สภายอมถอน ร่างกม.เลือกตั้งออกไปก่อน หลังเถียงกันเดือด เปิดทางกมธ.แก้มาตราอื่นให้สอดคล้อง สูตรปาร์ตี้ลิสต์หาร 500 “วันนอร์”ซัดแก้แบบไม่เห็นหัวใคร
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 26 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ฉบับที่ พ.ศ. ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระที่ 2 ต่อจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา โดยพิจารณาต่อในมาตรา 25
นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว.ในฐานะรองประธานกมธ. ได้รับมอบหมายจากนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานาประธานกมธ. หารือว่า ตามที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ได้พิจารณาในร่างมาตรา 23 แก้ไขมาตรา 128 ว่าด้วยสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ มีการแก้ไขให้ใช้วิธีหารด้วย 500 ซึ่งที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบกับนพ.ระวี มาศฉมาดุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กมธ.เสียงข้องน้อย
แต่กมธ.หลายคน เห็นว่าเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เพื่อให้การแก้ไขในมาตราอื่นในร่างพ.ร.ป.ฉบับดังกล่าว สอดคล้องกับมติที่ประชุมรัฐสภา กมธ.ควรได้รับอนุญาตจากที่ประชุมรัฐสภาก่อน จึงขอที่ประชุมอนุญาตให้กมธ.ปรึกษาหารือ เพื่อหาทางออกร่วมกันในการแก้บทบัญญัติที่เกี่ยวข้อง แล้วนำมาเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาต่อไป จึงขอพักการประชุม 30 นาที ทั้งนี้ นายชวน อนุญาตให้พักการประชุม 30 นาที
ต่อมาเวลา 11.00 น. mujประชุมร่วมรัฐสภา กลับมาเปิดประชุมอีกครั้ง หลังกมธ.ขอพักการประชุมกลับไปทบทวนบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 23 โดยนายมหรรนณพ ชี้แจงว่า จากการประชุมกมธ.อย่างเคร่งเครียด โดยกมธ.มีความเห็นร่วมกันว่าจะขอยืนตามร่างรายงานเดิมที่เสนอรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ส่วนมาตรา 23 ที่มีการแก้ไขผิดไปจากร่างเดิม โดยให้เป็นหน้าที่ของกมธ.เสียงข้างน้อยที่ได้ปรับแก้ไขในมาตรานั้นเป็นผู้เสนอ เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาร่วมกันเห็นสมควรหรือไม่ ที่จะปรับปรุงมาตราดังกล่าวเพียง 1-2 มาตรา โดยเพิ่มมาตราขึ้นมาใหม่คือมาตรา 24 /1
จากนั้นนพ.ระวี ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย อภิปรายว่า ตนขอปรับเพิ่มมาตรา 24/1 โดยมีเนื้อหาคือ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 129/1 แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อประโยชน์ในการคำนวณตามมาตรา 128 และการประกาศผลการเลือกตั้งของมาตรา 129 ถ้าคณะกรรมการได้รับรายงานผลรวมคะแนนบัญชีรายชื่อตามมาตรา 123(3) ถึงร้อยละ 95 ของเขตเลือกตั้งทั้งหมด ให้เริ่มคำนวณตามมาตรา 128 เพื่อหาจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่พรรคได้รับจัดสรรเบื้องต้น เมื่อคณะกรรมการได้รับรายงานผลรวมคะแนนบัญชีรายชื่อตามมาตรา 123(3) เพิ่มขึ้นจากที่ได้รับมาแล้วตามวรรคหนึ่ง ให้ดำเนินการไปตามมาตรา 128 ใหม่เพื่อหาจำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า กระบวนการที่เกิดขึ้นไม่ชอบด้วยนิติวิธี ซึ่งมีกมธ.เสียงข้างน้อยนำเสนอเพื่อให้รัฐสภาพิจารณา ทั้งนี้ กระบวนการแปรญัตติตกไปนานแล้ว อยู่ดีๆ จะมีความเห็นใหม่แทรกขึ้นมาโดยเป็นเสียงข้างน้อยนั้นไม่สามารถทำได้ หากจะทำ ต้องไปประชุมกันแล้วมาเป็นเสียงข้างมากและลงมติกันมา
ทำไมไม่ทำแบบที่เคยปฏิบัติคือ กมธ.ไปประชุมกันแล้วลงมติเห็นชอบกันมา พวกตนยังจะเดินต่อให้กับท่าน แต่เป็นเช่นนี้หมายความว่ากมธ.ไปคุยกันมาแล้ว ก็ยังคุยไม่จบ จึงส่งกลับมาเป็นภาระของพวกเรา ที่จะต้องกลับมาดำเนินการตามกระบวนการนิติวิธีที่ไม่ชอบ ใช่หรือไม่ เพราะไม่มีกระบวนการนี้อยู่ในสารบบวิธีการกระทำกฎหมายที่เราเคยได้ทำมา
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ในฐานะรองประธานกมธ. อภิปรายว่า เสียงข้างน้อยได้เปลี่ยนเป็นเสียงข้างมากไปแล้ว ด้วยมติที่ประชุมรัฐสภา เห็นด้วยกับหาร 500 ดังนั้น นพ.ระวี สามารถดำเนินการได้ ว่าเกี่ยวข้องอย่างไร ถ้ารัฐสภาเห็นชอบก็เดินหน้าต่อไปได้ เช่นเดียวกับพ.ร.บ.ประชามติ และ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่เสียงข้างน้อยกลายเป็นเสียงข้างมาก
ขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กมธ.จากพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ตนเห็นว่าวิธีดำเนินการ ไม่เป็นไปตามข้อบังคับของการประชุมรัฐสภา เพราะในมาตรา 24 ซึ่งผ่านไปแล้วไม่มีการแก้ไข และไม่มีผู้สงวนขอแปรญัตติ แต่ที่จะมีการเสนอขณะนี้กมธ.ไม่ได้ไปขอจากรัฐสภาว่าขอเอาไปประชุมเพื่อเอาไปแก้ไข ที่กมธ.ขอประธานคือ ขอพักการประชุม เมื่อพักแล้วจะไปทำอะไรนอกกติกาการประชุมรัฐสภา และรายงานการประชุมเดิม คงทำไม่ได้ หากจะทำ ต้องขออนุมัติต่อสภาว่าขอให้กมธ.นำไปพิจารณา ทบทวน แต่สภาอนุมัติให้พักการประชุม ไม่ได้บอกว่าจะมีการแก้ไข ก็ไม่สามารถแก้ไขใหม่ได้
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ขอเวลาให้กมธ.และสมาชิกได้อ่านสิ่งที่กมธ.เสียงข้างน้อยเสนอมาให้ละเอียดรอบคอบ ขออย่าเพิ่งแก้ไข ไม่เช่นนั้นจะเท่ากับว่า แก้ไขแบบไม่เห็นหัวใคร
แต่นายมหรรรพ ยืนยันจะเดินหน้าต่อเพราะจากการหารือของกมธ.ในช่วงเช้า มีมติ 16 ต่อ 5 เสียง ให้เสียงข้างน้อยเสนอร่างมาตราใหม่ที่เกี่ยวข้อง ส่วนจะโต้แย้งว่าขัดหรือไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญนั้น วันนี้พวกเราก็คงเถียงกันไม่จบ สุดท้ายเรื่องนี้อย่างไรก็ต้องจบที่ศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน
จากนั้นนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานกมธ. กล่าวว่า เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ จึงขอเสนอญัตติถอนร่างกฎหมายฉบับนี้ออกไปก่อน แล้วนำกลับมาพิจารณาต่อในโอกาสต่อไป เพราะต้องไปพิจารณาทั้งข้องบังคับและเนื้อหา โดยพิจาณาต่อจากมาตราที่พิจารณาค้างอยู่
จากนั้นเวลา 12.20 น. นายชวนสั่งลงมติ โดยที่ประชุมมีมติให้ถอนร่างพ.ร.ป.ดังกล่าวออกไป ด้วยคะแนน 476 ต่อ 25 งดออกเสียง 20 ไม่ออกเสียง 9 เป็นอันว่าที่ประชุมมีมติถอนร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ออกไปก่อน โดยในประเด็นนี้ที่ประชุมใช้เวลาถกเถียงกว่า 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ นายสาธิต นัดประชุมกมธ.ช่วงค่ำวันนี้ (26 ก.ค.) และหากได้ข้อสรุป ก็อาจจะเสนอกลับเข้ามาที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 ก.ค. แต่นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ กมธ.จากพรรคเพื่อไทย ทักท้วงว่านำเข้าพรุ่งนี้(27 ก.ค.)เร็วเกินไป ยังมีเวลา ขอให้นำเข้าโอกาสต่อไป ซึ่งนายชวน ก็กล่าวเห็นด้วย
จากนั้นเวลา 12.33 น. ที่ประชุมเข้าสู่การพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง