งบกลาโหมฉลุย สภา โหวตผ่านแล้ว ฝ่ายค้าน ข้องใจ มติกมธ.อนุมัติงบซื้อบินรบ F-35 A ขัดมติ ครม. วราเทพ ชี้สภามีอำนาจเหนือ มติ ครม. สามารถทำได้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ส.ค.2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท วาระ 2 ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
นายศุภชัย แจ้งว่า การพิจารณาเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ได้พิจารณามาตรา 8 งบประมาณของกระทรวงกลาโหม จำนวน 84,387,885,200 บาท เสร็จแล้วและกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญชี้แจงแล้วเสร็จ และเป็นขั้นตอนของการลงมติ ซึ่งล่าช้าไป30 นาทีจากที่นัดหมายประชุมเวลา 09.30 น.
โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวทักท้วงและต้องการให้กมธ.ชี้แจง โดยระบุว่า การจัดสรรงบประมาณให้กับกองทัพอากาศ ในโครงการจัดซื้อเครื่องบินรบ F-35A ที่พบว่าได้รับจัดสรรงบเป็นเงินงวดที่ต่ำกว่ามติคณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดว่า การจัดสรรงบผูกพันต้องมียอดไม่ต่ำกว่า 10% ของจำนวนวงเงินทั้งหมด เพราะมียอดเพียง 5%
ถือเป็นการผลักภาระให้รัฐบาลถัดไปตั้งงบซื้อเครื่องบินรบของท่านหรือไม่ เอาอำนาจอะไรในการอนุมัติเงินงบ 5% และไปหวังว่ามติครม.ให้ 5% ตามที่ท่านขอ เพราะขั้นตอนผิดฝาผิดตัว หากสภาลงมติให้ความเห็นชอบให้ปรับลด 5% แล้วหวังครม.ออกมติครม.ย้อนหลัง หากผิดพลาดขึ้นมามีคนไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 148 ร่างกฎหมายจะตกทั้งฉบับ
ด้านนายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนห่วงว่างบประมาณผ่านสภาแห่งนี้แล้ว แต่มีปัญหาเรื่องอำนาจ หน้าที่ สิทธิ ที่ฝ่ายค้านยื่นต่อประธานสภา เพื่อสอบถามวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกฯ ตนเกรงว่าหลังวันที่ 24 ส.ค.ไปแล้ว มีปัญหาว่านายกฯ ไม่มีสิทธิและไม่มีอำนาจ แล้วงบประมาณนี้จะใช้กันอย่างไร ตนเป็นห่วงเรื่องผู้ที่โหวตผ่านจะมีความผิดด้วยหรือไม่ เพราะรู้กันอยู่ว่านายกฯ มีปัญหาเรื่องอายุ อำนาจ และการอนุมัติงบประมาณที่จะใช้ต่อไป เพราะ 8 ปีของนายกฯ จะครบวันที่ 24 ส.ค.นี้
ขณะที่นายศุภชัย กล่าวว่าเมื่อคืนนี้(17 ส.ค.) มีการปิดอภิปรายมาตรานี้ไปแล้ว และกรรมาธิการได้ชี้แจงไป แต่เมื่อมีประเด็นซักถามเพิ่มเติมก็ใช้สิทธิซักถามได้ เพียงแต่เอาประเด็นที่ข้องใจจริงๆ ถ้าถามประเด็นไปตั้งแต่การอภิปรายแล้วไม่ต้องถามอีกก็ได้ อีกทั้งเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี เราไม่ใช่ศาลตัดสิน
ทั้งนี้ นายวราเทพ รัตนากร รองประธานกมธ. ชี้แจงว่า โครงการจัดซื้อเครื่องบิน F-35 A ที่เสนอขอจัดสรรงบ 700 ล้านบาท ในชั้นการพิจารณาของอนุ กมธ. ที่ขอให้ตัดออกนั้น ไม่ใช่ข้อยุติ เพราะต้องให้กมธ.พิจารณาเป็นมติ ซึ่งมติของกมธ. ได้คืนงบในโครงการและจัดสรรให้ประมาณ 300 ล้านบาท ทั้งนี้ ตามที่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวข้องการอนุมัติงบที่ 5% ซึ่งต่ำกว่ามติ ครม.นั้น ไม่ใช่ข้อบังคับผูกพันกับการทำงบของกมธ. ตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ หน่วยงานราชการเป็นผู้จัดตั้งงบ ส่วนการอนุมัตินั้นเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ
“ในที่ประชุม กมธ.ชุดใหญ่ ไม่ได้สอบถามถึงมติ ครม.ที่กำหนดไว้ เพราะเข้าใจว่า เป็นอำนาจของการพิจารณาต้องยึดและไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 144 อย่างไรก็ตาม ทราบว่ามี กมธ.บางคนสอบถามกับสำนักงบประมาณนอกการประชุม ซึ่งการตั้งงบประมาณที่น้อยกว่ามติ ครม.กำหนดนั้น สามารถนำไปขอมติครม.เพื่องดเว้นได้ ดังนั้น กมธ.ยืนยันถึงการทำหน้าที่ที่ถูกต้อง” นายวราเทพ กล่าว
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติมาตรา 8 ปรากฎว่า มีผู้ลงมติเห็นด้วย 216 เสียง ไม่เห็นด้วย 83 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายมาตรา 8 งบของกระทรวงกลาโหม เมื่อคืนวันที่ 17 ส.ค. ภาพรวมฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับการจัดสรรงบ เพื่อให้กองทัพจัดซื้ออาวุธยุทธโปกรณ์ เช่น เครื่องบินรบ เรือดำน้ำ เนื่องจากไม่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ โดยนพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายปรับลดงบกระทรวงกลาโหม เพราะตลอด 8 ปีของการบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ได้ตั้งงบกระทรวงกลาโหมเพิ่มมากขึ้น แต่พบการใช้งบแบบไม่คุ้มค่า น่าละอาย เช่น ซื้อเรือเหาะ ที่เหาะไม่ได้ เรือดำน้ำแต่ดำน้ำไม่ได้ เนื่องจากหาเครื่องยนต์ติดตั้งไม่ได้ ทั้งที่เป็นเรื่องระดับชาติ แต่กลับทำแบบเล่นขายของ