สภาฯ ถก ร่างพ.ร.บ.กัญชา สะดุด หลัง “ศุภชัย” ขอตัดมาตรา 3 กัญชาไม่ถือเป็นยาเสพติด อ้างคุยกมธ.เป็นมติแล้ว เจอเพื่อไทย รุมฉะ ก่อนกมธ.มีมติตัดมาตรา 3
เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 14 ธ.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม พิจารณา ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานกมธ. ชี้แจงตอนหนึ่งว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ ทางกมธ. เพิ่มจากฉบับเดิม ที่มี 45 มาตรา เป็น 95 มาตรา หรือเพิ่มขึ้น 50 มาตรา
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า แต่ยืนยันว่าทั้งหมดเป็นกระบวนการอย่างรอบคอบ กมธ.ทุ่มเทและเสียสละอย่างยิ่ง และไม่ใช่ผลงานของพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นผลงานจากตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ และรัฐบาล ร่างกฎหมายนี้จะทำให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาโรค และการคุ้มครองคนเปราะบาง ทั้งเด็กและเยาวชนหลากหลายมิติ เรารับทราบถึงข้อห่วงใย แต่หลายเรื่องคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
นายศุภชัย กล่าวว่า ทางกมธ.ได้พิจารณางานวิจัยที่พบว่า กัญชามีฤทธิ์เสพติดระดับเดียวกับกาแฟ และติดยากกว่าแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ เราควรสนับสนุนการนำประโยชน์ต่างๆ ของกัญชา และกัญชง มาใช้ทางการแพทย์ และเปิดให้เกษตรกรได้ปลูกภายใต้การควบคุม เพื่อสร้างรายได้ จึงอยากให้ที่ประชุมอภิปรายแสดงความเห็น หรือแก้ไขมาตราต่างๆ อย่างเต็มที่ และโหวตผ่านกฎหมายฉบับนี้ เพื่อนำไปใช้ควบคุมการใช้กัญชา กัญชงของประชาชนต่อไป
จากนั้นเข้าสู่การพิจารณาที่เรียงเป็นรายมาตรา โดยส.ส.ฝ่ายค้านส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ แต่คัดค้านการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ เพราะจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ และทำให้เกิดการเสพติด โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน เช่น นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฉบับนี้ ตนรู้สึกว่าจะเป็นอันตรายต่อประเทศชาติและประชาชน กฎหมายฉบับนี้มีการแอบอ้างชวนเชื่อว่าประมวลกฎหมายยาเสพติด ไม่ได้กำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษ
“ปีหน้าถ้าผมเป็นรัฐบาล พวกผมจะเอากัญชาให้กลับไปเป็นยาเสพติดแน่นอน จะต้องแก้ไขคำปรารภนี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวมีการออกมาในลักษณะที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชน แต่เปิดโอกาสให้มีการผลิตขายนำเข้าส่งออก หรือมีไว้ครอบครองเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรมกัญชาเป็นยาเสพติดอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศ” นายพิเชษฐ์ กล่าว
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวกมธ.ต้องตอบให้ชัดว่า มันคุ้มค่าหรือไม่กับผลเสียหายที่จะเกิดต่อประชาชนและประเทศชาติ และจะส่งออกไปประเทศไหน คาดว่าประเทศที่จะมีการส่งออกกัญชา 199 ประเทศ โดยมี 4 ประเทศที่ให้เป็นกัญชาเสรี ที่ผ่านมาหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ในการคัดค้านการใช้กัญชาเสรี จึงขอให้กมธ.ชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจน
นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลในเรื่องยาเสพติด กลับไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ในเมื่อสหประชาชาติยังไม่ถูกให้กัญชาเป็นยาเสพติดของโลก การที่ป.ป.ส.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นนี้ จะตอบสังคมโลกได้อย่างไร คนเชียงรายไม่ต้องการกัญชา ถ้าอยากจะให้คนเชียงรายเลือกกัญชาก็เลือกพรรคกัญชา
ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แสดงความเป็นห่วงต่อการปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 ยังคงยืนยันจุดยืนเดิม ทั้งนี้ ภายหลังสมาชิกอภิปรายจนถึงมาตรา 3 ที่ระบุว่า กัญชา กัญชง ไม่ถือว่าเป็นยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ต่อมา นายศุภชัย แจ้งต่อที่ประชุมว่า ตนขออนุญาตที่ประชุมตัดมาตรา 3 ออกทั้งมาตรา ตามที่กมธ.เสียงข้างน้อยเสนอมา เรื่องที่ให้กัญชาไม่เป็นยาเสพติด เพราะสมาชิกมีความห่วงใย ดังนั้นเพื่อให้กฎหมายเดินหน้าต่อไปโดยดี เรายินดีที่จะขอให้ตัดมาตรา 3 ทั้งมาตรา
ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ขอให้ทำกระบวนการให้ถูกต้อง และขอให้พักการประชุมเพื่อให้กมธ. กลับไปหารือกัน ขณะที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคปชป. กล่าวว่า มาตรา 3 เป็นหัวใจสำคัญ ว่ากัญชาเป็นยาเสพติดหรือไม่ การเสนอให้ตัดออกทั้งมาตรานั้น ตนไม่ทราบว่ามีเหตุผลอะไร และเมื่อตัดมาตรานี้ออกแล้วผลจะเป็นอย่างไร แล้วต่อไปกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ ป.ป.ส. จะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด 5 อีกหรือไม่
นายศุภชัย ชี้แจงว่า เมื่อช่วงเช้า (14 ธ.ค.) ได้มีการประชุมกัน เห็นว่าเนื่องจากมาตรา 3 สมาชิกมีความห่วงใย ขณะเดียวกันกมธ.เสียงข้างน้อยได้เสนอตัดออกทั้งมาตรา และสมาชิกแปรญัตติมาด้วย เราจึงคิดว่าเพื่อให้กฎหมายนี้เดินหน้าต่อไปโดยดีและรวดเร็ว
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า และถึงแม้จะตัดความในมาตรา 3 ออกไปก็ไม่เป็นผลทำให้ในส่วนที่เหลือของร่างกฎหมายกระทบ ซึ่งตนและกมธ.คงไม่ไปก้าวล่วงตีความว่า หลังจาก พ.ร.บ.นี้ไม่มีการเขียนกัญชาจะเป็นยาเสพติดแล้ว จะไปเป็นยาเสพติดอีก หรือต้องไปแก้ประกาศอะไร เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกมธ. ยืนยันขอตัดมาตรา 3 ทั้งมาตรา
ขณะที่นายจุลพันธ์ อภิปรายว่า การที่จะตัดมาตรา 3 กลไกของสภาฯ ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะไม่ถูกต้องตามกระบวนการตรากฎหมาย และตนได้สอบถาม กมธ.ฝ่ายค้าน ไม่มีใครทราบเลยว่าเมื่อเช้ากมธ.ประชุมกัน ตนไม่แน่ใจว่ากมธ.เสียงข้างน้อยที่เข้าประชุมคือใคร หากกมธ.จะพักการประชุมสภาฯ แล้วไปประชุมกมธ.อีกครั้ง อาจจะทำให้กระบวนการสมบูรณ์ขึ้น
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า อีกทั้งต่อให้ตัดมาตรา 3 ออก ในทางปฏิบัติก็ไม่ได้แก้ปัญหากัญชาเสรีเลย เพราะอยู่ที่กฎกระทรวง หากประธานกมธ.มีเจตจำนงเช่นนี้ ตนตีความได้อย่างเดียวว่าอาจจะพลิกมติในมาตรา 3 นี้ ว่าอาจจะมาเห็นตามกมธ.เสียงข้างน้อยหรือไม่ หากเป็นเช่นนี้ต้องให้ผู้แปรญัตติได้อภิปราย
ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า กมธ.ไม่ได้มีมติให้ตัดมาตรา 3 ทิ้งทั้งมาตรา เป็นเพียงการพูดคุยกันเฉยๆในกมธ. แต่ไม่มีมติออกมา จึงอยากขอดูมติดังกล่าวว่ามีอยู่จริงหรือไม่
ในที่สุดเวลา 14.51 น. นายศุภชัย ยอมรับว่า การเสนอให้ตัดมาตรา 3 ออกมามาตรา เป็นเพียงการหารือในกมธ. ยังไม่ใช่มติ ดังนั้น ขอพักการประชุมประมาณ 20 นาที เพื่อขอนำเรื่องการขอตัดมาตรา 3 ออกทั้งมาตราไปทำให้ถูกต้อง
จากนั้นเวลา 15.13 น. ที่ประชุมสภาฯ ได้กลับมาประชุมอีกครั้ง หลังกมธ.ไปหารือกัน โดยนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ผลการหารือของกมธ.ให้มีการตัดมาตรา 3 ออกทั้งมาตรา