สปสช. ร่วมสภาเภสัชกรรม เพิ่มบริการบัตรทอง เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ รับยาที่ร้านกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2565 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เภสัชกรเป็นหนึ่งในผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ ที่มีบทบาทในการร่วมดูแลและช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้ โดยเภสัชกรส่วนหนึ่งทำหน้าที่ประจำอยู่ในร้านยาที่กระจายอยู่ในชุมชนพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ด้วยระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสิทธิบัตรทอง 30 บาท ที่ครอบคลุมดูแลการรักษาพยาบาลคนไทย 48 ล้านคน และครอบคลุมบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคคนไทยทุกคนหรือทุกสิทธิการรักษาทั่วประเทศ
นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา สปสช.จึงให้ความสำคัญต่อความร่วมมือกับทุกวิชาชีพด้านสุขภาพ รวมถึงเภสัชกรร้านยา เพื่อให้ประชาชนผู้มีสิทธิได้รับบริการสิทธิประโยชน์บัตรทอง 30 บาท ได้อย่างสะดวก ทั่วถึง มีคุณภาพและมาตรฐานบริการ ตามบริบทของแต่ละวิชาชีพ
เลขาธิการ สปสช. กล่าวอีกว่า ร้านยาชุมชนอบอุ่น เป็นร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ข.ย.1) ที่ร่วมเป็นหน่วยบริการที่รับส่งต่อเฉพาะด้านเวชกรรมในระบบบัตรทอง 30 บาท ตามมาตรา 3 พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ตามที่บอร์ด สปสช. มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2562 และในปีงบประมาณ 2566 สปสช.ได้ร่วมกับสภาเภสัชกรรมขยายการให้บริการบัตรทอง 30 บาท ที่ร้านยาชุมชนอบอุ่นเพิ่มเติม โดยเพิ่มบริการเภสัชกรรมปฐมภูมิเพื่อดูแลประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท ในกรณีที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย (Common Illness)
นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า บริการเภสัชกรรมปฐมภูมินี้ จะครอบคลุมการดูแลภาวะเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการที่เป็นไปตามแนวทางและมาตรฐานการให้บริการเภสัชกรรมปฐมภูมิ โดยสภาเภสัชกรรม ได้แก่ 1.อาการปวดหัว 2.เวียนหัว 3.ปวดข้อ 4.เจ็บกล้ามเนื้อ 5.ไข้ 6.ไอ 7.เจ็บคอ 8.ปวดท้อง 9.ท้องเสีย 10.ท้องผูก ถ่ายปัสสาวะขัด 11.ปัสสาวะลำบาก 12.ปัสสาวะเจ็บ 13.ตกขาวผิดปกติ 14.อาการทางผิวหนัง ผื่น คัน บาดแผล 15.ความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตา และ 16.ความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับหู พร้อมติดตามอาการหลังรับยา 3 วัน ซึ่งประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เนื่องจาก สปสช. ได้สนับสนุนการจ่ายชดเชยให้ร้านยา ทั้งค่าบริการให้คำปรึกษาด้านเภสัชกรรม ค่ายาและเวชภัณฑ์ และค่าติดตามอาการและผลการดูแล โดยเหมาจ่ายในอัตรา 180 บาทต่อครั้ง
นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า คาดว่าระบบจะมีความพร้อมและให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ พร้อมกันทั่วประเทศ โดย สปสช.จะประกาศและแจ้งให้ทราบอีกครั้ง โดยร้านยาชุมชนอบอุ่นที่ร่วมให้บริการ จะต้องผ่านการอบรมและควบคุมโดยสภาเภสัชกรรม ซึ่งขณะนี้มีจำนวนกว่า 500 แห่งแล้ว
สำหรับขั้นตอนการเข้ารับบริการ มีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ 1.คนไข้ติดต่อไปยัง สปสช. ผ่านสายด่วน สปสช. 1330 จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำให้รับบริการที่ร้านยาชุมชนอบอุ่นใกล้บ้าน หรือ 2.ดูรายชื่อร้านยาใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ สปสช. www.nhso.go.th หรือสังเกตสติกเกอร์ติดหน้าร้านยา ภายใต้ชื่อ ร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการเจ็บป่วยเล็กน้อย
หลังจากนั้นเมื่อผู้ป่วยมาที่ร้านยา เภสัชกรจะคัดกรองสิทธิคนไข้ว่าจะสามารถรับบริการตามสิทธิบัตรทองได้หรือไม่ หากมีสิทธิก็รับการดูแลโดยเภสัชกร ซึ่งจะให้คำแนะนำและให้ยารักษาตามอาการ หรือแนะนำให้พบแพทย์ในกรณีที่มีอาการที่ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์
“กรณีที่รับยาจากร้านยาแล้ว เภสัชกรจะติดตามอาการของผู้ป่วยในวันที่ 3 ของการจ่ายยา หากอาการดีขึ้นก็จะสิ้นสุดการดูแล กรณีอาการแย่ลงหรือมีการเปลี่ยนแปลงก็จะมีระบบการจัดการเพื่อส่งต่อเข้าสู่การรักษาต่อไป”
เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า ด้วยบริการนี้ เชื่อมั่นว่านอกจากจะลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการปฐมภูมิให้กับประชาชนในกรณีที่เจ็บป่วยเล็กน้อยแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสะดวกการเข้ารับบริการแบบใกล้บ้านใกล้ใจ ขณะเดียวกันยังช่วยลดความแออัดการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาล นับเป็นอีกนวัตกรรมระบบบริการสุขภาพที่ สปสช. ได้พัฒนาโดยความร่วมมือจากสภาเภสัชกรรม