สภาฯล่มครั้ง 2 ของเดือนก.พ. หลังยื้อเกือบชั่วโมง พิเชษฐ์ซัด ชวน อย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น เจอสวนกลับ สุดท้ายไปต่อไม่ไหว องค์ประชุมไม่ครบได้แค่ 197
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2565 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่องผลกระทบและแนวทางแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลไทยอย่างยั่งยืน โดยคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย พิจารณาเสร็จแล้ว โดยพิจารณาค้างมาจากการประชุมสภาสมัยประชุมครั้งที่ 1 หลังจากสมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวางเสร็จสิ้นแล้ว
เวลา 14.05 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ในฐานะประธานที่ประชุม ได้กดออดเรียกสมาชิก เพื่อตรวจสอบองค์ประชุมก่อนลงมติรับทราบรายงานดังกล่าว แต่มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมบางตา อาจไม่ครบองค์ประชุม
ทำให้นายชวน พยายามรอเวลา โดยขอให้รอสมาชิกที่อยู่ด้านนอกให้เข้ามาในห้องประชุมก่อน ซึ่งใช้เวลานานกว่า 20 นาที แต่ดูเหมือนสมาชิกในห้องจะยังไม่ครบองค์ประชุม
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เสนอให้ประธานพักการประชุม 30 นาที เพื่อรอสมาชิก แต่นายชวน ขอพัก 15 นาที สุดท้ายไม่ได้พักการประชุม เนื่องจากนายชวน กังวลว่าสมาชิกจะลดลงจากเดิมไปอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทั่งในที่สุดนายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เสนอให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ แต่ฝ่ายค้านขอให้นับองค์ประชุมแบบแสดงตนเสียบบัตร ที่สุดนายชวน ได้วินิจฉัยให้แสดงตนตามที่นายวิรัช เสนอ
แต่นายจุลพันธ์ ลุกขึ้นประท้วงคัดค้าน ระบุว่าวันนี้พวกเรากำหนดจะประชุมถึงเวลา 17.00 น. หากนับองค์ประชุมแบบขานชื่อเรียกบุคคล จะทำให้เสียเวลา กว่าจะเสร็จก็เวลา 17.30 น. ดังนั้น ก็ไม่ต้องประชุมต่ออยู่ดี ถ้าเดิมเกมการเมืองแบบนี้ ฝ่ายค้านไม่ยุ่งด้วย ขออยู่นอกห้องประชุม
จากนั้นนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ประท้วงอีกครั้ง ระบุว่านายชวน วันนี้ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ทำให้นายชวน สวนกลับว่าพูดอะไร ต้องย้อนดูตัวเองด้วย และยืนยันว่าตนไม่ได้ลำเอียงในการทำหน้าที่ แต่นายพิเชษฐ์ สวนกลับว่า “ไม่เป็นไรครับท่านประธาน ท่านก็ต้องดูตัวเองด้วย ท่านอย่ามาว่าผม อย่าเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น”
ขณะที่นายชวน ระบุว่า ต้องดำเนินการไปตามข้อบังคับ ไม่เช่นนั้นจะถูกตำหนิ แต่นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า สถานการณ์แบบนี้ท่านอยู่ได้อย่างไร ห้องประชุมเป็นแบบนี้อยู่ได้อย่างไร แต่ในที่สุด นายพิเชษฐ์ ก็กล่าวขอโทษ
ต่อมานายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ญัตติที่นายวิรัช เสนอ น่าจะไม่ถูกต้องเพราะไม่มีส.ส.รับรอง ดังนั้น การเสนอจึงไม่ชอบ ซึ่งนายชวน ระบุว่าเมื่อนายศุภชัย ยืนยันว่าญัตติการเสนอนับไม่ถูกต้อง คำสั่งที่ตนได้สั่งไปก่อนหน้านี้ให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้
จากนั้นนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย จึงลุกขึ้นกล่าวว่า “ญัตติที่ผมได้เสนอให้ขอนับองค์ประชุมแบบเสียบบัตร ยังอยู่และถูกต้องทุกประการ เพราะมีสมาชิกรับรองกว่า 20 คน”
ในที่สุด เวลา 14.45 น. นายชวน ได้กดออดเชิญให้สมาชิกเข้าห้องประชุมเพื่อเสียบบัตรแสดงตน และประกาศผลองค์ประชุม ปรากฎว่ามีสมาชิกเพียง 197 คน ไม่ถึง 237 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุมและสั่งปิดการประชุมในเวลา 14.50 น. ทั้งนี้ ใช้เวลายื้อเวลาเพื่อนับองค์ประชุมเกือบ 1 ชั่วโมง ซึ่งการที่องค์ประชุมไม่ครบทำให้สภาล่ม ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของเดือน ก.พ. และเป็นครั้งที่ 16 ของสภาฯชุดนี้