หลังจากที่ชื่อของอดีตนักมวย แชมป์เหรียญทองโอลิมปิกอย่าง สมรักษ์ คำสิงห์ ได้ถูกหยิบขึ้นมาเป็นกระแสอีกครั้งจากเหตุการณ์ที่ถูกครอบครัวเยาวชนอายุ 17 ปี ฟ้องร้องว่าได้กระทำอนาจารต่อเยาวชนที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งเรื่องราวนี้ยังคงรอการตรวจสอบและอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวน และถึงแม้ความจริงทางกฎหมายยังไม่ได้ถูกเปิดเผย แต่กรณีนี้กลับสร้างแรงสะเทือนไปทั่วโลกโซเชียล ทั้งฝั่งของ สมรักษ์ หรือฝั่งของเด็ก 17 ต่างก็โดนวิพากษ์วิจารณ์ไปไม่น้อยกว่ากัน
และหากย้อนกลับไปในตอนที่ สมรักษ์ เป็นนักมวยนั้นต้องบอกว่าในปี 2539 หากใครเกิดทันคงได้สัมผัสบรรยากาศของซุปเปอร์ฮีโร่เมืองไทย ที่ในตอนนั้น สมรักษ์สามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาได้ ซึ่งการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในครั้งนั้น การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ยังได้ออกแสตมป์ที่มีรูปการชกรอบชิงชนะเลิศของสมรักษ์ ราคาดวงละ 6 บาท มาด้วย เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์นี้ และทางกองทัพเรือ (ทร.) ต้นสังกัดก็ได้เลื่อนยศให้สมรักษ์เป็นเรือตรี (ร.ต.) ซึ่งเดิมสมรักษ์มียศเป็นจ่าเอก (จ.อ.) อีกด้วย
- ดรามา ‘สมรักษ์’ เป็นเหตุ สังคมร้องถอดป้ายชื่อหน้าหมู่บ้าน จ.ขอนแก่น
- เพื่อนเด็ก 17 ย้ำ! คนเสียหายคือ สมรักษ์ แฉเคยก่อเหตุแบล็กเมล์ผู้ชาย
- เรื่องนี้ใครโกหก? เทียบคำให้การ สมรักษ์ – เด็ก 17 เหมือนหนังคนละม้วน
ซึ่งค่ายมวยที่เคยสร้าง สมรักษ์ คำสิงห์ นั้นมีชื่อว่า ส.คิงสตาร์ แต่ปัจจุบันกลับถูกทิ้งร้าง ไม่เหลือเค้าโครงเดิมที่เคยเจริญรุ่งเรืองในครั้งอดีต โดยบริเวณภายในค่ายมวยเก่า พบว่า มีป้ายชื่อค่ายมวย เลขที่ 115 หมู่ 5 ส่วนป้ายด้านหน้าเขียนชื่อ หจก.ค่ายมวย ส.คิงสตาร์ แต่ตัวอักษรหลุดเกือบหมด ส่วนด้านในเป็นพื้นที่โกดัง ที่มีเพียงเวทีมวยเก่า 2 เวที แแต่ก็เต็มไปด้วยซากเหล็ก และซากของอุปกรณ์ซ้อมมวยนั้นเอง
ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวน ได้มีมติแจ้งข้อหา 4 ข้อกล่าวหาต่อ สมรักษ์ คือ
1.ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากผู้ปกครอง
2.ร่วมกันพาบุคคลอายุต่ำกว่า 15 แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร
3.กระทำอนาจารกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยใช้กำลังประทุสร้าย
4.พยายามข่มขืนผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุสร้าย