมหาเทพเลย ประเภทว่าเป็นธรรมดาไม่ได้ นั้นแสดงว่าคุณสมชัยก็ระดับมหาเทพ? ไม่ใช่ๆ เพิ่งมากำหนดในยุคนี้ รัฐธรรมนูญปี 60 เช่น เป็นอธิบดี ก็ต้องเป็น 5 ปีติดต่อกัน หรือหากเป็นศาสตราจารย์ ต้อง 5 ปี ทำงาน NGO ต้อง 20 ปีเป็นต้นครับ สเปกสูงมากเลย แล้วมาผ่านกรรมการสรรหา จะคัดเลือกกัน เสร็จแล้วก็จะไปขอมติจากวุฒิสภาให้รับรองนะครับ ซึ่งกรณีแบบนี้ผมเคยวิจารณ์ ศาสตราจารย์ 5 ปี หายากนะ ด้านรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ต่างๆ บางทีหายากมาก ไปๆมาๆ ได้ศาสตราจารย์อะไรรู้ไหม ได้ศาสดาจารย์ด้านสิ่งแวดล้อมมาเป็น กกต. อธิบดีอยู่ 5 ปี คนที่อยู่ 5 ปีได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ แล้วตอนนี้ได้ กรมชลประทาน ก็เชี่ยวชาญเรื่องการเลือกตั้งหมดเลย? (หัวเราะ) ผมยังแซวเล่นเลยว่าต่อไป อาจจะได้ศาสตราจารย์ด้านหิน ด้านแมลง ด้านพันธุ์พืช

(เลือกตั้ง)มันมีโอกาสโกงได้ไหมคะ?
คิดนานเลย ถามว่ามีโอกาสไหม หากไม่ตรงไปตรงมา ก็อาจจะมีการสับเปลี่ยนเป็นไปได้ สับเปลี่ยนซองต่างๆ แต่เราก็ต้องเชื่อมั่น ถ้าผิดแล้ว โดนคดีอาญานะ

คุณสมชัยว่าคุ้มกับงบประมาณ และเงินที่จ่ายไหมคะ ได้ข่าวว่าเกือบ 6 พันล้านบาท?
คือการเลือกตั้งมันก็ต้องมีการลงทุน มีค่าใช้จ่าย เพียงแค่ว่ามีต้นทุนค่าใช้จ่ายแล้ว ใช้จ่ายในรายการที่เราคิดว่าเราอยากให้เขาทำ แต่เขาไม่ทำ หรือไอ้นี่ไม่เห็นต้องทำเลย ทำทำไม มันก็จะเกิดปัญหาของการที่บอกว่ามันคุ้ม ไม่คุ้ม ยกตัวอย่างเช่น บอกระบบรายงานอย่างไม่เป็นทางการ เรียลไทม์ที่เขาขอกัน แค่ 10 ล้านบาท ไม่ทำ แต่ผู้ตรวจการการเลือกตั้ง ซึ่งคือไม่รู้ใคร เขตนึง มี 5-6 คน แล้วไม่รู้ไปสุ่มอยู่ตรงไหนไม่รู้นะ แล้วมาบอกว่าคอยติดตามข่าวคราวว่ามีการทุจริตที่ไหนอย่างไร แล้วทุกวันก็รายงานผลว่าไม่มีๆ ปกติๆ ใช้เงินไป 300-400 ล้านบาท แต่อุปกรณ์ 100 ล้านไม่เอา? 10 ล้านไม่เอา(หัวเราะ)

งบเป็นพันๆล้านบาท แต่เดี๊ยนไปที่หน่วย เห็นเป็นลังกระดาษบ้าง ตะกร้าใส่เสื้อผ้า เข่งต่างๆเอามาใส่เอกสาร อุปกรณ์ต่างๆในการเลือกตั้ง เขาเอามาเมาท์กันหมดในโซเชียล มันคืออะไร?
อุปกรณ์มันควรให้ดูดีกว่านี้ เรียนตามตรงนะเวลาใช้เข่ง ใช้อะไร รู้สึก เดี๊ยนว่าเดี๊ยนไม่เรียกอุปกรณ์นะคะ เดี๊ยนเรียกว่าขยะรีไซเคิล เอามาใส่ของให้พวกเดี๊ยนเลือกตั้งกัน? มันเป็นเรื่องของแต่ละเขต กกต.จังหวัด แต่ละที่ว่าเขาจะมีของอะไร แล้วเขาจะจัดซื้อของอะไร เพิ่มเติมขึ้นมา ยกตัวอย่างหีบบัตรเลือกตั้ง มันมีตั้ง 3 รุ่นนะ รุ่นที่ 1 เป็นรุ่นหีบเหล็กหนามากเลย 2.หีบกระดาษ และ 3.รุ่นผมหีบพลาสติก ถามว่าหีบเหล็กไม่ดีอย่างไร หนักขนย้ายลำบาก หีบกระดาษไม่ดีอย่างไร มันอาจจะเปียกฝนก็ยุ่ยหมด โกงได้ กรีดได้ แล้วหีบพลาสติก ถ้าไม่ทุ่มแตกก็ดีที่สุด อันนี้ก็คือ 3 แบบ อันนี้ กกต.แต่ละจังหวัด อาจจะมีอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นเราจะเห็นบางที่ใช้หีบเหล็ก หีบกระดาษ หรือ หีบพลาสติก ส่วนอุปกรณ์ในการขนของก็แล้วแต่ความเหมาะสม ว่าคุณมีงบเท่านี้คุณจะใช้อุปกรณ์อะไร จังหวัดก็จะเป็นคนจ้าง

ก่อนเลือกตั้ง เดี๊ยนเห็นมี #กกต.มีไว้ทำไม ติดเทรนด์ แล้วคนก็ไปลงชื่อเป็นล้านกว่า ไม่เอาจะขับกกต. มันเกิดเรื่องแบบนี้ในเมืองไทยได้อย่างไรคะ?
กกต.มีไว้ทำไม ก็คือมีไว้จัดการเลือกตั้ง จัดให้สุจริตและเที่ยงธรรม มีผลการเลือกตั้งเป็นที่พึงใจของคนทั้งประเทศ ตอนนี้ที่ติด #กกต.มีไว้ทำไม ก็อาจจะไม่ตรงใจของประชาชน ตอนนี้ที่ลงชื่อถอดถอนเป็นล้านคน ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขานิดนึง บังเอิญจังหวะนั้นเป็นจังหวะที่เลือกตั้งนอกเขต แล้วก็วุ่นวายพอสมควร คนก็เลยอารมณ์ขึ้นมา ตอนที่อารมณ์ขึ้นมันมีฐานเดิมอยู่แล้ว ที่เขาเซ็นชื่อกันมาก่อน 8 แสนกว่าคน ก็เลยไปเซ็นชื่อเพิ่มขึ้นก็กลายเป็นล้านกว่า ก็เป็นแสนคนที่ไม่พอใจเกิดขึ้น การลงชื่อดังกล่าวมีผลอะไรไหม ตอบเลยว่าไม่มี เพราะว่าไปลงชื่อในเว็บไซต์ ที่ชื่อ Change.org ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นในฐานะพลเรือน ประชาชนว่า มีความรู้สึกชอบไม่ชอบ พอใจ ไม่พอใจ เป็นการส่งสัญญาณครับ

ถ้าอย่างนี้ประชาชนเขามีสิทธิ์ร้องเรียน หรือมีสิทธิ์ไปส่งสัญญาณแบบนี้ได้ไหมคะ กฎหมายมีระบุไหมคะว่าประชาชนมีสิทธิ์แบบนี้ได้?
ตรงนี้มันไม่มีผลในทางกฎหมาย ลงชื่อลงได้ ถ้าจะมีผลในทางกฎหมาย ต้องแก้รัฐธรรมนูญกลับมา สมัยก่อนเขามีการเข้าชื่อกันได้นะ 2 หมื่นชื่อประชาชน ไม่พอใจ กกต.คนไหนก็แล้วแต่ เสร็จแล้วก็เอาชื่อไปยื่นกับวุฒิสภา ให้วุฒิสภาเป็นผ่านถอดถอน แต่ตอนนี้กฎหมายใหม่ ในรัฐธรรมนูญใหม่ไม่มี ถามว่าตอนนี้มีช่องทางอื่นๆไหม ก็พอมีอยู่ แอบบอกได้ดังนี้ครับ ไปร้องต่อ ป.ป.ช. เป็นการประพฤติไม่ชอบ หรืออาจจะไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถ ก็แล้วแต่ ป.ช.ช. หรืออีกทางนึงแจ้งความที่โรงพัก

ถามจริงๆ เมืองไทยมีการโกงเลือกตั้งจริงไหมในอดีต?
ถ้าย้อนกลับไป 30-40 ปี โกงสะบัดเลย ถ้าเป็นสมัยก่อนนะ ตราบใดก็ตาม ถ้าการเลือกตั้งมันคือหนทาง การเข้าสู่อำนาจ เขาก็จะหาวิธีการโกงในทุกๆอย่าง อย่างการเลือกตั้งคราวนี้ก็ได้ คราวนี้ เขาบอกว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าในภาคอีสาน บางจังหวัด คุณยาย คุณย่า อายุมากแล้ว ทำไมวันเลือกตั้งจริงเดินไปก้าว สองก้าวก็เลือกได้แล้ว แต่ไปเลือกตั้งล่วงหน้า นั่งรถกระบะ 10-20 กิโล จากจังหวัด หรืออีกเขตนึง ไปเลือกตั้งล่วงหน้าอีกเขตนึง มาทีเป็นร้อยเป็นพันคน มันก็คือการทุจริตการเลือกตั้งอีกแบบนึง คือการซื้อเสียงโดยใช้วิธีการเลือกตั้งนอกเขต

เขาลือกันว่าคุณพิธาอาจจะไม่รอดนะคะ จากหุ้น ITV เดี๊ยนกลัวว่า เขาจะไม่รอดเหมือนคุณธนาธรไหมคะ?
ถามในมุมกฎหมายใช่ไหม คือถ้าผมวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมานะ ผมใช้คำว่า คุณพิธาวางใจเกินไป คืออาจจะประมาท วางใจเกินไป ซึ่งจริงๆแล้ว เวลาคนที่เขามีอำนาจในการพิจารณาในมุมของกฎหมาย บางครั้งเขาก็อาจไม่ดูเหตุ และผลเท่าไร เขาอาจจะดูในมุมผิดก็ผิด ทำนองแบบนี้ แล้วเรื่องของคุณพิธาคล้ายของคุณธนาธรมากเลย เพราะสื่อดังกล่าวเลิกทำแล้วใช่ไหม ของคุณธนาธรเลือกไปปีกว่า อันนี้อาจจะเลิกไป 10 กว่าปีแล้วเป็นต้น แต่ยังคงสถานะการถือหุ้นไหม ยังคงสถานะอยู่ ถ้าให้ผมตอบ ผมว่าน่าเป็นห่วงแล้วกัน อย่าประมาทเรื่องนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ