วันที่ 6 ธ.ค.ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซียโหวตผ่านประมวลกฎหมายอาญาใหม่ ซึ่งกำหนดให้การมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสเป็นความผิดทางอาญา ขณะที่นักวิจารณ์ระบุว่า คุกคามสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในประเทศอินโดนีเซีย ชาติที่มีชาวมุสลิมเป็นประชากรส่วนใหญ่ ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
กฎหมายอาญาใหม่นี้ยังห้ามการอยู่กินกันก่อนแต่งงาน การเลิกเชื่อในศาสนาและกำหนดโทษหลายสถานในการหมิ่นประมาทประธานาธิบดีหรือแสดงความเห็นต่อต้านอุดมคติทางโลกแห่งชาติ อีกทั้งโทษอาญาในฐานความผิดหมิ่นศาสนา ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในกฎหมายอินโดนีเซียแล้วนั้น โดยในขณะนี้อาจมีโทษจำคุก 5 ปี
ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนและนักวิจารณ์เตือนว่า ประมวลกฎหมายอาญาใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อผู้หญิงมากเกินไปและยิ่งบั่นทอนสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในอินโดนีเซีย ชาติที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ เดิมร่างประมวลกฎหมายอาญานี้มีกำหนดโหวตในขั้นของสภาผู้แทนราษฎรในปี 2562 แต่เกิดการประท้วงต่อต้านขึ้นทั่วประเทศ
นายแอนเดรียส ฮาร์โซโน นักวิจัยจากองค์กรฮิวแมนไรต์วอชต์ประจำอินโดนีเซีย องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศเตือนว่า กฎหมายนี้เปิดช่องให้เกิดการเอาเปรียบ
“อันตรายของกฎหมายที่กดขี่คือ ไม่ใช่ว่ากฎหมายนี้ถูกบังคับใช้อย่างกว้างขวาง แต่คือเปิดพื้นที่ให้มีการเลือกบังคับใช้กฎหมายเกิดขึ้น” นายฮาร์โซโนกล่าว และเรียกกฎหมายใหม่นี้ว่า เป็นความล้มเหลวสำหรับเสรีภาพทางศาสนาที่เสื่อมถอยอยู่แล้ว และเตือนว่าผู้ที่ไม่เชื่อในศาสนาอาจถูกดำเนินคดีและจำคุก
“กฎหมายเก่ามาจากมรดกสมัยอาณานิคมดัตช์และไม่มีความเกี่ยวกันอีกต่อไปในขณะนี้”นายบัมบัง วูรยันโต หัวหน้าคณะกรรมาธิการรัฐสภาด้านการปรับปรุงกฎหมายใหม่กล่าวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
แม้ว่ากลุ่มธุรกิจเตือนว่า กฎหมายใหม่นี้อาจทำให้ภาพลักษณ์อินโดนีเซียเสียหายในฐานะที่เป็นปลายทางการท่องเที่ยวและการลงทุน
………..